บทที่ 5 ร้อยปักษาตามวิหคหงส์ ธิดาเทพเกิดปัญญา
เขามองดวงตากลมโตของนาง
ดวงตาเป็นประกาย นัยน์ตาใสจนสะท้อนใบหน้าของเขา
ลูกตานางเป็นประการระยิบระยับส่องสว่าง เจือความร้อนแรงและโกรธเกรี้ยวไม่สิ้นสุด ไม่มีความหวั่นเกรงหรือรังเกียจเขาแม้แต่น้อย ต่างกับหญิงอื่นที่เขาเคยเจอโดยสิ้นเชิง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดกับคนอื่นขนาดนี้ และเป็นครั้งแรกที่เห็นตนอยู่ในดวงตาสตรีนางหนึ่ง
เขาหยุดมือพลันคลายจุดบนตัวนาง
หยุนฉือรู้สึกว่ากำลังฟื้นคืนทันที
แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงปล่อยนางไปในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้
ถุย!
ถึงขั้นนี้แล้วยังมาเวลาคับขันอะไรอีก!
ไม่ตายแบบทุเรศๆ ในตอนท้ายก็อมิตตาพุทธแล้ว!
เมื่อนั้นจู่ๆ ด้านล่างก็มีลมพัดวูบขึ้นมา ไม่รู้ว่าเป็นลมแปลกมาจากไหน สายลมควบแน่นทะยานขึ้น ราวกับมีดบินเชือดเฉือน
อันที่จริงช่วงเวลาที่ร่วงลงพื้นก็แค่ไม่กี่อึกใจเท่านั้น ไม่นานภาพเขียวเข้มแน่นขนัดที่อยู่ก้นหลุมยักษ์ก็สะท้อนเข้าม่านตาพวกเขา เบื้องล่างมีต้นไม้ขึ้นอยู่เนืองแน่น เขียวจนออกดำเป็นปื้น เป็นภาพที่หยุนฉือไม่เคยเห็นมาก่อน ยอดไม้ราวปลายพีระมิด ตั้งตระหง่านแหลมเปรียว เมื่อมองลงไปก็เหมือนป่าเข็มขนาดใหญ่
หากลงไปที่ยอดไม้พอดี พวกเขาคงถูกเสียบตายแน่
ตอนนี้แหละ!
หยุนฉือจับสายรัดเอวเขาไว้แน่น พริบตาเดียวก็ไต่ขึ้นบนตัวเขาแล้ว พลิกไปอยู่ด้านหลัง ใช้ข้อศอกและหัวเข่ากดแผ่นหลัง คิดให้เขาคว่ำหน้าตกเหว
หากเป็นเช่นนี้เขาต้องพยายามควบคุมการตกลงไปแน่น ไม่ว่าคว้าอะไรมาได้ก็ต้องพยายามใช้มัน ลดความเร็วในการดิ่งตัวลงได้บ้าง ส่วนนางที่อยู่ด้านหลังก็จะมีโอกาสรอดมากกว่า
นางไม่เคยเป็นคนธรรมะธัมโมอยู่แล้ว
หยุนฉือไม่เห็นนัยน์ตาดำทะมึนที่อยู่ส่วนลึกในดวงตาเขา
แม้จะรู้จุดมุ่งหมายของนางอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริง นางก็กล้าใช้เขาเป็นเบาะเนื้อตามที่คิด ใช้ชีวิตของเขาแลกกับชีวิตของนาง เขายังคงไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้า ช่าง กล้า นะ”
ริมฝีปากบางปล่อยคำพูดออกมาทีละคำ ครั้นแล้วเขาก็สะบัดแขนออกไป กำลังภายในอันแข็งแกร่งผละตัวหยุนฉือออก
หยุนฉือตกใจอยู่กลางอากาศ ยังไม่ทันได้สติเขาก็ยื่นมือออกมาจับคอเสื้อนาง แล้วเหวี่ยงนางอย่างกับกระสอบทราย พลิกตัวขึ้นไปอยู่บนหลัง
ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น
ในเมื่อไม่ถนอมหญิงสาว…
หยุนฉือกัดฟัน “ต่ำช้าไร้ยางอาย!”
“เช่นกันๆ”
ทั้งสองแนบติดกันแน่น ทั้งที่ดูแล้วใกล้ชิดกันมาก แต่ความจริงนั้นจิตสังหารกลับล้นทะลัก ต่างอยากดึงให้อีกฝ่ายมาเป็นเบาะ แลกกับโอกาสรอดของตัวเอง
หยุนฉืออดถอดถอนใจเป็นไม่ได้ จะรอดไหมเนี่ย! แต่การถูกชายงามแห่งยุคทับตายจะถือว่าได้เหมือนกันไหมเนี่ย?
ถุย!
ใครอยากดึงเขามาเป็นเบาะกัน! ศัตรูต่างหาก! จะหล่อยังไงก็ไม่มีประโยชน์!
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงระฆังจากไกลๆ และจู่ๆ ฝูงนกก็บินมา มีทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก ดำๆ ขาวๆ เทาแดงเหลืองเขียวอะไรก็มีหมด บินมุ่งมาทางพวกเขา
นกเหล่านี้เกาะกลุ่มเป็นฝูง ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว บินเข้ามาวนอยู่รอบตัวพวกเขาราวกับเส้นสายรุ้งร้อยปักษา
เมื่อนั้นเขาจึงฉุดหยุนฉือแล้วใช้ปลายเท้าแตะที่หลังนก ลอยขึ้นราวกับเหยี่ยว
ขอเพียงมีแรงเสริมน้อยนิด เขาก็สลัดจากการดิ่งตก ฉวยโอกาสรอด!
แม้เห็นว่าตนจะตกใส่ต้นไม้สีเขียวเข้มแล้ว แต่หยุนฉือก็ยังไม่ละโอกาสสุดท้าย ก่อนหน้านี้ตอนที่ฝูงนกบินอยู่รอบตัวนางได้คว้าขานกตัวใหญ่สองตัวไว้
“เทียนซือจือยีเคยทำนายไว้ ปรากฏการณ์ฟ้ามงคล ร้อยปักษาตามวิหคหงส์ ธิดาเทพเกิดปัญญา เจ้าก็คือธิดาเทพหยุนชูไต้สำนักเซียนฉีหรือ?” เสียงชายงามเคร่งเครียด