บท
ตั้งค่า

4 สมพงษ์

คาลวินยืนรอเลขาขับรถมารับอยู่ด้านหน้าอาคารเห็นสาวสวยคนเมื่อเช้า ใบหน้าเธอดูไม่ดีเลยผิดกับตอนเดินเข้าไปคงเพราะเรื่องที่เขาได้ยินมาเมื่อครู่

“เดี๋ยวข้าว”

“มีอะไรอีกคะ”

“เรื่องที่เกิดขึ้นจะโทษพี่คนเดียวไม่ได้ ที่ข้าวต้องถูกไล่ออกแบบนี้” สมพงษ์หัวหน้างานเธอบอกด้วยสีหน้าไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย

“ไม่ให้โทษพี่แล้วข้าวต้องโทษใครคะ ยอดเงินที่ไม่ตรงข้าวบอกพี่ไปแล้วพี่ก็ยืนยันว่าต้องใส่ยอดนี้ แล้วไหนจะลายเซ็นนั่นอีก ข้าวไม่ได้เป็นคนเซ็นพี่ก็รู้”

“ถือว่าช่วยพี่สักครั้งเถอะ อย่าโกรธพี่เลย”

“ที่ผ่านมาพี่ใช้ข้าวเป็นบันไดจะปีนไปสูงแค่ไหนข้าวไม่เคยว่า แต่การที่พี่ทำแบบนี้มันไม่ต่างจากโจร สักวันเรื่องที่พี่ทำก็จะมีคนรู้”

“นี่เห็นพี่ใจดีด้วยหน่อยกล้าพูดแบบนี้เลยเหรอ ถ้าคนอื่นมาได้ยินเขาจะคิดยังไง”

“ก็แล้วแต่เขาจะคิดสิคะในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง ทำไมพี่ทนฟังไม่ได้รึไง”

“นี่! มันจะมากไปแล้วนะข้าวหอม” สมพงษ์ตะคอกเสียงดุใส่หญิงสาวอย่างหัวเสียท่าทางโกรธจัดที่ถูกต่อว่า

“ถ้าแค่นี้มากไปแล้วสิ่งที่พี่ทำกับข้าวล่ะคะเรียกว่าอะไร พี่เป็นผู้ชายน่ะไม่ละอายใจบ้างหรือไงที่โยนความผิดให้ผู้หญิงน่ะ”

สิ้นเสียงใส คนหัวร้อนขาดสติผลักร่างข้าวหอมอย่างแรงจนหญิงสาวถลาไปชนกับแบคดรอปล้มลงไปกองกับพื้น ทำให้ป้ายจะล้มทับร่างหญิงสาวหากไม่มีแขนแข็งแรงของใครบางคนมาช่วยรับไว้ทันเสียก่อน

“คุณเป็นอะไรมั้ย”

“ไม่ ขอบคุณค่ะ” เธอบอกขณะจ้องมองสมพงษ์อย่างเอาเรื่อง ร่างบางถูกพยุงให้ลุกขึ้น เขามองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าเมื่อเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร จึงเบือนหน้าหันไปมองทางชายต้นเรื่อง

“ทำแบบนี้กับผู้หญิงไม่เกินไปหน่อยหรือครับ” เสียงเข้มบอกพร้อมส่งสายตาตำหนิให้

“ผมไม่ได้ทำอะไรเธอล้มลงไปเองต่างหาก แล้วคุณเป็นใครมายุ่งเรื่องคนอื่นทำไม”

“เพราะผมทนเห็นผู้หญิงถูกรังแกไม่ได้” เขาบอกเสียงเข้ม

“แหม! ดีนิข้าวถูกไล่ออกปุ๊บก็มีผู้ชายมาปกป้องปั๊บ ถวายตัวให้เขาแล้วสินะ พี่คิดไว้แล้วว่าผู้หญิงอย่างเธอมันก็เล่นตัวอัพราคาเท่านั้นแหละ ทีกับพี่ทำเป็นเล่นตัวถ้ายอมพี่ดีๆ ป่านนี้ก็คงไม่ต้องมาถูกไล่ออกแบบนี้”

สมพงษ์บอกด้วยสีหน้าเย้ยหยันน้ำเสียงดูถูก ทำคนถูกต่อว่าควันออกหู กำหมัดแน่น

“เพราะข้าวฉลาดเลือกค่ะ แยกของจริงกับของปลอมออกจากกันได้ เพชรก็คือเพชร ดินก็คือดิน แต่พี่ไม่ได้เป็นทั้งเพชรและดิน และข้าวก็ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปคุ้ยขยะหรอกค่ะมันน่าขยะแขยง”

ดวงตาโตขึงตามองอย่างเอาเรื่องปากบางเม้มเบะลงพร้อมกับยักไหล่ด้วยท่าทางกวนโอ๊ยจนคนฟังถึงกับกัดกรามแน่น

“อีนี่อยากโดนใช่มั้ย” สมพงษ์สบถออกมาอย่างหัวเสียพร้อมกับง้างมือจะตบหญิงสาวตรงหน้า

“ถ้าคุณไม่หยุดผมจะโทรแจ้งตำรวจ”

คาลวินใช้ตัวเข้ามาขวางด้านหน้าหญิงสาวพร้อมกับขู่ชายตรงหน้า ที่ดูแล้วเป็นผู้ชายอารมณ์ร้อนคนหนึ่ง ยิ่งหญิงสาวยั่วโมโหยิ่งเป็นการทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย

“ครั้งนี้กูจะปล่อยมึงไปก่อน เห็นแกมิตรภาพที่ผ่านมาแต่อย่าให้เจอมึงที่ไหนอีกนะ” สมพงษ์พูดทิ้งท้ายด้วยอารมณ์ขุ่นมัวแล้วเดินหายเข้าตึกไป

“คุณก็ไม่น่าไปยั่วโมโหเขาแบบนั้นเลย เดี๋ยวก็ได้เจ็บตัวเข้าจริงๆหรอก” คาลวินหันมาเตือนด้วยความหวังดี

“แล้วเขามีสิทธิอะไรมาพูดดูถูกฉัน”

น้ำเสียงสั่นเครือบอกด้วยความโกรธสองมือกำหมัดแน่นโดยไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ ที่จริงแล้วเมื่อครู่เธอทั้งโกรธและกลัวมากแต่ทำใจดีสู้เสือไปอย่างนั้น

“ไอ้สมพงษ์ไอ้คนเฮงซวย เฮงซวย เฮงซวย”

ข้าวหอมตะโกนลั่นออกมาหน้าตึกระบายอารมณ์ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาข้างแก้มและเธอเช็ดมันออกอย่างรวดเร็ว คาลวินยืนมองหญิงสาวที่ยืนนิ่งกับที่ ราวกับไว้อาลัยให้กับชีวิตตัวเองสักพัก ก่อนที่สาวน้อยจะสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ เดินตรงไปลานจอดรถแล้วขับมอเตอร์ไซค์คันเดิมออกไป โดยไม่หันมาขอบคุณเขาสักคำ

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปข้าวหอมยังคงเดินหน้าสัมภาษณ์งานไปตามที่ต่างๆแต่ยังไม่มีบริษัทไหนรับ วันนี้ระหว่างขับรถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้คู่ใจกลับบ้านผ่านป้ายรถเมล์สายตาก็เหลือบมองไปเห็นชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินชนหญิงสูงวัยล้มลงไปกองกับพื้นโดยไม่คิดจะช่วย เห็นดังนั้นเธอไม่รอช้ารีบจอดรถแล้วลงไปช่วยทันที

“นังแก่นี่ชนเบาๆเองทำเป็นล้ม คิดจะหลอกเอาเงินกันรึยังไง”

“ฉันเปล่านะ”

“เปล่าก็รีบลุกขึ้นมาสิวะ เห็นมั้ยว่าคนมองกันใหญ่แล้ว”

“นี่ ชนคนแล้วนอกจากจะไม่ขอโทษ ไม่คิดจะช่วย แล้วยังมีหน้ามาพูดจาแบบนี้กับคนแก่อีก ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่รึเปล่า”

“แล้วนี่ใครอีกมายุ่งเรื่องของคนอื่นทำไม อ่อเป็นพวกเดียวกันสินะ วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ย มุขนี้ใช้ไม่ได้ผลหรอกน้องสาว”

“น้องสาวแม่นายน่ะสิ เป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า ทำคนอื่นเจ็บตัวยังมาอ้างโน่นอ้างนี่ วันหลังก็เอากระโปรงผู้หญิงมาใส่ซะนะ” ข้าวหอมต่อว่าอย่างไม่พอใจ ที่คนตรงหน้าดูจะไม่รู้สึกผิดอะไร

“อ่าวอีนี่ปากดีนะ ต้องโดนสักทีจะได้รู้จักสงบปากสงบคำเสียบ้าง”

ชายคนเดิมพูดพร้อมกับเดินเข้ามาผลักหญิงสาวที่กำลังช่วยพยุงหญิงชราให้ลุกขึ้นอย่างแรง ทำให้ทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกัน

“ไอ้น่าตัวเมียเล่นทีเผลอเหรอ”

เสียงหวานตะโกนต่อว่าพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปผลักชายตรงหน้าเอาคืนบ้าง เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำเช่นนี้ เลยไม่ทันตั้งตัวแรงผลักทำเขาเซถลาถอยหลังจนเกือบล้ม เมื่อตั้งหลักได้จึงเดินตรงมายังเธออย่างเอาเรื่อง สีหน้าไม่พอใจมาก

“หน็อยแน่! อีนี่กล้าดีนักนะ มาผลักกู”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel