บทที่ 13 ของบรรณาการแด่มังกร
ตอนนี้เอง ณ ตำหนักเหมินจู่ นางหงที่เป็นฮูหยินกำลังจัดเสื้อผ้าให้สามีอยู่
ฉางผาว (*ชุดโบราณจีน) แพรแขนกว้างสีน้ำเงินลายเมฆทอง คาดด้วยสายรัดเอวสีทองลายฝู ศีรษะสวมกวาน (*เครื่องประดับศีรษะบางบอกยศศักดิ์) ไพลิน ผิวพรรณขาวสะอาด รูปงามดั่งเซียน และเขาก็คือหยุนเวิ่นซงเจ้าสำนักเซียนฉีนั่นเอง
เมื่อเห็นสามีสวมชุดเต็มยศ แม้อยู่กินมาเกือบยี่สิบปี แต่นางหงก็ยังมองจนเคลิบเคลิ้ม
เป็นเพราะทำบุญมาดีในชาติที่แล้ว นางถึงได้ออกเรือนกับบุรุษเช่นนี้! ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าสำนักที่มีฐานะสูงสุดในแผ่นดิน ทั้งยังมีโฉมหน้าหล่อเหลาไม่ธรรมดา แม้อายุสี่สิบสองแล้ว แต่ท่วงท่ายังสง่างามเหมือนอายุยี่สิบ
บุรุษเช่นนี้เป็นของนางเท่านั้น!
ลูกสาวของเขา ก็มีแต่นางที่ให้กำเนิดได้ หยุนฉือคนนั้นก็แค่ตัวแปร ดีว่านางส่งคนไปกำจัดเรียบร้อยแล้ว
แต่เมื่อนึกถึงลูกสาว นางหงก็ร้อนใจขึ้นมาอีก
“ท่านพี่ ท่านก็เห็นชูไต้แล้ว ตอนนี้นางก็เป็นปกติแล้ว แถมยังมีดวงฮองเฮา หน้าตาก็งดงามอ่อนโยน เป็นพระชายารัชทายาทได้สบายๆ! รีบๆ ยกเลิกการหมั้นหมายของนางกับอ๋องเจิ้นหลิงเถอะค่ะ”
หยุนเวิ่นซงขมวดคิ้วกล่าว “เรื่องหมั้นหมายกับอ๋องเจิ้นหลิงจะยกเลิกได้ง่ายๆ ได้ยังไง?”
“ถึงจะยากก็ต้องยกเลิก! ตอนนั้นพวกเราเพิ่งไปเมืองหลวงต้าจิ้นเป็นครั้งแรก ทำให้ชูไต้เจอกับอ๋องเจิ้นหลิงโดยบังเอิญ แต่ตอนนั้นพวกเราไม่รู้ว่าเขาไม่ใช่องค์ชายที่ฮ่องเต้ทรงโปรดนี่ แถมยังเป็นตัวโชคร้าย! ปีหน้าก็ต้องถูกส่งเข้าปากมังกรที่สุสานจักรพรรดิแล้ว ถึงตอนนั้นแม้แต่กระดูกก็ยังไม่เหลือ สงสารแต่ชูไต้ของพวกเราต้องเป็นหม้ายแต่ยังสาว! ท่านเป็นพ่อจะทำใจได้หรือ? อีกอย่าง ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องเป็นหม้าย กลัวแต่ฝ่าบาทจะให้นางเข้าสุสานจักรพรรดิเลี้ยงมังกรพร้อมอ๋องเจิ้นหลิงด้วยนี่สิ! หรือว่าท่านเห็นลูกสาวเราไปตายต่อหน้าต่อตาได้หรือ?”
“เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไร? ข้าจะเห็นลูกเราไปตายต่อหน้าต่อตาได้ยังไง?” หยุนเวิ่นซงเครียดจัด
นางหงใจชื้นขึ้นทันที “งั้นท่านพี่ก็รับปากยกเลิกการหมั้นหมายแล้วใช่ไหมคะ?”
“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่ยกเลิก แต่จะยกเลิกยังไงนี่สิปัญหา! ยังไงเขาก็เป็นองค์ชาย เป็นท่านอ๋อง”
นางหงเหลือกตาใส่ พูดอย่างไม่สนใจ “องค์ชาย ท่านอ๋องอะไรกัน แม่เขาก็เป็นหญิงชาวบ้านที่ถูกจับกลางตลาดเข้าวังบีบให้ถวายตัวกับฮ่องเต้...”
“หุบปาก!” หยุนเวิ่นซงโมโห ตวาดใส่นาง “บอกกี่ครั้งกี่หนแล้ว นั่นเป็นเรื่องของฝ่าบาท ถึงไม่ใช่ความลับอะไร แต่การนินทาเรื่องส่วนตัวพระองค์ต้องเป็นเรื่องเข้าสักวันแน่!”
เมื่อถูกเขาต่อว่ามาอย่างนี้ นางหงจึงเงียบปาก ไม่กล้าพูดเรื่องนี้อีก แต่คิดแล้วนางก็ยังพูดต่ออย่างไม่ตายใจ “ท่านพี่ เรื่องหมั้นหมายจะยกเลิกยากยังไง พวกเราก็ต้องยกเลิกนะคะ”
หยุนเวิ่นซงพูดแบบไม่สบอารมณ์ “ใครบอกว่าจะไม่ยกเลิก? เรื่องนี้ต้องยกเลิก แต่จะยกเลิกแบบดื้อๆ แบบนี้ไม่ได้! อีกหนึ่งปีกว่าอ๋องเจิ้นหลิงจะถูกส่งไปให้มังกร ก่อนที่เขาจะเป็นเครื่องบรรณาการให้มังกร ใครก็อย่าทำร้ายเขา เอาชีวิตเขาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น...หลายปีมานี้ทำไมทุกคนต่างหลบลี้เขาล่ะ? เกลียดเขาแต่กลับกลัวเขา? ถ้าทำให้เขาไม่พอใจจนเอาชีวิตเจ้าขึ้นมา ทำไมพอไปร้องเรียนต่อหน้าองค์ฮ่องเต้แล้ว พระองค์กลับแค่ลงโทษเล็กน้อยล่ะ! เป็นเพราะอะไร? ก็เพราะเขาเป็นเครื่องบรรณาการไง เป็นเครื่องบรรณาการหนึ่งเดียวของราชวงศ์ต้าจิ้น! ก่อนจะถึงวันนั้นต้องรักษาชีวิตเขาไว้! ถ้าพวกเรายกเลิกการหมั้นหมายดื้อๆ แบบนั้น เกิดเขาโมโหขึ้นมาเจ้าว่าฝ่าบาทจะปกป้องใคร? ”
นางหงฟังเขาพูดจนจบด้วยความตะลึง ทำความเข้าใจอยู่นานจึงพูด “งั้น...เราต้องหาทางอื่น จริงสิ ท่านพี่ เรื่องนี้มอบให้ข้าเป็นคนจัดการเถอะ!”
“เจ้า?”
“เชื่อข้าเถอะ ท่านพี่ เรื่องแบบนี้บางทีผู้หญิงก็จัดการได้ดีกว่าผู้ชายนะคะ! ท่านรีบไปทักทายแขกเถอะ ข้าจะไปจัดการก่อน!”
นางหงเดินเร็วจากไป ไม่นานหยุนเวิ่นซงก็ได้ยินนางเรียกสาวใช้คนสนิทสองสามคนตามนางออกไป
ดวงตาหยุนเวิ่นซงเป็นประกาย