3 ตามมาคุม
หลังจากที่ภาคภูมิบอกว่าเขาจะเริ่มรุกเธอเขาก็ทำแบบนั้นจริงๆ เพราะหลังจากที่เขาขับรถตามมาส่งเธอที่บ้านเมื่อวันที่เขาพาเธอไปทานขนมร้านอร่อย และบอกชอบเธอ เขาก็ขยันส่งไลน์ โทรหาเธอตลอดหากว่าเขาไม่ว่างมาหาเธอด้วยตัวเอง ทั้งคำพูดที่หวานหูไม่รู้ว่าไปสรรหามาจากไหนที่มีมาหยอดเธอได้ทุกวัน แล้วก็ชอบหอม ชอบกอดหาเศษหาเลยกับเธอ เขาบอกว่าเธอเหมือนตุ๊กตานุ่มนิ่มน่ารักน่ากอด คนอะไรไม่รู้ชอบเอาเปรียบอยู่เรื่อย แล้วใจไม่รักดีของเธอก็ชอบโอนเอนไปทางเขาอยู่ร่ำไป วันนี้เธอก็ดันพลาดไปบอกเขาว่าจะไปงานปาร์ตี้ที่เพื่อนของเธอจัดขึ้นที่คลับชื่อดังแห่งหนึ่ง
และเป็นไปตามคาดว่าพ่อคนที่สองของเธอจะไม่ยอมให้ไป สรรหาคำพูดต่างๆ นานามาหว่านล้อมให้เธอโอนอ่อนแล้วทำไมเธอจะต้องฟังเขาด้วยล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แค่บอกชอบเธอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาบงการเธอได้ ตอนนี้เธอพาร่างบอบบางของตนเองมายืนอยู่ที่หน้าคลับที่ว่า วันนี้เธอเลือกใส่เดรสเปิดไหล่สีชมพูเข้มสั้นเหนือเข่า ตัดกับผิวขาวราวน้ำนมของเธอ ประกอบกับสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีดำ 4 นิ้ว ทำให้เรือนร่างดูโปร่งระหง ขาแลเรียวยาว เซ็กซี่ไปทุกสัดส่วน ใบหน้าก็บรรจงแต่งมาอย่างโฉบเฉี่ยว ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อสำรวจตัวเองเรียบร้อยแล้วก็กระชับกระเป๋าถือแบรนด์ดัง ก้าวเดินอย่างมั่นใจเข้าไปด้านในโดยไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่กำลังจ้องมองมาทางเธอด้วยความสนใจ
“นังพลอยยทางนี้” ซินดี้โบกมือเรียกเพื่อนสาวหย็อยๆ อย่างกระดี้กระด้ามืออีกข้างก็ถือเครื่องดื่มไว้ในมั่น
แพรพลอยเดินไปหาพวกเพื่อนๆ ที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานโดยที่ไม่ได้สนใจโทรศัพท์ที่กำลังสั่นในมือแม้แต่น้อย เพราะเธอยังไม่อยากหมดสนุก นานๆ จะได้มาเที่ยวกับเพื่อนทั้งทีขอสนุกให้เต็มที่ละกัน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที
“พวกแกมากันนานแล้วเหรอ” แพรพลอยเดินมาถึงก็รับแก้วค็อกเทลมาจากเพื่อนที่ส่งมาให้เธอ ปกติเธอไม่ค่อยชอบดื่มเท่าไหร่ ได้แต่จิบๆ เป็นพิธีเท่านั้น เพราะไม่ค่อยชอบรสชาติเครื่องดื่มพวกนี้ มันขมไป
“ก่อนหน้าแกแป๊บเดียวเอง ว่าแต่วันนี้จัดจ้านนะจ๊ะหล่อน คิดจะมาแย่งซีนฉันเหรอนังชะนีตัวน้อย” ซินดี้ทำท่าสะบัดสะบิ้งใส่เพื่อนพลางสำรวจร่างของเพื่อนสาวที่แต่งตัวมาซะเปรี้ยว
“ทุเรศ” เพื่อนๆ ต่างพูดกันออกมาอย่างพร้อมเพียงใส่หน้าซินดี้ที่ตอนนี้ยืนทำหน้ายับใส่ทุกคนที่พากันรุมตนเองอย่างสนุกสนาน
แพรพลอยชนแก้วกับเพื่อนสักพักก็หันมาสนใจข้อความจากไลน์ที่กำลังเด้ง เมื่อเปิดดูเธอถึงกับตกใจ คิดไม่ถึงว่าจะส่งมาเยอะขนาดนี้ไม่รู้ป่านนี้จะหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดไหน ขณะที่กำลังชั่งใจว่าจะตอบหรือไม่ตอบดีก็มีเพื่อนมาสะกิดให้ออกไปเต้นกับคนอื่นๆ แต่เธอขอเลือกที่จะนั่งดู แล้วเก็บมือถือเข้ากระเป๋า เลือกที่จะไม่ตอบดีกว่า ไว้ค่อยเคลียร์ทีหลัง แต่เธอคิดผิด!
สายตาแพรพลอยปะทะเข้ากับร่างสูงคุ้นตาที่กำลังเดินเข้ามาหา สีหน้าเขาดูบูดบึ้งราวกับว่าอยากจะฆ่าใครก็ไม่ปาน แต่เธอต้องใจดีสู้เสือเข้าไว้แม้ว่าในใจหวาดหวั่น รู้สึกอยากหายตัวได้ แล้วถ้าวิ่งหนีก็คงไม่แคล้วถูกขย้ำทันที
ประชุมเสร็จชายหนุ่มก็รีบบึ่งรถมาที่คลับทันที เขาคิดอยู่แล้วว่าคนสวยของเขาต้องขัดคำสั่ง ที่มันน่าหงุดหงิดที่สุดก็ไอชุดบ้าๆ ที่เธอใส่ไม่มีชุดที่มันยาวๆ รึไงถึงได้ใส่ชุดสั้นๆ แบบนั้นมา มันน่าจับมาลงโทษซะให้เข็ดจะได้ไม่กล้าดื้ออีก ย้อนกลับไปตอนที่เขาพยายามโทรหาแม่ยอดยาหยีตั้งแต่บ่าย เธอก็ไม่รับ ไลน์หาก็ไม่อ่าน ถ้าไม่ติดว่าวันนี้เขามีประชุมสำคัญทั้งวัน รับรองได้ว่าน้องพลอยจะไม่มีทางมานั่งสวยๆ อยู่ที่นี่ให้เป็นอาหารตาของแมลงวันทั้งหลายที่อยากจะมาดอมดมคนของเขาแน่นอน ประชุมวันนี้เขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่เพราะมัวแต่ว้าวุ่นใจ
“เด็กดื้อ” เขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเด็กดื้อที่ตอนนี้ส่งยิ้มหวานมาประจบก่อนจะดึงแขนเขาลงไปนั่งข้างๆ เธออย่างออดอ้อน
แต่ว่า...
“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย แต่พลอยว่าให้พลอยลงไปนั่งข้างพี่ภาคดีกว่านะคะ ไม่เห็นต้องนั่งตักเลย” จะดิ้นก็ไม่ได้เล่นกอดเอวซะแน่นเลย
“ไม่ดื้อ แต่มาที่นี่ทั้งที่พี่บอกว่าไม่ให้มา แถมไม่รับโทรศัพท์ ไลน์มาก็ไม่ตอบเนี่ยนะ แบบนี้ยังไม่เรียกว่าดื้ออีกเหรอคะน้องพลอย รู้ไหมว่าพี่ห่วงน้องพลอยขนาดไหน” น้องพลอยไม่เข้าใจหัวอกเขาเลยจริงๆ ไอเราก็ห่วงไปสารพัด กลัวว่าจะมีแมลงหวี่แมลงวันที่ไหนมายุ่มย่ามกับคนของเขา เมื่อคิดถึงตรงนี้อ้อมแขนแกร่งจึงกอดกระชับเอวบางไว้แน่นกว่าเดิมอย่างหวงแหน ตาคมวาบวับเมื่อเก็นว่ามีผู้ชายคอยมองมาที่น้องพลอยของเขา พอสบตากับเขาพวกมันต่างก็รีบหันกลับไปทันที ถ้านั่งนานๆ เขาอาจจะฆ่าใครตายก็ได้เพราะมันมีพวกวอนหาที่ตาย
“ขอโทษนะคะพี่ภาคขา อย่าโกรธน้องพลอยนะ น้องพลอยแค่อยากมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ไม่ได้ตั้งใจแอบมาสักหน่อย กะว่าอีกสักพักจะโทรหาพี่ภาค แต่พี่ภาคก็มาซะก่อน จริงๆ นะสาบานได้เลยค่ะ” เธอรู้สึกผิดที่ทำให้เขาเป็นห่วงขนาดนี้ หน้าคมตอนนี้บอกเธอได้เป็นอย่างดีว่าเขาห่วงเธอมากขนาดไหน แขนเรียวสวยโอบรอบคอเขาไว้อย่างออดอ้อน
ภาคภูมิมองคนในอ้อมแขนที่ซบหน้าอยู่ที่ซอกคอของเขาอย่างกับลูกแมวตัวน้อย ความโกรธ ความไม่พอใจที่มีก่อนหน้ามลายหายไปจนเกือบหมดสิ้น เพียงเพราะเสียงหวานๆ ที่พยายามพูดเพื่อไม่ให้เขาลงโทษ
“แต่ถ้ามีอีกพี่จัดหนักแน่คนสวย” เขาไม่ได้ขู่แต่จะทำมันจริงๆ
“น่ารักจัง” แพรพลอยยืดตัวขึ้นหอมแก้มให้กับความใจดีฟอดใหญ่อย่างน่ารักน่าชัง แล้วก็รีบมุดหน้าเข้าอกกว้างทันทีเพราะความอาย
คนที่โดนหอมแก้มก็ยิ้มจนแก้มจะแตกอยู่แล้ว แต่ว่าแค่นี้ไม่เป็นที่พอใจสำหรับคนอย่างเขาแน่นอน มือหนาเชยคางมนของคนขี้อายขึ้นมา แก้มแดงปลั่งที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวเขินอายหนักไม่ยอมสบตากับเขาสร้างความเอ็นดูให้เขาเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่มีอะไรน่าอายเลยคนดี” มือหนาของเขายึดคางสวยได้รูปไว้มั่นแล้วค่อยๆ พรมจูบไปตามหน้าผากมน สองข้างแก้ม และปิดท้ายที่ริมฝีปากเย้ายวนอย่างหนักหน่วง
“อื้อ อื้อ” แพรพลอยทุบอกกว้างเมื่อเริ่มรู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรง หายใจแทบไม่ทัน
“อื้มม” ภาคภูมิยอมถอนริมปีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง เพราะเขายังไม่อยากที่จะละจากความหอมหวานที่เขาได้รับ มือหนาบดคลึงริมฝีปากบวมเจ่ออย่างหยอกเย้า หน้าคมก็คอยซุกซบกับลำคอระหงเฝ้าดอมดมความหอมเข้าปอด
“พอได้แล้วค่ะ แค่นี้น้องพลอยก็ขาดทุนจะแย่แล้ว” แพรพลอยดันหน้าของภาคภูมิที่ฝังอยู่ที่ซอกคอของเธอออก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมีคนถ่ายรูปไปบ้างรึป่าว เธอยิ่งไม่อยากจะเป็นข่าวอยู่
“พี่ยังลงโทษเราไม่เสร็จเลยนะคนสวย แล้วก็ไม่ต้องกลัวขาดทุนด้วย เพราะพี่ไม่ปล่อยให้น้องพลอยขาดทุนไม่นานหรอกคนดี” เสียงอู้อี้เอ่ยออกมาตรงแถวๆ ซอกคอที่เขาฝังหน้าเอาไว้
“เพื่อนพลอยมองใหญ่แล้วนะคนบ้า” แพรพลอยทุบหลังคนหน้ามึนตุ๊บใหญ่เมื่อเห็นว่าเพื่อนๆ เริ่มหันมามอง
“ช่างเขาสิคะ” จริงๆ เขาไม่จำเป็นจะต้องมานั่งแคร์ใคร ยกเว้นแม่คุณทูนหัวของเขาคนนี้ แต่เห็นแก่เธอเขายอมก็ได้
“ปล่อยพลอยลงไปนั่งดีๆ สิคะ” แพรพลอยตีเผียะเข้าที่แขนแกร่ง
“ไม่” ภาคภูมิส่ายหน้าอย่างเอาแต่ใจ เรื่องอะไรจะปล่อย นั่งแบบนี้น่ะดีที่สุดแล้ว พวกเสือ สิงห์ กระทิง แรดจะได้รู้ว่ามีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้ว ขนาดรู้ว่ามีเจ้าของแล้วก็ยังมองอีก อย่างนี้จะปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ยังไง
“ว้าย ตายแล้ว นังชะนีหน้าตาดีมันนั่งตักซบใครกันล่ะนั่น” ซินดี้ที่หันมามองแพรพลอยก็เห็นว่าเพื่อนกำลังนั่งกอดคลอเคลียป้อนอาหารอยู่กับผู้ชาย ด้วยความห่วงจึงรีบเดินปรี่กลับโต๊ะ ทิ้งสเต๊ปแด๊นซ์
“พลอยแกลุกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เสียงเข้มๆ ซึ่งถ้าฟังดีๆ ก็รู้ว่าดัดเอ่ยทำลายบรรยากาศของคนทั้งคู่
แพรพลอยจะผละออกจากอ้อมกอดของภาคภูมิทันทีที่ได้ยินเสียงเข้ม ๆ ของเพื่อน แต่ก็ลุกไปไหนไม่ได้เมื่อมือใหญ่ไม่ยอมปล่อยเธอหนำซ้ำยังรัดแน่นมากกว่าเดิมเสียอีก ที่สำคัญยังตีหน้ายักษ์ใส่เธออีกแล้ว ถามว่าเธอผิดอะไร
“ไอนี่ใครน้องพลอย” ถามเสียงห้วน หน้าตึง
“ใจเย็นๆ กันทั้งสองคนเลยค่ะ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกันนะ โอเค๊” แพรพลอยลูบหน้าอกหนั่นแน่นไปมาเพื่อให้เขาคลายอารมณ์ แล้วส่งสายตาไปปรามเพื่อนที่ยืนเก๊กแมนแบบไม่เนียนอยู่ ดูก็รู้ว่ามันอัดอั้นที่จะไม่กรีดร้องออกมาสายตานี่โลมเลียพี่ภาคแบบเปิดเผยเลย แล้วยังจะพยายามทำแมนอีก ไม่รู้มันห่วงเพื่อนจริงหรือเปล่า
.
.
.
“พี่ภาคคะนี่ซินดี้มันเป็นตุ๊ดแต่ที่บ้านไม่รู้ค่ะ”
“ซินดี้นี่พี่ภาคเป็นเอ่อ...เป็น”
“เป็นคนรักน้องพลอยครับ”