บทที่ 10 ลองใช้วิชามารอีกสิ!
เสียงลมกระพือดังมาจากข้างใน ราวกับด้านในกักขังมังกรจำนวนมากอยู่ และมังกรพวกนั้นก็กำลังอาละวาดเรียกลมฝนอยู่อย่างนั้น
ภายในถ้ำมืดสนิท ไม่เห็นอะไรเลย ได้ยินแต่เสียงแบบนี้ หยุนฉือรู้สึกว่าด้านในต้องมีเรื่องประหลาดที่อันตรายมากแน่
เมื่อนั้นนางก็อยากล่าถอย
รีบวิ่ง รีบหนี
ถึงในยุคปัจจุบันนางจะชอบผจญภัยมาก แต่ตอนนั้นอุปกรณ์ครบครัน! อย่าว่าแต่อย่างอื่นเลย ถ้าอสงไขยอยู่ในมือ แม้ไม่ถึงกับไร้เทียมทานในแผ่นดิน แต่อสงไขยเป็นหยาดเหงื่อแรงกายตลอดสิบห้าปีของนาง สร้างขึ้นจากการค้นคว้าและการรวบรวมวัสดุชั้นดีนับไม่ถ้วน มีเพียงชิ้นเดียวบนโลกเท่านั้น ไม่มีใครลอกเลียนได้
ถ้ามีอสงไขย นางก็กล้าทั้งนั้น จะอันตรายขนาดไหนก็กล้าลอง
แต่ตอนนี้...อสงไขยไม่อยู่ในมือ!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หยุนฉือก็รู้สึกปวดใจเลือดซิบ
ในโลกใบนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนเก่งในองค์กรมืดหรือแจ้ง จะเป็นกองทัพ ทหารรับจ้างหรือกลุ่มนักฆ่าอะไร ก็รู้ว่า ‘อสงไขย’ เป็นอาวุธของแม่มดหยุนฉือ ไม่มีใครกล้าล่วงเกินนาง
ถึงพวกเขาอยากให้นางออกแบบอาวุธให้ แต่เพราะนางมีอสงไขยจึงไม่มีใครกล้าบีบบังคับ
แต่ตอนนี้จู่ๆ นางก็มาที่นี่ เช่นนั้นโลกนั้นก็คงไม่มี ‘หยุนฉือ’ แล้วล่ะสิ?
อัจฉริยะด้านอาวุธหายไปอย่างนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าพวกศัตรูเก่าของนางจะโห่ร้องดีใจหรือว่าไว้อาลัยให้นางกันแน่
ใช่แล้ว! ก็ลูกค้าเกือบทั้งหมดล้วนเป็นศัตรูของนางนี่!
เพราะแม่มดหยุนฉืออัจฉริยะแห่งโลกสร้างอาวุธเอาแต่เงิน ไม่เลือกหน้า วันนี้นางอาจขายอาวุธอานุภาพร้ายให้ทางA แต่วันพรุ่งก็อาจขายอาวุธที่อานุภาพร้ายยิ่งกว่าให้ศัตรูของพวกเขา
นี่ทำให้พวกเขาแค้นจนคันมือยุกยิก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรนาง
ทุกคนล้วนอยากได้ ‘อสงไขย’ ของนาง แต่ก็ไม่มีใครกล้าช่วงชิงตามอำเภอใจ
“เข้าไปดู”
หยุนฉือพลันได้สติ จ้องอ๋องเจิ้นหลิงตาเขม็ง “พูดเป็นเล่น! ท่านไม่เห็นเหรอว่าปากถ้ำเขียนไว้ว่าอะไร?”
ที่ปากถ้ำมืดลึก แม้แต่ประตูก็ไม่มี แล้วจะเขียนอะไรได้?
นางพูดเหวี่ยง “ชัดจะตาย ตรงนั้นเขียนไว้ว่าใครเข้าต้องตาย ท่านไม่เห็นเหรอ?”
การสร้างห้องลับทำกับดักอะไรในสมัยโบราณก็ไม่ได้เขียนไว้ว่าอย่างนี้เหรอ? ถึงตรงนี้จะไม่ได้เขียน แต่ดูก็รู้ว่าข้างในต้องอันตรายสุดขีดแน่ นางยังไม่อยากตายสักนิด
“ข้าให้เจ้าเข้าไปก็เข้าไปสิ ไม่เช่นนี้...ก็จะฆ่าเจ้าตรงนี้แหละ” อ๋องเจิ้นหลิงพูดด้วยใบหน้าเย็นชา เมื่อครู่ตอนคับขันหากนางไม่ได้เตือนว่าภัยจะถึงตัวแล้ว เขาก็จะไม่ไว้ชีวิตนางเด็ดขาด ไม่เด็ดขาด!
เดิมคิดว่านางจะกลัว แต่ใครจะคิดว่าจู่ๆ นางก็กอดแขนเขาไว้ ทำอย่างกับสนิทสนมกับเขามาก แล้วเงยหน้ายิ้มสดใสกับเขา
เมื่อเห็นดวงตาของนางมีประกายทองระยับอีก จิตสังหารก็เพิ่มขึ้น “หากเจ้ายังกล้าใช้วิชามารกับข้าอีก...”
เชี่ย!
พลังยั่วยวนเป็นวิชามารที่ไหนกัน เป็นเวอร์ชันอัปเดตของวิชาสะกดจิตกับวิชาล่อแค่นั้นเอง
พลังยั่วยวนมีสิบขั้น เดิมนางก็ฝึกถึงขั้นสี่แล้ว ใช้ได้กับคนทั่วไป แต่กับอ๋องเจิ้นหลิงคนนี้กลับไม่ได้ผล
หยุนฉือยักไหล่แล้วปล่อยมือออก
“ท่านอ๋อง ข้าไม่เป็นวรยุทธ์ เข้าไปแล้วหากเจออันตรายอะไรก็อาจตายง่ายๆ ก็ได้ ท่านวรยุทธ์เก่งกล้า ปรีชาสามารถ สง่างาม ปัญญาเหนือผู้คน ไม่เช่นนั้น...ท่านก็เข้าไป ส่วนข้าจะรออยู่ข้างนอก?”
อื่ม! รอเขาเข้าไปก่อนเถอะ นางก็ต้องหาทางหนีเอาตัวรอดอยู่แล้ว
ผู้ชายอันตรายแบบเนี่ย ยิ่งห่างก็ยิ่งดี!