ตอนที่ : 3 จ้องเหยื่อ
2
จ้องเหยื่อ
หลังรับประทานอาหารมื้อค่ำกันเสร็จแล้ว อ้อยหวานกับนางนาตยาก็ขอตัวกลับเรือนหลังเล็ก ทั้งคู่จึงมีเวลาเป็นส่วนตัวตามประสาพี่น้อง
"พี่จะถามภูเรื่องอ้อยหวานกับน้านาต" วิมล์เป็นฝ่ายเปรยเรื่องที่เขากำลังขบคิดอยู่
"อ้อยหวานกับน้านาต มีอะไรเหรอพี่วิมล์แล้วทำไมต้องทำเสียงเครียดแบบนั้นด้วยล่ะ"
"พี่ว่าเราควรจะยกเลิกสัญญาของพ่อ เพราะยังไงเสียสัญญาก็ไม่มีผลต่อเราทั้งคู่"
"ยกเลิกให้โง่น่ะสิพี่วิมล์"
"อะไรของแกภู"
"อ้อยหวานสวยเช้งวับขนาดนั้น ผมไม่ยอมหรอก"
"นี่แกหมายความว่าไง" วิมล์เห็นลางว่าเรื่องนี้จะมีกลิ่นคาวเข้ามาเสียแล้ว วิภูเปล่งเสียงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยตอบพี่ชาย
"ในเมื่อเป็นเมียเก็บพ่อ แล้วจะมาเป็นเมียเก็บของผมบ้างตามสัญญาจะเป็นไรไป สวยๆ แบบนั้นถูกใจผมมาก" วิภูพูดไปก็เดาะลิ้นไปด้วย
"ภูนี่แก เมียพ่อก็ไม่เว้นเหรอ!" สุดจะทนสำหรับคนเป็นพี่ชายอย่างวิมล์
"เมียเก็บพ่อ พูดให้เคลียร์ๆ สิพี่วิมล์เสียหายหมด เดี๋ยวแม่ที่อยู่บนสวรรค์ก็สะดุ้งหรอก" วิภูหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจ เขาเล็งเหยื่อเอาไว้ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว เรื่องอะไรจะปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ อย่างนั้น
"แกเอาจริงเหรอภู" คนถามทำหน้าเหนื่อยหน่ายหัวใจต่อเรื่องนี้
"จริงแท้แน่นอน" แต่แววตาของคนเป็นน้องช่างหนักแน่นในสิ่งที่เอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ วิมล์ใช้นิ้วมือนวดขมับนิดๆ ก่อนเอนแผ่นหลังพิงบนเก้าอี้
"แกแน่ใจแล้วเหรอ นั่นเมียเก็บพ่อนะ" ยังไม่วายจะย้ำอีกรอบให้มั่นใจ
"พี่วิมล์ผมเอาแน่เอานอนเลยครับ"
"งั้นแกก็ห้ามไปบังคับอ้อยหวาน อยากได้เขาเป็นเมียเก็บก็ต้องขอกันดีๆ ไม่ใช่ไปข่มขู่เอาเข้าใจไหม อย่างน้อยก็ต้องให้เกียรติเมียเก็บพ่อบ้าง"
"รู้แล้วน่าพี่วิมล์ หนุ่มแน่นหล่อเฟี้ยวอย่างผมไม่เอาก็บ้าแล้ว" วิภูมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตนเองเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าบิดาของตนนั้นคงให้ความสุขอ้อยหวานได้ไม่มากพอ เขานี่แหละที่จะทำให้หญิงสาวสำลักความสุขทางกายเอง
"ถ้าแกต้องการแบบนั้นพี่คงห้ามไม่ได้สินะ" คงเป็นตัวของวิมล์เองที่รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกต่อเรื่องนี้
"พี่วิมล์ไม่ต้องห้ามผมหรอก อีกอย่างเราแบ่งปันกันได้ของแบบนี้" คำพูดง่ายๆ ของน้องชาย ทำให้ใบหน้าของอ้อยหวานลอยขึ้นตรงหน้าของวิมล์ นึกสภาพที่หญิงสาวเปลือยกายล่อนจ้อนแล้วถูกน้องชายของเขากระทำชำเรา
"เฮ้อ"
"ถอนหายใจทำไม ผมไม่ถือเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เมียแต่งแค่เมียเก็บใครๆ เขาก็แบ่งกันกิน"
"แกอย่าคิดว่าพี่จะมักง่ายเหมือนแกนะภู" วิมล์นึกใจหาย เสียดาย ความสาว ความสวย และแววตาหวานซึ้งคู่นั้น
"มักง่ายตรงไหนคัดสรรดีแล้วต่างหาก" วิภูเอ่ยจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปอย่างอารมณ์ดี มีเพียงวิมล์ที่ยังคงรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้องอยู่เพียงลำพัง
วันรุ่งขึ้น
วิภูไม่ได้ตามพี่ชายออกไปดูงานที่บริษัทเปิดใหม่ เขากลับนั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านพักตากอากาศแห่งนี้แทน นั่นเพราะชายหนุ่มมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ แววตาไหวระริกเมื่อเห็นเจ้าของร่างสมส่วนเดินถือถาดอาหารมื้อเที่ยงเข้ามาวางบนโต๊ะ อ้อยหวานในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดา กลับดูน่ารักน่าใคร่ไปอีกแบบ
"วันนี้แม่ทำขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ คุณภูทานได้ไหมคะ" อ้อยหวานวางถาดลงแล้วก็หันมาบอกคนที่แสร้งทำเป็นสนใจหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่
"ได้สิ เธอก็ไปยกจานของเธอมากินกับฉันสิ กินคนเดียวมันเหงา"
"เอ่อ อ้อยหวานกินกับแม่ที่ห้องครัวแล้วค่ะ"
"งั้นเหรอ" เขาถามสายตาก็มองสำรวจอ้อยหวานไปด้วย
"ค่ะ" หญิงสาวเหมือนจะอึดอัดต่อสายตาหยาบโลนของเขาเป็นอย่างมาก หยิบถาดแล้วลุกขึ้นจะเดินกลับไปยังเรือนหลังเล็กของตนเอง
"เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่อนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น นั่งลงเดี๋ยวนี้อ้อยหวาน"
"แต่อ้อยหวานมีงานที่จะต้องไปทำช่วยแม่ในครัว"
"ทำไม! อยู่กับฉันแค่นี้จะตายหรือยังไง ทีบริการพ่อฉันยังทำได้เลย"
"คุณภู!" อ้อยหวานเริ่มเสียงแข็งใส่ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรทำ
"เธอเป็นแค่เมียเก็บพ่อฉันนะ อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน สัญญาก็ยังเหลือตั้งหนึ่งปี ระหว่างนี้หากฉันจะใช้บริการเธอต่อจากพ่อบ้างเธอจะว่ายังไง" คำพูดของวิภูทำหัวใจอ้อยหวานกระเจิงไม่เป็นท่า หญิงสาวได้แต่ยืนหน้าซีดมองพื้นและไม่รู้จะตอบอะไรเขาออกไป
"ฉันถามว่าเธอจะว่ายังไงถ้าต้องมาเป็นเมียเก็บฉันต่อจากพ่อ" วิภูใช้น้ำเสียงเชิงบังคับข่มขู่ไปในตัว
"ไม่ค่ะ อ้อยหวานขอปฏิเสธ"
"ปฏิเสธ!" แทบจะกวาดจานขนมจีนทิ้งเลยหากทำได้ หนุ่มอารมณ์ดีขี้เล่นอารมณ์บูดบึ้งขึ้นทันตาเห็น วิภูลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปหาอ้อยหวาน พร้อมกับกระชากร่างของหญิงสาวเข้ามาเขย่าแนบอกอย่างโมโห
"จะทำอะไร ปล่อยอ้อยหวานนะคุณภู" คนตกใจทำได้แค่ยกฝ่ามือขึ้นดันแผงอกของเขาเอาไว้
"ตัวเธอมีอะไรดีอ้อยหวาน ถึงได้กล้าปฏิเสธคนอย่างฉัน ฉันให้โอกาสเธอเลือกใหม่ จะมาเป็นเมียเก็บของฉันไหม" เขาเค้นเสียงขู่
"ไม่ค่ะ! อ้อยหวานจะไม่เป็นเมียเก็บใครทั้งนั้น"
"ยัยบ้าเอ๊ย"
"อย่านะ! คุณจะบ้าเหรอคุณภู แม่ช่วยด้วย!ๆ" เมื่อกำลังจะถูกปล้ำจูบ หญิงสาวก็ร้องตะโกนลั่นบ้านอย่างตกใจ ไม่ต่างจากวิภูเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อยรีบปล่อยมือแต่โดยดี อ้อยหวานได้ทางหนีรีบผลักเขาออกห่างแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว
"ยัยบ้า!" เกิดมาเพิ่งจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะทุกทีก็สมยอมกันทั้งนั้น วิภูหัวเสียเป็นอย่างมาก เขาจะต้องให้บทเรียนแก่อ้อยหวานอย่างสาสม ที่บังอาจมาปฏิเสธเขาในวันนี้
ฝั่งอ้อยหวานที่วิ่งหนีกลับเรือนพักไป ก็ไม่กล้านำเรื่องนี้ไปบอกเล่าแก่มารดา กลัวว่าท่านจะเป็นห่วงและไม่เป็นอันกินอันนอนกัน หญิงสาวทั้งขวัญหนีดีฝ่อต้องนั่งทำใจอยู่นานสองนาน กว่าจะออกไปพูดคุยกับมารดาได้เหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันนี้ทั้งวันวิภูก็เฝ้าแต่มองประตูบ้าน แต่แล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของอ้อยหวานที่เขารอ กระทั่งช่วงเย็นที่พี่ชายของเขากลับจากบริษัทก็มีเพียงนางนาตยามาจัดโต๊ะอาหารให้
"พรุ่งนี้ทำบุญเลี้ยงพระที่บริษัท แกควรไปนะภู"
"ครับเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไป เอ่อ น้านาตครับแล้วอ้อยหวานล่ะครับ" วิภูทำเป็นถามหาหญิงสาวกับมารดา
"เห็นว่าปวดหัวเลยให้นอนพักค่ะคุณภู"
"เหรอครับ" สีหน้าบ่งอาการผิดหวังอย่างชัดเจน กลืนข้าวลงท้องแต่ละเม็ดแบบฝืดคอ เพราะมีเรื่องบางอย่างติดค้างอยู่ในใจ วิภูจึงต้องนำปัญหานี้มาปรึกษาพี่ชายในช่วงค่ำหลังจากนางนาตยาเก็บสำรับและกลับเรือนพักไปแล้ว