ตอนที่ 2 ตามหาขโมย
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะสั่งให้คนของเราติดตามไปทันที”
“เรื่องในวันนี้ต้องไม่มีคนรู้ มีเพียงคนตายเท่านั้นที่ไม่พูด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
จวนเสนาบดีหง
“รอดแล้วๆๆ”
“คุณหนู รอด้วยเจ้าค่ะ แฮ่ก แฮ่ก”
“โอย ซวยอะไรเช่นนี้ ละครก็ไม่ได้ดูแถมยังหลุดเข้าไปในห้องนั้นก็เกือบถูกฆ่าตายแล้ว”
“คุณหนู…ท่าน…ไป…หลบ..ที่ใดมา..เจ้าคะ”
“อาชิง ไปพักก่อน เดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟัง”
จอกชาที่กำลังจะยกดื่มค้างเอาไว้เพียงครึ่งเดียวก่อนจะวางลงอย่างรู้สึกหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด
“เจ้าว่าอะไรนะ พวกมันเข้าไปที่จวนเสนาบดีหงงั้นหรือ”
“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง ไม่ผิดแน่ พวกกระหม่อมตามพวกมันเข้าไป พวกมันเข้าทางประตูหลังของจวนพ่ะย่ะค่ะ”
“หวังเจา!!”
“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”
“ไปจวนเสนาบดีหงกับข้าเดี๋ยวนี้!!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
จวนเสนาบดีหง
“หงเหนียงคารวะท่านอ๋องเพคะ”
“ฮูหยินหง ท่านเสนาบดีไม่อยู่จวนหรือ”
“ทูลท่านอ๋อง วันนี้ท่านเสนาบดีมีประชุมกับขุนนางที่กรมเพคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องเสด็จมาเร่งด่วน ต้องการพบท่านเสนาบดีหรือเจ้าคะ”
“อ้อ เปล่าหรอก พอดีว่าวันนี้ข้ามีธุระที่หอสุ่ยเซียนและพบขโมย ตามพวกมันมาแต่คนของข้ากลับบอกว่ามันเข้ามาทางจวนของท่านก็เลยอยากมาตรวจสอบ ไม่ทราบว่าฮูหยินจะลำบากใจหรือไม่หากว่าข้า..”
“ไม่เลยเพคะท่านอ๋อง ยินดีเพคะ อาเฟิ่ง เจ้าไปบอกให้ทุกคนในจวนออกมารับเสด็จท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนใช้ใหม่เก่าบ่าวไพร่สาวใช้เรือนใดก็เรียกออกมาให้หมด”
“เจ้าค่ะฮูหยิน”
“อะไรนะ เรียกไปที่ห้องโถงกลางเพื่ออะไร”
“เห็นบอกว่าท่านอ๋องเวยเสด็จมาเจ้าค่ะ ให้ไปทุกคน บ่าวไพร่คนสวนก็ไม่เว้นเจ้าค่ะ”
“ไปเถอะอาชิง ไปดูกัน”
หงลี่อินและอาชิงเดินไปที่ห้องโถงกลางตามที่ฮูหยินรองเรียก นางเห็นว่าบ่าวชุดแรกเดินสวนออกไปแล้ว เหลือเพียงแค่ไม่กี่คนที่ยังอยู่
“เอ่อ นี่หงซินมี่บุตรสาวหม่อมฉันกับท่านเสนาบดีเพคะท่านอ๋อง ซินมี่ ยกน้ำชาให้ท่านอ๋องเร็วๆเข้า”
“หงซินมี่คารวะท่านอ๋องเพคะ”
หงซินมี่เป็นสตรีที่งดงามกิริยามารยาทเรียบร้อยเป็นที่ภาคภูมิใจของฮูหยินหงเหนียง ในเมื่อท่านอ๋องเสด็จเยือนถึงจวน นางย่อมไม่พลาดโอกาสที่จะให้บุตรสาวมาปรนิบัติท่านอ๋องแน่นอน
“คุณหนูหง เงยหน้าขึ้นหน่อยเถิด”
“เพคะท่านอ๋อง”
หงซินมี่เงยหน้าขึ้นช้าๆ เวยห่าวหรานมองหน้านาง หญิงสาวทำหน้าเอียงอายและยิ้มออกมาเมื่อได้สบตาอ๋องหนุ่มตรงๆ
“ไม่ใช่”
“อะไรไม่ใช่หรือเพคะท่านอ๋อง”
“อ่อ นางมิใช่คนที่ข้าตามหา ไม่ใช่ขโมยน่ะ”
“อ้อๆ แน่นอนสิเพคะ ซินมี่ของหม่อมฉันไม่เคยออกจากจวนไปไหนหรอกเพคะไม่เหมือนกับ..”
“ท่านเรียกข้ามาด้วยเหตุใดฮูหยินรอง”
“เอ่อ คุณหนูใหญ่อย่าเสียมารยาท รีบคารวะท่านอ๋องเวยก่อน”
หงลี่อินมองหน้าหงเหนียงด้วยสายตาไม่พอใจ เมื่อครู่หงเหนียงเกือบจะว่าร้ายนางต่อหน้าผู้อื่นแล้วเมื่อนางหันไปคารวะผู้ที่หงเหนียงเรียกว่าท่านอ๋องอะไรนะ นางจำไม่ได้แล้ว
“หงลี่อินคารวะท่านอ๋อง”
“เงยหน้าขึ้น”
หงลี่อินจำเสียงเย็นๆนั้นได้ เหตุใดเขามาถึงที่นี่ มือของนางเริ่มสั่น ลี่อินค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆ ท่านอ๋องเองก็เพ่งมองนางเช่นกัน สายตาของลี่อินที่มองเขา ตาโตเหมือนลูกกวางนั้นทำเอาเขาตกใจเล็กน้อย เป็นเพราะนางอยู่ในชุดสตรีกระมัง แก้มใสเนียน ปากบางได้รูปนั้นทำเอาเขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องส่วนตัวก่อนหน้านั้น ลี่อินกะพริบตาเล็กน้อยด้วยความกลัว
“ท่านอ๋องเพคะ ว่าอย่างไรเจ้าคะ นี่ก็ครบหมดทุกคนแล้วเพคะ ใช่นางหรือไม่เพคะ ขโมยที่ท่านอ๋องตามหา”
“ขโมย เหตุใดถึงว่าข้าเป็นขโมย ฮูหยินรองท่านมีปัญหาอะไรกับข้า”
“ดูสิ กล้าลุกขึ้นทั้งๆที่ยังไม่มีคำสั่งท่านอ๋อง โอยข้าจะบ้าตาย แม่นมหลุน ไปเอาไม้เรียวมา”
“เจ้ากล้าหรือ”
“หุบปาก!!”
ท่านอ๋องตะโกนออกมา ทั้งห้องโถงเงียบกริบ ฮูหยินหงและซินมีสั่นด้วยความกลัวทันที แต่ลี่อินยังไม่ละสายตาโกรธที่มองหงเหลียง ท่านอ๋องเองก็สังเกตเห็นสายตาดุดันและเอาเรื่องของนางด้วยเช่นกัน นางแทบจะไม่ฟังเขาเลยด้วยซ้ำ
“ข้าคิดว่า ข้าเห็นคุณหนูที่หอสุ่ยเซียนวันนี้นะ”
หงเหลียงหันมาเอาเรื่องลี่อินทันที นานๆจะมีโอกาสเล่นงานนาง
“หงลี่อิน นี่เจ้าแอบออกไปดูละครอีกแล้วงั้นหรือ มิหนำซ้ำยังไปขโมยของท่านอ๋องอีก”
“ข้าบอกว่าข้าไม่ใช่ขโมย เจ้ามีหลักฐานอะไรมาหาว่าข้าเป็นขโมย ท่านน่ะ”
หงลี่อินหันไปชี้หน้าท่านอ๋องอย่างไม่นึกกลัว
“ของสิ่งใดของพระองค์หาย ถึงได้มากล่าวหาว่าหม่อมฉันขโมยมา”
“แม่นาง ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าเป็นขโมย ข้าบอกว่าข้าเหมือนว่าจะเจอเจ้าที่นั่นเพียงเท่านั้น”
“เจ้าแอบหนีเที่ยวอีกแล้ว กฎของจวน จับนาง”
“หยุดนะ ปล่อยข้านะ”
“เดี๋ยวก่อน ฮูหยินหง ท่านจะทำอะไร”
“ทูลท่านอ๋อง นี่เป็นกฎของจวน นางรู้ดีเพคะว่าหากทำผิดต้องได้รับโทษ จับแขนนางเอาไว้สิ”
“ปล่อยข้านะ หงเหลียงหากเจ้ากล้าทำข้า อย่าคิดว่าข้าจะ..”
“ซ่า…..”
“ช้าก่อน!!…”
น้ำเย็นจัดถูกเทลงรดศีรษะหงลี่อินที่พูดไม่ทันจบ นางสำลักน้ำเกือบจะหมดสติ ตอนนี้นางทั้งหนาวและสั่น แต่รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของสองแม่ลูกนั้นชัดเจน ท่านอ๋องตกใจเมื่อเห็นว่านางถูกลงโทษต่อหน้าเขาโดยที่ทั้งคู่ไม่ฟังเสียงท้วงติงจากเขาเลย
หงลี่อินสำลักและคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับหันมามองเขาด้วยสายตาอาฆาต ตาลูกกวางนั้นเริ่มมีน้ำตาคลอจนแดงก่ำด้วยความแค้นต่อเขาก่อนที่ร่างบางนั้นจะล้มหมดสติลงตรงหน้าเขา
“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู”
"ฮูหยินหง นี่เจ้ากล้าลงโทษคนต่อหน้าข้า เจ้าไม่กลัวความผิดงั้นหรือ"
“ท่านอ๋องโปรดอภัย ในเมื่อนางทำผิดก็ต้องลงโทษตามกฎของจวนเพคะ”
“จำเป็นต้องทำต่อหน้าข้าด้วยงั้นหรือ หลีกไป เจ้าน่ะ นำทางไปที่ห้องนางเดี๋ยวนี้”
เขาช้อนตัวหงลี่อินและเดินตามอาชิงไปส่งที่ห้องของลี่อิน ไม่นานจึงกลับมายังห้องโถง เพื่อจัดการกับฮูหยินที่ไร้มารยาทของหงเล่งจิน
“เรื่องนี้ข้าจะรายงานกับหงเล่งจิน เจ้าไม่มีสิทธิ์มาลงโทษผู้ใดต่อหน้าข้า เตรียมไม้มาโบยฮูหยินหงสิบไม้”
“ท่านอ๋องอภัยด้วยเพคะ หม่อมฉันเพียงทำตามกฎของจวนเท่านั้นเพคะ”
“ข้าเองก็ทำตามกฎของข้าเช่นกัน ข้าไม่อนุญาตให้ผู้ใดมาออกคำสั่งต่อหน้าและลงโทษใครต่อหน้าโดยมิได้ถามความเห็นข้า โบย!!”
“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ ให้อภัยด้วยเพคะ”
“ท่านแม่ ท่านอ๋องเพคะ โปรดอภัยให้แม่หม่อมฉันด้วยเพคะ ท่านแม่เพียงทำตามกฎ ไม่คิดว่าจะ..”
“คุณหนู เจ้าอยากรับโทษแทนนางหรือไม่ ในฐานะที่เจ้าเป็นบุตรกตัญญู ข้าเปลี่ยนให้ก็ได้นะ โบยเจ้าแทนดีไหม”
“ข้า…”
“หลีกไป โบย!!”
“ท่านแม่ ฮืออ ท่านแม่”
เมื่อครบสิบไม้ ฮูหยินหงก็คลานลงมาจากโต๊ะพาดทันทีและนอนหมอบคลานไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ท่านอ๋องมองพวกนางด้วยหางตา เขาไม่ชอบการกระทำที่เกินหน้าเขาแบบนี้ แต่นางก็ทำ
“วันนี้ข้าไม่พบผู้ต้องสงสัย คิดว่าคนของข้าน่าจะมองพลาดไป ขออภัยที่ทำให้เสียเวลา กลับ!!”