5 รู้สึกโชคดีจังที่เจอเขา
ฝ่ามือใหญ่ง้างขึ้นกำลังจะฟาดลงมาที่ใบหน้าสวย หากแต่มีแขนใหญ่แข็งแรงของใครบางคนมาจับคว้าไว้ได้ทันเสียก่อน
“ไม่อายเหรอรังแกผู้หญิงกับคนแก่น่ะ” เสียงเข้มถามขึ้นขณะคว้าข้อมือชายอีกคนไว้ได้
“แล้วมึงเป็นใครอีก มายุ่งเรื่องคนอื่นทำไม”
“ก็แค่ทนเห็นผู้หญิงโดนรังแกไม่ได้”
“ทำเป็นคนดีไม่ดูสถานการณ์ต้องเจอนี่”
ชายคนเดิมเค้นเสียงโกรธจัด พร้อมกับปล่อยหมัดอีกข้างตรงมายังใบหน้าหล่อ แต่เขาหลบได้ทันก่อนใส่เข่าไปที่หน้าท้องของชายคนนั้นไปหนึ่งที ตามด้วยหมัดหนักๆวาดลงที่แก้มเน้นๆหมัดเดียวทำเลือดกำเดาของคู่ต่อสู้ไหล
“ถ้ายังไม่อยากจบไปต่อที่โรงพักได้นะ” คาลวินขู่อย่างเป็นต่อ
“พวกหมาหมู่ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้กูเจออีกนะ”
ชายคนเดิมขู่ก่อนรีบวิ่งหนีไป ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันปรบมือให้เขาและเธอ แล้วช่วยกันพยุงหญิงสูงวัยลุกขึ้นและส่งขึ้นรถโดยไม่ลืมหันมาขอบคุณเขาด้วย
“ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วย” ข้าวหอมบอก
“ก็ถือว่าหายกันครับ”
“หายกัน”
เธอทวนคำอย่างไม่เข้าใจ สีหน้ามึนงงของเธอทำให้เขารู้ในทันทีว่าเธอจำเขาไม่ได้ คาลวินแอบผิดหวังเล็กน้อยที่เธอจำไม่ได้ ทั้งที่เขาจำเธอได้แม่นยำแม้เห็นแต่ไกล
“คุณบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เขาถาม
“ไม่ค่ะขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วย ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน” ข้าวหอมบอกก่อนหมุนตัวเดินจากไป
“เดี๋ยวครับ”
“คะ”
“แขนของคุณ”
เธอมองตามนิ้วที่ชี้มา และต้องหลับตาปี๋เพราะเธอเป็นคนกลัวเลือดแม้จะนิดเดียวก็ตาม เธอก็ไม่อยากจะมองมันเลย
“อื้ม!”
“เป็นอะไรครับ เจ็บเหรอ”
“ก็ไม่เจ็บขนาดนั้นหรอกค่ะ พอดีฉันกลัวเลือด”
“แล้วคุณจะทำยังไงกับแผลนั่น”
“เอ่อ ไม่รู้สิเอาผ้าพันปิดไว้ก่อน น่าจะไม่เป็นอะไร ถึงบ้านแล้วค่อยทำแผล” เธอบอกด้วยใบหน้าซีดเซียว
“มากับผมเถอะครับเดี๋ยวผมช่วย”
คนพูดบอกพร้อมถือวิสาสะจูงมือหญิงสาวเข้ามานั่งในร้านที่เขานั่งกินข้าวอยู่เมื่อครู่
“คุณรอผมตรงนี้ก่อนนะ”
คาลวินยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้หญิงสาวถือไว้กันไม่ให้เธอหนี ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผล ร่างใหญ่สูงร้อยแปดสิบนั่งย่อลงตรงหน้าหญิงสาว แขนเรียวถูกเขาจับยื่นมาด้านหน้าเห็นดังนั้นข้าวหอมรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันทีเพราะไม่อยากเห็นเลือด
“ถ้ากลัวก็หลับตาไว้ครับ ผมจะล้างแผลให้”
เสียงทุ้มบอกอย่างอ่อนโยนแต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้ความกลัวของเธอลดลงแม้แต่น้อย น้ำเกลือเย็นๆถูกลาดลงบนแผลอย่างเบามือ แต่ก็ทำให้คนขี้กลัวแสบมากกว่าคนปกติ
“อื้อ”
เสียงหวานร้องคางพร้อมกับหลับตาพริ้ม ทำอีกคนมองแล้วยกยิ้มมุมปากกับท่าทางของคนขี้กลัวอย่างเอ็นดู ก่อนก้มหน้าลงเป่าแผลให้ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มผ่อนคลาย จึงจัดการทาเบตาดีนที่แผลให้ก่อนปิดด้วยผ้าปิดแผลให้เป็นอย่างดี
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
“คุณจะไปไหนให้ผมไปส่งมั้ย”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันเอารถมาขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ครับ แผลไม่ใหญ่มากแต่ไม่ควรโดนน้ำและต้องล้างแผลทายาทุกวันไม่อย่างนั้นจะติดเชื้อได้ คุณใช้น้ำเกลือล้างก่อนและทายาตัวนี้ตาม ” เขาอธิบายพร้อมชูอุปกรณ์ขึ้นโชว์ ก่อนยื่นใส่มือหญิงสาว
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ คุณจะนั่งพักต่ออีกหน่อยก็ได้ผมจ่ายเงินไว้แล้ว”
เขาบอกทิ้งท้ายก่อนเดินจากไปปล่อยเธอมองตามจนเขาเดินลับสายตา -รู้สึกโชคดีจังที่เจอเขา- เธอคิด
ผ่านไปหลายวันหน้าผับหรูแห่งหนึ่ง เพื่อนสาวไฮโซที่เหมือนอยู่คนละโลกกับข้าวหอมพาสาวน้อยผู้รักชีวิตเรียบง่าย ด้วยความที่เป็นคนจิตใจดีจริงใจกับความสัมพันธ์โดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้ข้าวหอมเป็นที่รักของเพื่อนๆ วันนี้หญิงสาวถูกพามาปลอบใจเรื่องที่เธอถูกไล่ออก
สาลี่และชานนท์พาเพื่อนรักเที่ยวใช้ชีวิตยามราตรี ก่อนจะต้องกลับไปอยู่ในโลกของตัวเองอีกครั้ง ปกติข้าวหอมไม่ชอบเที่ยวกลางคืนเพราะต้องประหยัดเก็บเงินไว้เป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายของน้องชาย นานๆทีจะมีโอกาสได้ออกมาสนุกเพื่อนทั้งสองจึงจัดการพาเพื่อนรักตระเวนเที่ยวทั่วเมืองให้สมใจไปเลย ก่อนพากันมาต่อที่นี่
“ฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่านี่มันก็ดึกมากแล้ว” ข้าวหอมบอกเมื่อสถานที่แห่งนี้ช่างไม่เหมาะกับเธอเอาเสียเลย
“นี่ยัยข้าวจะรีบกลับไปทำไม พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย”
“แต่ฉันก็ต้องไปสัมภาษณ์งานนะลี่” ข้าวหอมบ่นอย่างเหนื่อยๆ
“เอาน่าข้าวแกเครียดมาหลายวันแล้ว ถือว่ามาปลดปล่อยก่อนเริ่มต้นงานใหม่” สาลี่พยายามโน้มน้าวหวังให้เพื่อนคล้อยตาม
“นั่นสิอาทิตย์หน้าฉันก็ต้องไปอยู่สวีเดนกับสามีฉันแล้ว เดี๋ยวก็ไม่ได้เจอกันอีกนานถือซะว่าเลี้ยงส่งฉันแล้วกันนะ” ชานนท์เพื่อนชายสุดหล่อที่มีรสนิยมชมชอบผู้ชายด้วยกันช่วยเสริมอีกแรง
“นะอยู่ต่อเถอะ เดี๋ยวพวกฉันไปส่งแกเอง” สาลี่ยังคงรบเร้าต่อ
“ก็ได้ๆ ถึงแค่ตีหนึ่งนะ”
“อืมได้สิ” สาลี่บอกก่อนหันไปสั่งเครื่องดื่มให้เพื่อนสาว