บทที่ 7 พ่อค้านักเดินทาง 1
บทที่ 7 พ่อค้านักเดินทาง
“คนของเราบอกว่าพวกเขาเป็นครอบครัวขุนนางตระกูลจ้าวจริงขอรับ ฮูหยินใหญ่ของจวนก็มีนามว่าเจียงฮุ่ยอิน ผู้ที่มาน่าจะเป็นฮูหยินผู้เฒ่ากับบุตรสาวคนโตและคนรองของจ้าวหานรั่วไม่ผิดแน่”
คนฟังพยักหน้ารับครั้งหนึ่ง ใบหน้าคมคายภายใต้หนวดเครารุงรังเรียบนิ่งอย่างไร้อารมณ์ กระทั่งคนที่มาด้วยกันยังคาดเดาไม่ออกว่าเวลานี้ผู้เป็นนายของตนเองมีความรู้สึกนึกคิดเช่นไรเมื่อได้รับรู้เรื่องดังกล่าวนั้น
ย้อนกลับไปสี่ห้าเดือนก่อนหน้า ผู้เป็นนายของเขาได้รับตำแหน่งให้เป็นผู้สืบทอดกิจการแต่ด้วยความที่ผู้เป็นนายเพิ่งอายุครบสิบเก้าปีได้ไม่นาน การได้รับมอบอำนาจทั้งๆ ที่ยังครองตนเป็นโสดจึงจัดว่าเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ของเหล่าหมาป่าอย่างยิ่ง
ดังนั้นเพื่อความสงบสุขชั่วครั้งคราว ผู้เป็นนายจึงได้กระทำการบางอย่างที่คล้ายจะบ้าบิ่นไปสักเล็กน้อย นั่นคือการประกาศว่าตนเองนั้นมีคู่หมายอยู่แล้วตั้งแต่อายุได้ห้าขวบ
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้เป็นนายเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนที่แคว้นเหยียนหลง ดั้นด้นมาจนถึงแคว้นเทียนซีแห่งนี้เพื่อตามหาคู่หมั้นคนนั้น
แต่มันจะไปมีได้อย่างไรในเมื่อสตรีผู้เป็นคู่หมั้นผู้นั้นไม่ได้มีอยู่ตั้งแต่แรก
ทว่า...เรื่องบังเอิญก็ได้เกิดขึ้น เมื่ออยู่ๆ ผู้เป็นนายก็นึกถึงคำพูดของท่านน้าคนงามในวัยเยาว์ของตนเองขึ้นมาได้...
“น้ามีพี่สาวอยู่ที่แคว้นเทียนซี ชื่อฮุ่ยอินนางแต่งงานกับขุนนางผู้หนึ่งในเมืองหลวง หากทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วน้าจะพาเจ้าไปเที่ยวที่นั่น”
“ขอรับท่านน้า ข้าอยากไปเที่ยวที่แคว้นเทียนซี”
เพื่อเยื้อเวลาแต่งงานของตนเองออกไป ผู้เป็นนายจึงได้อาศัยความทรงจำอันเลือนรางในวัยเด็กนั้นมาเป็นทางรอด แต่ใครเล่าจะคิดว่าสตรีผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับท่านน้าคนงามเมื่อหลายสิบปีก่อนนั้นของผู้เป็นนายจะมีตัวตนอยู่จริงๆ
“ไม่น่าเชื่อนะขอรับ ว่าคนคนหนึ่งจะมีรูปลักษณ์หน้าตาเหมือนกันได้ขนาดนี้” จิ้นฝานเอ่ยออกมาราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
คนเป็นนายได้ยินอย่างนั้นก็ทำเพียงพยักหน้ารับ เขาเก็บรูปวาดในมือก่อนยัดเข้าไปในอกเสื้อ ร่างสูงหันกลับไปมองสตรีวัยแรกแย้มผู้นั้นครู่หนึ่งก่อนที่จะหันหน้ากลับมาหาคนสนิทของตน
“เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ว่าปีนี้นางเพิ่งจะครบสิบสี่?” เอ่ยถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ทั้งที่จริงก่อนหน้านี้คนสนิทก็ได้รายงานประวัติคร่าวๆ ของสตรีแน่งน้อยผู้นั้นให้เขารู้แล้ว
“ขอรับนายท่าน จากการสอบถามผู้คนในเมืองนี้ทุกเสียงล้วนตอบเป็นคำตอบเดียวกันคือทายาทสตรีสกุลจ้าวล้วนอายุสิบสี่ปีทั้งคู่ขอรับ”
“อืม” เช่นนั้นก็ดี อย่างน้อยๆ ก็มีเวลาอีกราวๆ หนึ่งปี “ไปสั่งให้ทุกคนเตรียมตัว ข้าจะกลับเหนิงอัน”
“ขอรับนายท่าน”
จิ้นฝานรับคำก่อนหมุนตัวจากไปทำตามคำสั่ง ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหลังจากนั้นคารวานของพ่อค้าต่างเมืองก็เตรียมพร้อมแล้วสำหรับเดินทางไกลเพื่อกลับไปยังถิ่นฐานของตนเองที่ตั้งอยู่ทางใต้ของดินแดนแห่งนี้
“จวี้ตัน นั่นใช่ขบวนขายสินค้าจากต่างเมืองหรือไม่?” จ้าวจินหรูถามพร้อมกับชะโงกคอมองไปยังขบวนสินค้าดังกล่าว
“น่าจะใช่นะเจ้าคะคุณหนู บ่าวได้ยินพระลูกวัดพูดคุยกันว่าเป็นขบวนสินค้าที่มาจากแดนใต้เจ้าค่ะ”
“ขบวนสินค้าจากแดนใต้หรือ?” จ้าวจินหรูเอ่ยถามด้วยความสนอกสนใจ
...ขึ้นชื่อว่ามาจากทางใต้ย่อมติดทะเลหรือมหาสมุทรมิใช่หรือ? เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะเอาหมึกแห้งมาขายด้วยหรือไม่นะ?
คิดถึงหมึกแห้งย่างหอมๆ ในงานวัดจริงๆ
“ไปดูกัน ข้าอยากรู้ว่าพวกเขาขายอะไร”
“อะ! คะ...คุณหนู”
พูดจบจ้าวจินหรูก็สับเท้าเดินเร็วๆ ออกไปที่บริเวณด้านหน้าอารามที่มีขบวนสินค้าจอดอยู่พอดี แต่พอไปถึงเด็กสาวกลับไปไม่พบว่าพวกเขาตั้งแผงขายของ ตรงกันข้ามพวกเขากับคล้ายว่าเตรียมตัวจะออกเดินทางกันแล้วอย่างไรอย่างนั้น
“ขออภัยที่รบกวน ข้าขอสอบถาม พวกท่านกำลังจะเดินทางออกจากเมืองหลวงกันแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
“...” จิ้นฝานนิ่งไป เขาคือคนที่เด็กสาวเอ่ยถามเพราะยืนอยู่ใกล้ประตูทางเข้าออกอารามที่สุด และเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเดินมาพูดคุยด้วย อีกทั้งคนผู้นั้นยังเป็น...เป็นดรุณีน้อยที่ผู้เป็นนายของเขาหมายตาเอาไว้แล้วอีกด้วย
“คะ...คะ คือว่า”
“ขออภัยแม่นางน้อย ขบวนเดินทางของพวกเรากำลังจะออกจากเมืองเปี้ยนซีแล้วจริงๆ” ใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตอนแรกเขาไปหลบอยู่ที่ใดเอ่ยขึ้นตอบ
จ้าวจินหรูเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ของผู้มาใหม่ด้วยความตื่นตะลึงเล็กน้อย บุรุษร่างสูงในอาภรณ์ต่างถิ่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยหนวดและเคราที่ยาวจนส่วนปลายของเครานั้นน่าจะยาวถึงหน้าอกได้ของเจ้าตัวได้
จวี้ตันที่ยืนอยู่ด้านหลังของนางสะกิดแขนเบาๆ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงจะหวาดกลัวรูปลักษณ์ของชายร่างสูงคนนี้ ความจริงแล้วหากว่าจ้าวจินหรูมิใช่อดีตฮองเฮาที่เคยปกครองวังหลัง มิใช่อดีตนักฆ่าในคราบนักมวยหญิงแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด หากนางยังเป็นเพียงเด็กสาวจ้าวจินหรูผู้อ่อนต่อโลกผู้นั้น...นางก็คงจะรู้สึกหวาดกลัวต่อรูปลักษณ์ภายนอกของบุรุษผู้นี้อยู่เหมือนกัน
แต่ขออภัยเถอะ หากจะตบตาจ้าวจินหรูคนนี้ต้องแนบเนียนกว่านี้สักร้อยเท่า รวดเร็วกว่านี้สักพันปี
“แม่นางมีสิ่งใดหรือ?”