บทที่ 12 นางถูกพิษอะไร
แต่เพราะอารมณ์โกรธเช่นนี้ จึงทำให้นางดูยั่วยวนพาให้หัวใจร้อนรุ่ม เมื่อดวงตาคู่นั้นจ้องมาก็ชักนำให้เขาเกิดอารมณ์ต่างๆ นานา ขณะที่นางพูด การที่ริมฝีปากนั้นขยับขึ้นแล้วปิดลงอย่างแผ่วเบาทำให้ลำคอเขาแห้งผาก
นี่มันผิดปกติมาก จี้ชางหลิงรู้ดีว่าเขาไม่ได้เกิดปฏิกิริยาขึ้นเพราะเสน่หาในตัวนางแน่นอน
มีคนมากมายส่งผู้หญิงมาให้เขา แต่กลับไม่อาจทำให้หัวใจเขาหวั่นไหวได้สักนิด เพื่อให้จิตใจมั่นคง เขาได้รับการฝึกฝนมามากมาย มีแต่ไม่ได้รับผลกระทบจากคนอื่นเท่านั้นถึงสามารถคงความสงบได้ และถึงระวังตัวได้ตลอดเวลา
ทว่านางผู้นี้กลับยั่วยุความต้องการบุรุษได้อย่างง่ายดาย นี่มันแปลกเกินไปแล้ว อันตรายมาก
เขาควรปลิดชีวิตนางจริงๆ
จี้ชางหลิงทำหน้าเครียด พบว่าร่างพวกเขาทั้งสองลงสู่พื้นแล้ว ลมคลั่งนั้นก็มลายหายไปแล้วเหมือนกัน เขาดึงหยุนฉือให้ลงพื้น แต่ยังไม่ทันได้ยืนดีก็ได้ยินเสียงแหบแห้งหนึ่งดังมา
“แคกๆๆ รอมาหลายปี ในที่สุดก็มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนข้าแล้ว”
เสียงนี้มาอย่างกะทันหัน ทำเอาหยุนฉือตกใจหลุดปากพูด “ไม่ใช่ตัวนี่!” แต่เป็นคน!
“เจ้าสิไม่ใช่ตัว พวกเจ้าไม่ใช่ตัว!”
เสียงแหบนั้นแฝงความโกรธ พูดเถียงขึ้นทันควัน
จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเสียดสีสยดสยอง ในถ้ำลึกมืดเย็นนี้ ขนาดเสียงเสียดสีก็ยังมีเสียงก้องชวนให้ขนลุก
ถ้ำแห่งนี้ต้องใหญ่และลึกกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้แน่นอน
เพียงแต่...หยุนฉือไม่ชอบอยู่ในความมืด มองไม่เห็นสิ่งใด ทั้งสัมผัสอื่นนางก็ดีมาก ดังนั้นความรู้สึกแย่ๆ ทั้งหมดจึงถูกขยายมากขึ้น
หากอสงไขยนางอยู่ก็ดีสิ
และในตอนนี้เอง กำลังของนางก็ราวกับถูกสูบออกไปจนหมด ขาทั้งสองอ่อนพับ ร่างกายไถลลงสู่พื้น หยุนฉือตกใจอย่างหนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!
นางถูกพิษอะไร? คิดๆ ดูแล้วเมื่อคืนร่างผ่ายผอมนี้ไม่รู้ดูดซับอะไรเข้าไป ก็ตอนนี้เอง สมองเขานางก็ปรากฏเศษเสี้ยวความทรงจำมานิดหนึ่ง นางวิ่งอยู่ท่ามกลางดอกไม้ มีคนตามไล่นาง แล้วยังยิ้มร้ายพูดว่าดอกหมีเถียนเยอะขนาดนี้ พอให้นางได้...
พอรู้สึกถึงความผิดปกติของนาง มือที่มีกำลังหนึ่งก็โอบเอวประคองนางไว้
หยุนฉือรีบไต่ขึ้นบนตัวเขา
ไม่ว่าเขาจะช่วยนางไว้ด้วยสาเหตุอะไร ตอนนี้นางไม่มีใจคาดเดาทั้งนั้น เพราะนางได้แต่อาศัยเขา! ใครไปรู้ว่าร่างกายของนางจะเพิ่งมามีปัญหาเอาตอนนี้เล่า! ทั้งที่เมื่อครู่นอกจากรู้สึกอ่อนเพลียแล้วก็ปกติดี
“นี่ ดอกหมีเถียนคืออะไร?” ลมหายใจนางเริ่มหนักขึ้น
จี้ชางหลิงไม่เอ่ยปาก แต่เสียงแหบแห้งนั้นกลับดังขึ้นมา แล้วยังเข้าใกล้พวกเขามากกว่าเดิมมาก
“แคกๆ ดอกหมีเถียน ของดีนี่ ดอกสวย พิษก็ร้าย หากเด็ดดอกหนึ่งมอบให้สาวงาม นางก็จะไร้กำลังสุดแต่ใจเจ้าจะกระทำ”
ยาแฝด?
“ไม่ตายหรอก” น้ำเสียงจี้ชางหลิงเย็นชาเล็กน้อย ทั้งยังเจือความหงุดหงิดอยู่หน่อยหนึ่ง แต่อย่างน้อยมือที่โอบเอวนางก็ไม่ผ่อนแรง
ว่าตามจริง ด้วยนิสัยอารมณ์แปรปรวนแบบนี้ หยุนฉือยังต้องระวังว่าจู่ๆ เขาจะจับนางโยนออกไป ดังนั้นมือของนางจึงฉุดสายรัดเอวอีกฝ่ายแน่น
“ปล่อยมือ” เมื่อเขารู้สึกได้ถึงการกระทำของนางแล้วก็โมโห
“ไม่ ไม่เอา” แค่นางกล่าวออกไปสองคำก็รู้สึกว่าพลังงานในตัวหายไปมาก
บ้าจริง! นางต้องขับฤทธิ์ดอกหมีเถียนออกไปก่อน แต่ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยภยันตรายไม่อาจคาดเดา แถมชายที่อยู่ในความมืดคนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ไอ้คนที่อยู่ข้างๆ ก็ไว้ใจไม่ได้ แล้วนางจะกล้าใช้พลังยั่วยวนขจัดพิษได้ยังไง? ถ้าใช้พลังนี้กับไอ้หัวเขียว ประเดี๋ยวเขาอยากเอาชีวิตขึ้นมาอีกได้แย่แน่