บทที่ 11 ไอ้แมลงวันหัวเขียว!
อ๋องเจิ้นหลิงเหลือบมองนางอย่างเย็นชา “พูดจบแล้ว?”
“พูดจบ...” บ้านเจ้าสิ!
หยุนฉือยังไม่ทันพูดจบ เขาก็จับตัวนางแล้วโยนเข้าไปในถ้ำประหลาดแล้ว ง่ายดายราวกับโยนกระสอบทราย
หยุนฉือมองถ้ำมืดนี้กำลังกลืนตัวเองเข้าไปกับตา เมื่อนั้นนางจึงพูดเสียงกร้าว “ถ้าข้าตายอยู่ในนี้ ต่อให้ตายเป็นผีร้ายก็จะไม่ปล่อยท่าน!”
ครั้นแล้วเสียงเรียบของเขาก็ดังขึ้น
“ข้าจี้ชางหลิง อยู่ที่จวนอ๋องเจิ้นหลิง ตำบลซีหนันในเมืองหลวง ถึงตอนนั้นเจ้าก็หาให้เจอล่ะ”
จี้ชางหลิง?
หยุนฉือชะงัก ก่นด่าออกไป “ท่านมันแมลงวันหัวเขียว (*ภาษาจีนคือ ‘จินชางอิง’ มีเสียงคล้ายชื่อของจี้ชางหลิง) โรคจิต!”
จี้ชางหลิง?
แมลงวันหัวเขียว?
ขอบตาด้านล่างของอ๋องเจิ้นหลิงมีไฟลุกโชน กำหมัดแน่น นางคนนี้... เขาน่าจะบีบให้ตาย บีบให้ตายไปซะ!
ก็ตอนนี้เอง เขามองเข้าไปในถ้ำ แต่กลับไม่รู้สึกถึงตัวตนนางอีก!
แค่จี้ชางหลิงขยับตัวนิดเดียว เขาก็ไปปรากฏอยู่ที่ปากถ้ำแล้ว
เมื่อยืนอยู่ตรงนี้ เขาถึงรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกอย่างหนึ่ง
สายลมด้านในพักกระโชกราวกับกับทะลุทะลวงทุกจุด เสียงสะท้อนอื้ออึงและเหมือนกว้างมาก
แต่เขาไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าใดๆ และไม่ได้ยินเสียงลมหายใจของนางด้วย เมื่อนางผู้นั้นเข้าไปแล้วก็อันตรธานหายไปเหมือนกับหยดน้ำที่กลืนเข้ากับแม่น้ำมหาสมุทร
ที่จริงเขาไม่ควรเข้าไปในที่เย็นยะเยือกเช่นนี้
แต่ถ้ำนี้ประหลาดนัก บางทีข้างในอาจมีสิ่งที่เขากำลังตามหาอยู่ก็ได้ และเพราะอย่างนี้เขาถึงโยนหยุนฉือเข้าไป หากนางค้นพบจริง ก็ถือเป็นการช่วยเขา ค่อยสมกับที่เขาไว้ชีวิตนางหน่อย
นางผู้นี้มีความกล้าเหนือผู้คน แม้ไม่มีกำลังภายในแต่ฝีมือก็ร้ายกาจและฉลาดมากด้วย ใครจะรู้เล่า ว่าพอเข้าไปก็หายตัวไร้ร่องรอยแบบนี้
“ได้ยินเสียงข้าไหม? ตอบด้วย”
ไร้เสียงตอบกลับ
“ถ้าเจ้าส่งเสียงตอนนี้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”
ไร้เสียงตอบกลับ
จี้ชางหลิงขมวดคิ้ว คิดว่านางคงไม่ได้จงใจซ่อนตัว เพราะนางไม่มีกำลังภายใน ลมหายใจคนปกติแรงกว่าผู้ฝึกยุทธ์ เขาต้องได้ยินแน่
เช่นนั้น...ต้องเกิดเรื่องแน่
จี้ชางหลิงมองเข้าไปในถ้ำครู่หนึ่ง แต่ทันใดนั้นด้านหลังก็มีลมหมุนพัดเข้ามาแบบเงียบๆ อีก ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ครั้งนี้ท่าทางมุทะลุดุเดือด หอบเอาใบไม้มามากมายและกำลังเข้ากระแทกปากถ้ำนี้อีกครั้ง
นัยน์ตาเขาแวบแสง จากนั้นก็เหาะเข้าไปทันที
เมื่อเข้าไปแล้วเขาก็รู้สึกแปลกๆ แต่พอหันหลังกลับได้พบหญิงที่เขานึกว่าประสบเคราะห์ร้ายไปแล้ว นางกำลังยืนติดอยู่บริเวณปากถ้ำ เนื้อตัวราวกับหลวมรวมเข้ากับความมืด เหมือนหุ่นไม้ไร้ชีวิตตัวหนึ่ง นิ่งเฉย ไม่ได้ยินเสียงลมหายใจแม้แต่น้อย
หากไม่ใช่เพราะเขามีกำลังภายในกล้าแกร่งมองเห็นได้แม้ในที่มืด เขาต้องไม่เห็นนางแน่
จะว่านางตายแล้ว...แต่ดวงตาก็ยังมีแววประกายดุจดวงดาว และกำลังกะพริบตาให้เขาอยู่
จะว่านางยังไม่ตาย...แล้วทำไมถึงมีคนไร้ลมหายใจอยู่ตรงหน้าเขาได้?
“ข้าอยาก...” ขยี้เจ้าให้ตายนัก!
จี้ชางหลิงยังไม่ทันพูดจบ ด้านนอกก็มีเสียงดังสนั่น เป็นลมหมุนนั้นที่กระแทกเข้าอย่างแรง ใบไม้จำนวนมากถูกลมคลั่งกรอกเข้ามา ทะลักเข้ามาทางเขา และเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ
ที่กลางอากาศ จี้ชางหลิงเห็นแววตาหยุนฉือเหมือนจะหัวเสียอยู่หน่อยๆ จากนั้นก็เห็นนางกระโดดออกไป ทั้งยังหันหลังให้กับปากถ้ำกระโจนเข้าไปในกลุ่มใบไม้เหล่านั้น ด้วยเหตุนี้สิ่งที่ตามมาก็คือถูกลมบ้าคลั่งถาโถมใส่
จี้ชางหลิงวาดมือออกไปซัดใบไม้กลุ่มโตที่อยู่ด้านหน้า แล้วล้วงเอาหยุนฉือเข้าอ้อมอก
“เจ้า...”
“หุบปาก! ในนั้นมีตัวอะไรอยู่ พูดแล้วเดี๋ยวก็ปลุกมันตื่นหรอก!”
หยุนฉือโมกตาใส่เขาแบบไม่เกรงใจ