ภรรยาที่ถูกลืม(2)
“ขอบคุณนะคะสำหรับของขวัญวันเกิด”
เขมพัฒน์สาวสวยไฮโซบรรจงหอมลงไปที่แก้มของอดีตคนรักเวลานี้ทั้งคู่อยู่ในร้านอาหารชานเมืองที่อยู่ไกลสายตาจากผู้คน เธอจึงไม่กลัวว่าจะมีใครมาเห็น
“ผมมันก็แค่ตัวสำรองไม่มีโอกาสได้อยู่ในวันเกิดก็ต้องให้คุณวันนี้ล่ะครับ”
พรุ่งนี้ถึงจะเป็นวันเกิดที่แท้จริงแต่เวลานั้นเขมพัฒน์ก็ต้องอยู่กับสามี เธอจึงเลือกที่จะมาหาอดีตคนรักเก่าก่อนวันเกิดโดยให้เหตุผลกับคนที่บ้านว่าเธอออกมาเป็นเพื่อนมารดาทำธุระ
“อย่าน้อยใจสิคะ คุณเองก็แต่งงานมีภรรยาแล้ว เข็มก็มีสามีแล้ว คิดเสียว่าเรื่องของเราเป็นอาหารเสริมที่ทำให้หัวใจของเรากระชุ่มกระชวยดีกว่าค่ะ”
คำพูดของเขมพัฒน์ชัดเจนในความเห็นแก่ตัวอยู่แล้วถึงแม้ภูเบศร์จะสัมผัสได้แต่เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงยังคงอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ ทั้งที่ตลอดเวลาตั้งแต่เขาแต่งงานก็ยอมรับกับตัวเองว่าเขามีความสุขเวลาที่อยู่กับพิมพ์ชนกมากกว่าคนรักเก่าแต่พอแค่รู้สึกว่าจะต้องเสียเขมพัฒน์ไป เขากลับทนไม่ได้ ยอมเลือกที่จะทำร้ายหัวใจของพิมพ์ชนกเพียงคิดว่าในเมื่อเธอไม่รู้เธอก็คงไม่เจ็บ
“คืนนี้คุณอยู่กับผมทั้งคืนไม่ได้หรือไง”
ก่อนแต่งงานภูเบศร์เคยพยายามที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกับอดีตคนรักเก่าเพราะคิดว่าอาจจะทำให้เขมพัฒน์ยอมหย่ากับสามีมาอยู่กับเขาแต่ชายหนุ่มก็แปลกใจเหมือนกันเพราะตั้งแต่เขาแต่งงานก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาคิดจะมีความสัมพันธ์เกินเลยแม้จะมีโอกาสก็ตามแต่วันนี้ที่เขาพูดออกไปเพียงเพราะอยากรู้ว่าถ้าโอกาสมาอีกครั้งจริงๆเขาจะเลือกใครระหว่างภรรยากับเมียของคนอื่น
“ได้สิคะวันนี้เข็มบอกกับสามีแล้วว่าจะไม่กลับบ้านเพราะคุณแม่อยากให้นอนด้วย”
สาวสวยในชุดราตรีสีแดงไม่ใช่แค่พูดแต่มือนุ่มลูบลงไปที่แขนของอีกฝ่ายแววตาของเธอยั่วยวนมีเสน่ห์ยิ่งมองก็ยิ่ง น่าหลงใหล ส่งต่อผ่านไปยังดวงตาคมของนักธุรกิจหนุ่มที่กำลังจ้องตาเธออยู่เหมือนกัน
“กินข้าวก่อนดีกว่าครับ ร้านนี้อร่อยนะถึงแม้จะอยู่ลับตาคนไปหน่อยก็ตาม”
ภูเบศร์ดึงแขนของตัวเองออกมาจากฝ่ามือรเล็กที่กำลังลูบไล้ถึงแม้จะรู้ว่าการกระทำของเขาอาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับเขมพัฒน์แต่เขาไม่รู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนอย่างที่เคยเป็นแค่เพียงหญิงสาวโดนตัวใบหน้าของพิมพ์ชนกก็กลับเข้ามาในห้วงความคิดแทน
หญิงสาวไฮโซผู้เติบโตมากับคำว่าชนะสัมผัสได้ถึง การมเปลี่ยนแปลงของอดีตคนรักเก่าที่เคยยอมทำทุกอย่างเพื่อจะยื้อมีเธอไว้...แต่วันนี้แววตาของภูเบศร์กลับดูว่างเปล่าเหมือนกำลังมีความกังวลจนไม่มีสมาธิฟังในสิ่งที่เธอพูด สร้างความไม่พอใจให้กับเขมพัฒน์และทำให้เธอตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะและดึงเขาออกมาจากอารมณ์แบบนี้มาต้องการเธอและอยากได้เธอเหมือนที่เขาเคยเป็น
“เข็มอยากนอนกอดคุณจังเลยค่ะ”
คนตัวเล็กจากที่นั่งตรงข้ามลุกมานั่งเก้าอี้ข้างๆพร้อมกับโน้มตัวลงมาจูบลงไปที่แก้มสองมือคล้องคอโน้มหน้าของฝ่ายชายมาชิดติดจนปากแทบจะทาบสนิทกัน
“ผมว่าคุณกลับบ้านดีกว่าบางทีสามีของคุณอาจจะแกล้งเชื่อเพื่อหวังจะจับผิดก็ได้นะ”
ภูเบศร์พยายามแกะมือทั้งสองข้างที่เกาะคอเขาไว้ชายหนุ่มไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกันถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงจะรู้สึกดีใจที่อีกฝ่ายแสดงท่าทางแบบนี้กับเขา
“คุณรังเกียจเข็มหรือคะ เห็นแต่ก่อนพยายามทุกอย่างเพื่อให้เราได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันแต่นี่อะไรวันนี้กลับทำท่าเหมือนกลัวเข็มจะเข้าใกล้คุณอย่างนั้น อย่าบอกนะคะว่าคุณหลงรักเมียเด็กของคุณแล้ว”
หญิงสาวที่กำลังทอดสะพานเปลี่ยนอารมณ์ทันทีเพราะเขมพัฒน์ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาให้ทนกับการถูกปฏิเสธ
“ไม่ใช่อย่างนั้น...ผมแค่กลัวว่าถ้าสามีของคุณจับได้เราจะไม่ได้เจอกันอีกซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมคงยอมตายดีกว่า”
ภูเบศร์คิดเหตุผลพูดออกไปได้ทันทั้งที่มันตรงข้ามกับความคิดเขาเวลานี้ ชายหนุ่มแค่รู้สึกกลัวกลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเขมพัฒน์มันจะเกินเลย ภูเบศร์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันในเมื่อก่อนหน้านี้เขาเฝ้าฝันอยากจะมีความสัมพันธ์กับเธอแต่ทำไมเมื่อโอกาสมากลับเลือกที่จะปล่อยมันให้หลุดมือออกไป
บรรยากาศที่คิดว่าจะสุดแสนโรแมนติกในความคิดของเขมพัฒน์แปรเปลี่ยนเป็นความโมโหทันทีเมื่อเธอรู้สึกไม่ได้ดั่งใจกับสิ่งที่ต้องการ หญิงสาวจึงขอตัวขับรถกลับบ้านโดยไม่ยอมให้อีกฝ่ายขับรถไปส่งเพราะไม่อยากรู้สึกพ่ายแพ้หรือโดนปฏิเสธแบบนี้จึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายเล่นตัวและโกรธเขาบ้าง