บท
ตั้งค่า

ไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร

ตอนที่ 5

ไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร

“คุณจะเก็บเสื้อผ้าไปไหน”

อธิปเดินออกจากห้องน้ำเห็นภรรยากำลังนั่งพับผ้าใส่ถุงจึงถามด้วยความตกใจเพราะเขาก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันว่าจากคำถามที่เขาไม่สามารถทำตามที่เธอต้องการได้จะทำให้เขาต้องเสียเธอไปตลอดกาล

“ก็คุณให้ปรางไปซื้อเสื้อผ้ามาใหม่จนตู้แทบจะไม่มีที่ใส่อยู่แล้ว พรุ่งนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะเอาเสื้อผ้าไปฝากเพื่อนๆไปบริจาคค่ะ”

ปรางทิพย์หันมาส่งยิ้มให้สามีด้วยใจเต้นแรงเพราะกลัวเหลือเกินว่าเขาจะเดินมาเปิดถุงที่เธอรีบผูกและยัดใส่ใต้โซฟาไปเพราะในนั้นไม่ได้มีแค่เสื้อผ้าเก่าแต่มันคือเสื้อผ้าใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อให้เธอด้วยมีหวังถ้าเขาเห็นความลับของเธอต้องถูกเปิดเผย

ค่ำคืนนี้ไฟทุกดวงในห้องดับลงแต่ยังมีความร้อนระอุของหัวใจที่โหยหาความอบอุ่นของคนทั้งคู่ สำหรับปรางทิพย์เธอจะใช้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนสุดท้ายที่จะเก็บเกี่ยวความสุขให้ได้มากที่สุดนับจากพรุ่งนี้ไปเธอจะต้องนอนคนเดียว กินคนเดียวและอยู่คนเดียวเพื่อรอวันหนึ่งที่หัวใจของเธอจะคลอดออกมาลืมตาดูโลกวันนั้นเธอก็จะไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกเธอยอมรับสภาพที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวซึ่งหญิงสาวมั่นใจว่ามันคงจะมีความสุขและมีศักดิ์ศรีมากกว่าการยอมเป็นเมียน้อย

“คุณอธิปคะปรางขออะไรคุณหน่อยได้ไหมแต่ถ้าคุณไม่ให้ก็ไม่เป็นอะไรค่ะ”

อธิปหันไปมองหน้าภรรยาอย่างแปลกใจเพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็ไม่เคยเห็นว่าปรางทิพย์จะขออะไรจากเขามีแต่เขาเองที่เป็นฝ่ายให้เธอ

“วันนี้ปรางจะไปเจอเพื่อนๆก็ตั้งใจว่าจะใส่แหวนที่คุณซื้อไปให้แต่ก็รู้สึกโล่งๆคออยากจะมีสร้อยสวยๆใส่ไปอวดเพื่อนอีกสักชิ้นจะเป็นการรบกวนไหมคะ”

สามีมองหน้าภรรยาด้วยความแปลกใจแต่ก็ส่งยิ้มให้ด้วยความโล่งอกเพราะเขาคิดว่าปรางทิพย์จะขอเขาเรื่อง จดทะเบียนสมรสอีกเมื่อเป็นเรื่องนี้ชายหนุ่มก็ยินดีให้อย่างไม่มีข้อแม้เขาโอนเงินจำนวนหลายหมื่นบาทให้กับหญิงสาวทันที

ปรางทิพย์สวมกอดสามีเธอหอมแก้มเขากอดตัวเขาไว้แน่นเพราะรู้ว่าการปล่อยมือครั้งนี้มันจะเป็นการปล่อยเขาไปตลอดกาล

“ปรางรักคุณนะคะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้คุณรู้ไว้ว่าปรางทำไปเพราะรักคุณที่สุด”

ชายหนุ่มกำลังจะถามว่าทำไมภรรยาถึงพูดแบบนี้แต่กลับถูกอีกฝ่ายใช้ปากบางทาบทับลงไปที่ปากอุ่นของเขาก่อนที่เธอจะเดินออกมาแล้วโบกมือให้เขารู้ว่าได้เวลาที่เขาต้องไปทำงานแล้วอธิปจึงคิดว่าเย็นนี้เขาค่อยกลับมาคุยกับเธอจะดีกว่า

รถยนต์คันหรูขับออกจากบ้านแล้วปรางทิพย์ไม่มีเวลาที่จะเศร้าโศกเสียใจมากนักจากของทุกอย่างที่เธอตั้งใจจะขนไปที่บ้านหลังใหม่ดูแล้วน่าจะขับรถอีกหลายรอบกว่าที่เธอจะขนไปหมด เธอมีเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงจึงต้องรีบทำทุกอย่างให้เสร็จ

ปรางทิพย์เลือกที่จะไม่ทำตัวเหมือนนางเอกในหนังที่ไปแต่ตัวไม่เอาอะไรไปเพราะเธอไม่มีอาชีพแต่กำลังจะมีลูกน้อยๆที่จะต้องเลี้ยง เธอต้องใช้เงิน อะไรที่ขนไปได้ที่จะทำให้เธอประหยัดเธอก็จะเอาไปในเมื่อเขาเคยบอกว่าของทุกชิ้นที่ซื้อไว้ในบ้านหลังนี้คือของของเธอแต่หญิงสาวก็เลือกไปได้เพียงแค่ของมีค่า ส่วนของชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถขนด้วยรถเก๋งได้เธอก็เลือกที่จะทิ้งไว้อย่างน้อยก็เก็บไว้ให้เขาได้ดูต่างหน้าเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเขากับเธอเคยมีความสุขด้วยกันที่นี่

เงินก้อนสุดท้ายที่อธิปโอนให้เธอเมื่อเช้า มันสามารถเป็นค่าเช่าได้เกือบครึ่งปีทำให้ปรางทิพย์รู้สึกโล่งใจที่เธอจะได้เก็บเงินที่เหลือไว้ใช้หลังจากที่ลูกคลอดเพราะตอนนี้เธอก็ตั้งครรภ์ได้หลายสัปดาห์แล้วและอีกไม่นานท้องของเธอที่ใหญ่ก็คงจะทำให้เธอทำอะไรได้ไม่ถนัดคงต้องรอให้ลูกโตพอที่จะไปฝากใครเลี้ยงสักคนเธอค่อยหางานทำ

“ปราง คุณอยู่ไหนทำไมถึงปล่อยให้มันมืดแบบนี้”

อธิปกลับมาถึงบ้านในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เขารู้สึกใจหายเมื่อบ้านทั้งหลังมืดมิดซึ่งตั้งแต่เขาอยู่กับปรางทิพย์มาไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะกลับบ้านแล้วพบว่าไม่มีใครอยู่

ชายหนุ่มตะโกนเรียกภรรยาทุกซอกทุกมุมทั้งที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ได้อยู่ในบ้าน รถที่หายไปข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่ไม่มีอยู่ที่เดิมมันคือคำตอบว่าตอนนี้ภรรยาของเขาได้ไปอยู่ที่อื่นแต่เขาไม่สามารถที่จะยอมรับความเป็นจริงได้ไม่มีอะไรเป็นสัญญาณเตือนเลยว่าวันนี้เขาต้องเสียเธอไป

อธิปพยายามโทรศัพท์ไปหาปรางทิพย์ตลอดเวลาแต่อีกฝ่ายกลับไม่รับสายข้อความถูกส่งผ่านไลน์ไปอ้อนวอนขอให้เธอกลับมาแต่กลับไม่มีแม้แต่การอ่านหัวใจของชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ เขามืดแปดด้านไปหมดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรขอแค่จะหาใคร สักคนปรึกษาเขายังทำไม่ได้เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับปรางทิพย์ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งเพื่อนสนิท

“สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดแล้วจะไม่มีทางทำคือการเป็น เมียน้อย”

ชายหนุ่มที่กำลังเสียใจนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่ห้องรับแขกรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือนว่ามีคนส่งข้อความมา เขาอ่านข้อความทุกคำด้วยเสียงที่ดังเหมือนต้องการจะบอกตัวเองให้ตื่นจากโลกแห่งความฝันทุกสิ่งที่เขากำลังอ่านมันคือความจริงที่เขาต้องเผชิญ

“ เมียน้อย บ้าไปใหญ่แล้วผมไม่เคยคิดจะให้คุณเป็นเมียน้อย”

อธิปไม่มีสติพอที่จะพิมพ์ข้อความตอบเขาพยายามโทรกลับแต่อีกฝ่ายก็กลับไม่รับสาย ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นดื่มจนในที่สุดเขาก็เมาจนไม่ได้สติหลับอยู่กลางโซฟาในสภาพที่น่าสงสารดวงตายังคงแดงก่ำน้ำตาหยดลงมาเปื้อนเต็มหน้าถ้าใครได้มาเห็นสภาพของนักธุรกิจหนุ่มตอนนี้คงคิดว่าเขาไม่ต่างอะไรจากผู้ชายเกเรที่เป็นขี้เมายอมแพ้กับปัญหา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel