บท
ตั้งค่า

ดูถูก

ตอนที่ 6

ดูถูก

อธิปจำเป็นต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทเพราะวันนี้มีเอกสารสำคัญที่ต้องเซ็นถึงแม้ตอนนี้สภาพของเขาจะยังเหมือนคนเมาที่ยังไม่ได้สติก็ตาม

ชายหนุ่มนั่งเซ็นเอกสารด้วยจิตใจที่ล่องลอยเพราะเขาพยายามคิดหาทางออกว่าจะไปตามภรรยาได้ที่ไหนเอกสารกองโตทำให้เขาไม่สามารถคิดได้จนในที่สุดเมื่อจรดลายเซ็นลงนามเอกสารฉบับสุดท้ายเขาก็ได้ตั้งสติแล้วคิดขึ้นมาได้ว่าเขาได้ติดสัญญาณติดตามไว้ที่รถของภรรยา

“ผมจะตามคุณกลับมาให้ได้”

นักธุรกิจหนุ่มขับรถออกจากบริษัททันทีเขามุ่งหน้าไปตามสัญญาที่แจ้งเตือนว่าตอนนี้หญิงสาวอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่ไกลจากบริษัทของเขาพอสมควรคงต้องใช้เวลาเดินทางเป็นชั่วโมงกว่าที่เขาจะไปถึง ถึงแม้ใจจะร้อนแค่ไหนแต่รถติดของกรุงเทพฯก็ทำให้เขาต้องใจเย็นลง

“ผมบอกให้คุณเปิดประตู”

อธิปพยายามตะโกนแต่ก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้เขา ชายหนุ่มแน่ใจว่าภรรยาของเขาอยู่ที่นี่และตอนนี้เธอก็รู้ว่าเขากำลังขอร้องให้เธอออกมา

อธิปเมื่อรู้ว่าวิธีการนี้ไม่ได้ผลเขาจึงเลือกที่จะขับรถหันหน้าเข้าบ้านของเธอแล้วบีบแตรลั่นหมู่บ้านก่อนที่จะตะโกนให้อีกฝ่ายรู้ว่าถ้ายังไม่ออกมาเปิดประตูให้เขา เขาจะบีบแตรจนเป็นที่รำคาญของคนรอบข้าง

“คุณอยากให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยใช่ไหม”

คำขู่ของอธิปได้ผลในที่สุดปรางทิพย์ก็ต้องยอมออกมาเปิดประตูต้อนรับเขาด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาเธอมองอยู่ข้างหน้าต่างเห็นสิ่งที่เขาทำตลอดมันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลยถ้าเขาต้องการให้เธอกลับไปสิ่งที่เขาควรจะพูดนั่นคือสิ่งที่เขาจะทำเพื่อให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องของเขา

“คุณตามปรางมาทำไม คุณควรกลับไปหาคู่หมั้นของคุณ คุณพิมพา ปรางรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วขอร้องเถอะค่ะปรางไม่อยากกลับไปเป็นเมียน้อย”

หญิงสาวจอมขี้แยใช้สองมือเช็ดน้ำตาเสียงสะอื้นยังคงดังไม่ขาดสายแต่เธอก็เลือกที่จะตะโกนพูดทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจแล้วเลิกตามเธอเสียที

“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดผมยังไม่ได้แต่งงานกับเขาคุณไม่มีทางที่จะเป็นเมียน้อย”

อธิปพยายามอธิบายทั้งที่เขาก็รู้ว่ามันเป็นคำพูดที่แสนแย่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่เหมือนเขาไม่รู้จะพูดอะไรที่มันจะดีไปกว่านี้

“แล้วยังไงคะคือปรางต้องอยู่กับคุณรอจนกว่าคุณจะแต่งงานกับคุณพิมพาแล้ววันนั้นคุณถึงจะยอมให้ปรางเดินออกมาแบบนั้นหรือคะ ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมา 2 ปีมีคุณค่ากับคุณแค่นี้จริงๆใช่ไหม วันนั้นปรางให้คุณเลือกแล้วแต่คุณกลับบอกว่าคุณจะไม่จดทะเบียนในเมื่อวันนี้ปรางก็เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองแล้วหัดเคารพ การตัดสินใจของคนอื่นบ้าง”

ปรางทิพย์รู้สึกผิดหวังกับผู้ชายตรงหน้า เธอไม่คิดว่าเขาจะตามหาเธอทันตั้งแต่วันแรกแล้วไม่คิดว่าเขาจะตามง้อเธอด้วยคำพูดแบบนี้เพราะมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาแต่มันกลับยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่กับตัวเองที่เคยหลงรักผู้ชายอย่างเขา

“คุณไม่เข้าใจ ผมไม่มีทางเลือกแต่ผมสัญญาว่าคุณจะไม่เป็นเมียน้อย ทำไมคุณถึงไม่เชื่อผม”

อธิปทรุดตัวลงไปคุกเข่าสองมือจับไปที่หัวของตัวเองเขาไม่รู้จะพูดอะไรไม่มีใครเข้าใจดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขา เขาจำเป็นต้องทำในสิ่งที่มารดาต้องการแต่เขาคิดว่าในที่สุดจะไม่ยอมแต่งงานกับพิมพาแต่ไม่คิดเลยว่า ปรางทิพย์จะมารู้เรื่องราวเสียก่อน

“ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมาปรางเชื่อคุณมาโดยตลอดแล้วนี่ก็คือผลตอบแทนที่ปรางได้ คุณยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคะ ปรางไม่เชื่อคุณได้โปรดเถอะค่ะถ้ายังอยากจะทำให้ปรางรู้สึกว่าที่ผ่านมาคุณเคยรักปรางได้โปรดกลับไปแล้วถ้าจะกลับมาที่นี่อีกก็มีเพียงแค่เหตุผลเดียวคือคุณจะกลับมาเพื่อพาไปจดทะเบียนสมรสและพาไปแนะนำให้แม่ของคุณรู้จักแต่ถ้าคุณทำไม่ได้....ได้โปรดออกไปจากชีวิตปราง”

หญิงสาวปิดประตูบ้านเธอคิดว่าจากคำพูดทั้งหมดอธิปน่าจะพอสงบสติอารมณ์ได้เขาคงกลับไปคิดทบทวนหาคำตอบให้กับชีวิตตัวเองว่าสุดท้ายเขาควรจะเลือกทางไหนอย่างน้อยวันนี้เธอยังมีโอกาสให้เขาเลือกแต่ถ้าสุดท้ายเขาเลือกที่จะให้เธอเป็นเพียงแค่คนในโลกใบที่ 2 เธอก็จะไม่มีวันกลับไปหาเขาชีวิตของเธอพร้อมมากกับการเริ่มต้นใหม่เธอเดินออกมาแล้วจะไม่มีทางกลับไปอยู่ที่จุดเดิม

รถของนักธุรกิจหนุ่มขับออกไปจากหน้าบ้านแล้วแต่ไม่นานก็มีรถหรูคันสีขาวขับมาจอดแทนพร้อมกับมีหญิงสูงวัยก้าวลงจากรถและกดสัญญาณหน้าประตูรั้ว

“มาหาใครคะ”ปรางทิพย์ถามด้วยความไม่แน่ใจเพราะเธอรู้สึกคุ้นหน้า

“ฉันชื่อฉวีเป็นแม่ของอธิปขอเข้าไปคุยในบ้านหน่อยเพราะคุยตรงนี้คงไม่ค่อยสะดวก”

เมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวปรางทิพย์จริงจำได้เพราะเธอเคยเห็นภาพถ่ายของแม่สามีในวันเกิดของเขาและคงมีไม่กี่เรื่องที่ทำให้หญิงสูงวัยต้องมาปรากฏกายที่นี่

ฉวีตามมาถึงที่นี่ได้เพราะเธอสะกดรอยตามลูกชายเมื่อเช้าพนักงานที่เป็นคนของเธอได้โทรศัพท์ไปแจ้งว่าอธิปมาทำงานในสภาพที่เมาเหมือนคนที่ยังไม่ได้สติเสื้อผ้าก็ยังเป็นชุดของเมื่อวานจึงทำให้คนเป็นแม่รู้สึกเป็นห่วงก็เลยตั้งใจว่าจะมาดูที่บริษัทเมื่อว่าเขาขับรถออกมาจึงตัดสินใจขับรถตามและได้ยินบทสนทนาของคนทั้งคู่

“ฉันจะไม่ถามว่าเธอเป็นอะไรกับลูกชายฉันแต่เท่าที่แอบฟังเธอก็รู้แล้วว่าเขามีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานถ้ายังมีศักดิ์ศรีอยู่ก็อย่ากลับไปหาเขาอีกปากก็พร่ำบอกว่าไม่อยากเป็นเมียน้อยก็อย่ากลืนน้ำลายตัวเองเพราะฉันก็ดูแล้วผู้หญิงอย่างเธอก็คงจะหาผู้ชายที่ดีกว่าอธิปไม่ได้แต่ก็รู้ไว้นะถ้ายังจะซมซานกลับมา เธอก็เป็นได้แค่เมียน้อย ลูกชายฉันไม่มีวันยกเธอออกหน้าเพราะถ้าเขาจะทำเขาคงทำตั้งนานแล้ว”

ฉวีใช้ความเป็นผู้หญิงคิดคำที่แสนจะทำร้ายจิตใจลูกผู้หญิงด้วยกันเพราะสำหรับคนเป็นแม่อยากให้ลูกชายแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีที่สุดที่เขาหาให้โดยไม่รู้เลยว่ามันเป็นการทำร้ายหัวใจลูกชายแค่ไหน

“กลับไปบอกลูกชายของคุณท่านเถอะค่ะเพราะถ้าคุณท่าฟังได้ยินทุกประโยคก็คงจะรู้ว่าฉันอุตส่าห์หนีมาที่นี่แต่เขาก็ยังมาตามง้อ ในฐานะที่ฉันเป็นผู้หญิงก็อยากจะบอกให้คุณท่านรู้ว่าผู้หญิงบางคนอาจไม่มีศักดิ์ศรีเพราะชอบเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงด้วยกันแต่สำหรับฉันศักดิ์ศรีมีมากพอที่จะไม่เป็นเมียน้อยใครต่อให้ฉันเป็นคนที่มาก่อนเป็นคนที่เขาเลือกไม่ใช่ผู้หญิงที่แม่เลือกให้ก็ตาม กลับไปเถอะค่ะ ไปขังลูกของคุณท่านไว้ อย่าให้ออกมาเพ่นพ่านทำลายความสุขสงบของผู้หญิงจนๆอย่างฉันเลย”

หญิงสูงวัยเมื่อรู้ว่าไม่สามารถตอบโต้คำพูดของ ปรางทิพย์ได้เธอจึงเลือกที่จะชักสีหน้ามองแววตาข่มขู่ส่งท้ายแทน ก่อนที่จะออกจากบ้านหลังนั้นและคิดว่าวันนี้คงต้องรีบทำอะไรสักอย่าง เพราะฉวีกลัวเหลือเกินว่าอธิปจะเปลี่ยนใจถอนหมั้นและยอมจดทะเบียนกับผู้หญิงจนๆคนนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel