บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ดรุณีแรกแย้ม 2

“หรูเอ๋อร์มาแล้วรึ”

“คารวะท่านย่า หลานมารอเดินออกไปพร้อมท่านย่าเจ้าค่ะ” ผู้ใหญ่ในร่างเด็กสาวเอ่ยอย่างต้องการประจบ

ท่านปู่เป็นผู้ที่ยึดในหลักเกณฑ์และให้ความสำคัญกับขนบธรรมเนียมเป็นที่สุด ท่านย่าผู้เป็นภรรยาเองก็มีนิสัยเป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่ยกให้นางที่เป็นลูกภรรยาเอกได้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลจ้าว ทั้งๆ ที่นางคลอดออกมาทีหลังจ้าวจินมี่ตั้งสองชั่วยาม

ชาติก่อนจ้าวจินหรูสนิทสนมกับผู้เป็นย่าในระดับหนึ่ง เพราะท่านย่าเห็นความสำคัญของบุตรภรรยาเอกมากกว่าบุตรของฮูหยินรองหรืออนุจึงใส่ใจเอ็นดูนางกว่าลูกหลานคนอื่นๆ แม้ว่านางจะเป็นสตรีก็ตาม

ดังนั้นการที่ชาติก่อนจ้าวจินหรูต้องแต่งกับองค์ชายสี่ซ่งหลี่หมินก็เป็นเรื่องฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวเห็นดีเห็นงามด้วยและสนับสนุนส่งเสริมอย่างที่สุด

หลานสาวคนโตได้แต่งเป็นพระชายาเอกขององค์ชายมีสิ่งใดไม่ดี?

หากบุตรีคนโตได้เป็นถึงพระชายา ลูกหลานคนอื่นๆ ที่เหลือมีหรือจะไม่ได้พึ่งพาบารมีนั้น ต่อให้จ้าวจินมี่เป็นเพียงลูกอนุ หากแต่นางมีบิดาที่เป็นถึงขุนนางชั้นสูง พี่สาวร่วมบิดาเป็นถึงพระชายา เช่นนี้แล้วการส่งเสริมให้นางได้แต่งเป็นภรรยาเอกของขุนนางระดับกลางขึ้นไปสักคนมีสิ่งใดที่ยากเกินกว่าจะเป็นไปได้เล่า?

อันว่าความเอ็นดูของผู้เป็นใหญ่นั้นช่างเป็นดาบสองคม

ต่อให้ในใจจะรู้ดีอย่างนั้น ทว่าความสนิทสนมโปรดปรานจากฮูหยินเฒ่าเป็นสิ่งที่จ้าวจินหรูในชาตินี้ต้องการจะรักษาไว้ แต่ในขณะเดียวกันใจหนึ่งนางก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นสักเท่าใดนัก ด้วยเพราะมันจะทำให้นางหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับบุรุษผู้นั้นไม่ได้

ซ่งหลี่หมินน่ารังเกียจและน่าขยะแขยงเกินไป มีวาสนาร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขาเพียงชาติเดียวก็นับว่ามากพอแล้ว

...อันที่สิ่งหนึ่งที่นอกเหนือการทำการค้าและใช้ชีวิตอย่างอิสระแล้ว จ้าวจินหรูก็อยากที่จะ...ฝักใฝ่มัวเมาในกามรมณ์ดูสักครั้ง

เอาแบบชนิดที่ว่าสามวันเปลี่ยนหนึ่งคนไปเลยยิ่งดี!

ไหนๆ ก็เกิดตายมาสองแล้ว อีกทั้งในชาติที่ได้ไปอยู่ในโลกใบใหม่ที่ทุกสิ่งรอบกายเปลี่ยนแปลงไป ความคิดและการดำเนินชีวิตมีอิสระมากขึ้น

ฉะนั้นแล้ว...การมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางร่างกายกับบุรุษมากหน้าก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องผิด ในเมื่อการอาศัยเรือนร่างหาเลี้ยงปากท้องนั้นเป็นสิ่งที่มาแต่โบร่ำโบราณ

ทว่า...นั่นก็เป็นเพียงความคิดอันเพ้อเจ้อของจ้าวจินหรูเท่านั้น

นางเกิดตายมาสองชาติ การที่จะมีความคิดอยากใช้ชีวิตแบบเรื่อยเปื่อยไม่สนใจศีลธรรมหรือความเหมาะสมเป็นสิ่งที่นางคิดขึ้นมาได้เพราะความรู้สึกเบื่อหน่ายจากการต้องมีชีวิตอยู่มากเกินกว่าคนทั่วไป อีกทั้งความทรงจำสองชาติภพก็ยังไม่เลือนหาย หากนางจะมีความพิลึกกว่าคนทั่วไปบ้างนั่นย่อมไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

ใครบ้างอยากจะใช้ชีวิตแบบเดิมซ้ำๆ จำเจทุกวัน?

คงจะกระมัง แต่ก็คงน้อยเต็มที

หญิงสาวไม่รู้ว่าเมื่อนางย้อนเวลากลับมาแล้ว เหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อชาติก่อนหน้านั้นจะเกิดขึ้นเหมือนที่เคยเกิดหรือไม่ นางต้องการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้ต้องการยุ่งเกี่ยวกับชะตาชีวิตของใคร

และสำหรับสตรีชราตรงหน้า...นางก็อยากให้อีกฝ่ายมีชีวิตต่อไปให้ยืนยาวที่สุด

“เป็นเด็กดีจริงๆ เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” คนเป็นย่าว่าแล้วก็วางมือตนเองลงบนมือเล็กของหลานสาวคนโต

ครั้นเห็นว่าคนที่เดินประคองท่านย่ามาคือจ้าวจินหรู คนที่แต่งตัวมายืนรออยู่ที่หน้าประตูใหญ่ก่อนแล้วอย่างจ้าวจินมี่ก็รู้สึกถึงความผิดหวัง

ทั้งๆ ที่นางให้สาวใช้ไปสืบมาแล้วแท้ๆ ว่าตอนที่นางแต่งตัวเสร็จแล้วนั้นจ้าวจินหรูเพิ่งจะตื่นนอนซึ่งกว่าที่อีกฝ่ายจะแต่งตัวเสร็จก็คงใช้เวลาอีกหลายเค่อ ถึงยามนั้นท่านย่าที่เตรียมตัวเสร็จแล้วก็ต้องมาเสียเวลารอหลานสาวคนโตแต่งตัว

เช่นนี้แล้วจ้าวจินหรูจะยังเป็นหลานสาวคนโปรดอยู่ได้อย่างไร?

ทว่า...สุดท้ายแล้วความปรารถนาของจ้าวจินมี่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ยิ่งไปกว่านั้นคือดูแล้วจ้าวจินหรูยังอาจจะได้รับความเมตตาเอ็นดูจากท่านย่ามากขึ้นอีกด้วย

รถม้าเคลื่อนตัวออกมาจากตระกูลจ้าวได้ราวครึ่งชั่วยามก็จอดสนิท จ้าวจินหรูขยับกายลงจากรถม้าก่อนจะหมุนกายกลับมาประคองฮูหยินผู้เฒ่าลงตามมาอย่างระมัดระวังและจ้าวจินมี่ที่ลงมาเป็นคนสุดท้ายโดยมีสาวใช้ของท่านย่าอีกคนช่วย

“ไป เข้าไปข้างในกันเถอะ” หญิงชราเอ่ยก่อนจะเดินช้าๆ นำหน้าไปโดยไม่ให้ผู้ใดประคองอีก

จ้าวจินหรูเดินตามหลังไปไม่ห่างแต่ก็เว้นระยะไว้อย่างพอดี ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวคนนี้ครอบครัวฝั่งท่านปู่ของนางเคยเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ยามนี้แผ่นดินถูกผลัดเปลี่ยนมาหลายสิบปีแม้จะไม่นับว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ทว่าความเย่อหยิ่งถือตัวในสายเลือดอันสูงส่งนั้นก็ยังปรากฏออกมาให้เห็นอยู่

สตรีต่างวัยทั้งสามเดินเข้าไปยังศาลาใหญ่เพื่อกราบไหว้พระ ทั้งยังได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับท่านเจ้าอาวาสอยู่ครู่ใหญ่ โดยที่พวกเขาต่างก็ไม่รู้เลยว่ายามนี้ตนเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่นอยู่

นับตั้งแต่พวกนางทั้งสามลงจากรถม้าที่มีตราสัญลักษณ์ของตระกูลจ้าว พวกนางก็ตกเป็นที่สนใจของผู้คนแล้วถึงสองกลุ่ม

แน่นอนว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่ให้ความสนใจไปที่ดรุณีน้อยทั้งสองนางที่เดินตามหญิงชราผู้เป็นย่า ทว่าเจตนาของพวกเขาทั้งสองกลุ่มกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“กราบทูลองค์ชาย คุณหนูรองให้สาวใช้นำสิ่งนี้มามอบให้พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์คนสนิทว่าก่อนจะยื่นกระดาษชิ้นเล็กให้

ซ่งหลี่หมินรับกระดาษชิ้นนั้นมาก่อนจะกดยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “ไปบอกสาวใช้คนนั้นว่าให้ไปรายงานเจ้านายของตนว่าน้ำตกด้านหลังศาลาใหญ่ของอารามก้วนกงงดงามนัก”

“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel