มันเหงา(1)
ตอนที่ 4
มันเหงา
“รู้ว่าจะไปต่างจังหวัดทำไมถึงไม่เตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย”
ภูเบศร์เดินออกมาจากห้องน้ำเมื่อมองไปรอบตัวไม่เจอผู้หญิงที่คอยเตรียมทุกอย่างให้เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
ชายหนุ่มที่ไม่เคยสนใจว่าภรรยาของเขาจะอยู่หรือไปวั นนี้กลับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในห้องดูขวางตาไปหมด
ค่ำคืนนี้ถึงแม้จะเหลือเวลาแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะโผล่พ้นขอบฟ้าแต่สำหรับภูเบศร์แล้วมันช่างเป็นเวลาที่แสนยาวนาน ที่นอนที่เคยมีสาวน้อยนอนกอดอยู่เคียงข้างเขา วันนี้มีแค่เพียงความว่างเปล่าถึงแม้จะรู้สึกคิดถึงแต่ภูเบศร์ก็เลือกที่จะไม่โทรศัพท์หา รอให้อีกฝ่ายโทรมาก่อนแต่ก็ไร้วี่แวว
“คุณไม่ได้สอนแม่บ้านหรือไงถึงได้ทำกับข้าวรสชาติแย่แบบนี้”
บรรยากาศที่ช่างแสนเงียบเหงาบนโต๊ะอาหารทำให้นักธุรกิจหนุ่มกินอะไรแบบฝืดคอ เขาจึงโทรไปหาภรรยาเด็กแล้วโยนความผิดให้กับพมพ์ชนกว่าไม่ได้บอกแม่บ้านไว้เขาชอบกินรสชาติแบบไหนจึงทำให้อาหารไม่ถูกปาก
“พิมพ์ไม่รู้นี่คะว่าแม่บ้านจะทำอาหารไม่ถูกใจคุณ ก็เห็นก่อนที่พิมจะเข้าไปอยู่บ้านนั้นเขาก็ทำให้คุณกินอยู่”
ปลายสายรับโทรศัพท์ด้วยความดีใจคิดว่าสามีคงรู้สึกเป็นห่วงหรือไม่ก็คิดถึงแต่เมื่อได้ยินถึงธุระที่ภูเบศร์พูด พิมพ์ชนกก็มีแต่ความน้อยใจและแอบเสียใจที่สุดท้ายเขาไม่ได้โทรมาเพราะ ความเป็นห่วงแต่กำลังโทรมาต่อว่าแทน
“พอคุณเข้ามาอยู่เขาก็ไม่ได้ทำก็คงจะลืม...แล้วนี่เมื่อไหร่จะกลับ”
ภูเบศร์ทนไม่ไหวถามออกไปด้วยความอยากรู้ถึงแม้จะรู้ดีว่าภรรยาของเขาได้บอกไว้แล้วก่อนไปแต่เวลานั้นเขาไม่มีสมาธิที่จะฟังจึงจำไม่ได้
“พิมพ์บอกคุณไปแล้วนะคะ”
คนน้อยใจตอบออกไปด้วยเสียงไม่เต็มปากเพราะรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ของสามีกำลังไม่ดีแต่ก็แค่อยากให้เขารู้ว่าคำพูดของเธอไม่สำคัญกับเขาเลยหรือยังไง
“แต่ละวันผมมีเรื่องมากมายให้คิดคงไม่ได้มีสมองไว้จำคำพูดของคุณอย่างเดียวก็แค่บอกมาว่าจะกลับเมื่อไหร่มันยากนักหรือไง”
สามีที่เคยเป็นคนเอาใจเก่งถึงแม้จะปล่อยปละละเลยภรรยาไปบ้างแต่อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยพูดจาไม่ดี วันนี้กลับทำตัวเหมือนคนกำลังอารมณ์แปรปรวนไม่ว่าพิมพ์ชนกจะพูดอะไรก็ดูผิดไปเสียหมด
“ตอนแรกจะกลับวันมะรืนแต่คุณแม่ขอร้องให้อยู่ต่อคงจะกลับวันอาทิตย์หน้าเลยค่ะ”
พิมพ์ชนกโกหก มารดาของเธอไม่ได้ขอให้อยู่ต่อแต่เป็นตัวเธอเองที่อยากจะพักใจเพราะกลับไปอยู่กรุงเทพฯก็อยู่แต่บ้านใช้ชีวิตแบบเงียบเหงาแบบไร้จุดหมายอย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ยังมีอะไรเล็กๆน้อยๆให้ช่วยแม่ทำได้บ้าง
“แม่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าคุณมีสามีแล้ว”
“แม่พิมพ์ไม่ลืมหรอกค่ะถ้าจะมีใครสักคนลืมก็คงเป็นคุณเพราะทุกวันนี้บางวันพิมพ์ก็อดคิดไม่ได้ว่ามาอยู่ที่บ้านคุณในฐานะอะไรแม่บ้านคนรับใช้หรือน้องสาวถ้าจะให้ดีควรจะช่วยจำด้วย นะคะว่าคุณมีภรรยาแล้ว”
ภรรยาวัยละอ่อนพูดจบก็รีบวางสายทันทีเพราะเธอไม่อยากฟังวาจาที่เลวร้ายจากปากของสามีอีกแล้ว พิมพ์ชนกรู้สึกผิดหวังที่เธอตัดสินใจแต่งงานเร็วเกินไปโดยยังไม่ทันได้รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง สาเหตุที่ทำให้เธอตกหลุมละภูเบศร์เป็นเพราะเขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและปกป้องเธอได้เสมอแต่วันนี้หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขายังเป็นผู้ชายคนเดิมสำหรับเธออยู่หรือเปล่า