บทที่ 3 ผู้หญิงคนนั้นที่เธอเกลียด(2)
"ผ่าตัดเหรอคะ" เสียงแหบแห้งของหญิงสาวในวัยยี่สิบหกปีเอ่ยถามคุณหมอวัยกลางคนที่เป็นเจ้าของไข้ที่เป็นคุณพ่อของเธอ ดวงตาภายใต้กรอบแว่นหนาของหญิงสาวไหวระริกจากการข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา หลังจากพูดคุยกับคุณหมอจบร่างอันไร้เรี่ยวแรงของอาจารย์สาวก็แทบทรุดลง
เธอเดินออกมาจากห้องของคุณหมอราวกับร่างที่ไร้วิญญาณ เท้าเล็ก ๆ ของเธอเดินมาหยุดที่สวนหย่อมของโรงพยาบาลนึกสารพัดวิธีที่จะหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาคุณพ่อ คนที่เธอรักที่สุดหลังจากที่แม่ทิ้งเธอไว้พร้อมกับหนีไปกับผู้ชายคนหนึ่งเมื่อสิบปีที่แล้วเธอก็มีเพียงบิดาที่ยังรักเธอเสมอมา ครอบครัวของเธอเป็นชนชั้นกลางพ่อทำงานเป็นครูโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งแม่ทำงานเป็นพนักงานบริษัท
วันที่เกิดเรื่องเธอมีอายุแค่สิบเจ็ดปีเป็นวันที่เธอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกพอดีเพราะเธอเข้าโรงเรียนก่อนเกณฑ์จึงเรียนจบก่อนและแน่นอนว่าเกรดเฉลี่ยที่เธอถือมานั้นมันเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของเธอการสอบได้ที่หนึ่งของชั้นยังไม่น่าภูมิใจเท่ากับเธอสอบได้เรียนมหาลัยที่มีชื่อเสียงและยังได้รับทุนการศึกษาของที่นั่นด้วย เธอสอบเข้าได้คะแนนอันดับหนึ่งทิ้งห่างเบอร์สองและสามไม่เห็นฝุ่น ในตอนที่เธอกำลังเข้าไปในบ้านด้วยความดีใจและอยากให้พ่อกับแม่ได้เห็นความพยายามของเธอด้วย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเข้ามาในบ้านเสียงทะเลาะกันเสียงดังก็พาเท้าทั้งสองข้างของเธอให้ยืนหยุดที่หน้าประตู คนที่ทะเลาะกันด้านในนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะนั่นคือพ่อกับแม่ของเธอเองและไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินพ่อกับแม่ทะเลาะกัน ถึงพวกเขาจะพยายามทะเลาะกันไม่ให้เธอรู้แต่เพราะเธอโตพอที่จะจับสังเกตได้ว่าครอบครัวของเธอไม่ได้เป็นครอบครัวแสนสุขเหมือนกับที่พ่อกับแม่พยายามให้เธอเห็น ทุกครั้งที่เธอไม่ได้อยู่ด้วยทั้งสองคนมักทะเลาะกันทุกครั้งและเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ของพวกท่านก็คือเรื่องเงิน
พ่อที่อยู่อย่างสมถะกับแม่ที่ชอบใช้เงินเกินตัวไม่รู้เมื่อไรที่แม่ของเธอเปลี่ยนไปขนาดนั้น แม่ชอบแต่งตัวแต่งหน้าจัดและชอบเข้าสังคมไม่มีวันไหนที่แม่ทำงานแล้วจะเลิกไว แม่มักกลับบ้านดึกเสมอในตอนนั้นเธอคิดว่าแม่ต้องทำโอทีเพื่อเงินเดือนมากขึ้นแต่เธอเพิ่งรู้ว่านั่นไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง วันหนึ่งเธอเลิกจากโรงเรียนแล้วเพื่อนนัดกันไปดูหนังโดยที่เธอเองก็แอบพ่อกับแม่ไปเหมือนกันและวันนั้นเธอก็เห็นแม่ของเธอที่ห้างยังไม่ทันที่เธอจะไปซื้อตัวเพื่อจะดูหนังกับเพื่อน ทันทีที่เห็นแม่เดินมากับผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเธอก็แยกตัวกับเพื่อนแล้วตามแม่ของเธอไปภายในใจคิดถึงสิ่งที่เห็นอย่างไม่เชื่อสายตา แม่ที่เธอรักในตอนนั้นกำลังเดินเกาะแขนผู้ชายคนนั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและผู้ชายคนนั้นยังเดินโอบเอวเธอไม่ห่าง ตอนนั้นเธอเองก็ทำอะไรไม่ถูกแต่ความอยากรู้เธอก็สะกดรอยตามแม่ของเธอกับผู้ชายคนนั้นไปห่าง ๆ เขาพาแม่ของเธอเข้าช็อปหรูหลายแห่งและแม่เธอก็กลับออกมาพร้อมกับถุงหิ้วแบรนด์หรูหลายใบ เท่านั้นยังไม่พอหลังจากพวกเขาทั้งสองเดินออกมานอกห้างก็มีรถยนต์อัลพาร์ดสีดำป้ายแดงมาจอดรับและทั้งสองคนก็ขึ้นรถไป เธอในตอนนั้นก็ขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ตามไปติด ๆ ทั้งยังอยู่ในชุดนักเรียน
รถที่แม่ของเธอนั่งมาเข้าไปจอดในโรงแรมแห่งหนึ่งเธอเห็นพวกเขาลงและเดินโอบกอดกันเข้าไปในโรงแรมเธอรีบลงจากรถและจ่ายเงินแล้วเดินตามไปห่าง ๆ แต่เพราะเธอรู้ว่าที่แบบนี้เธอไม่สามารถเดินดุ่ม ๆ เข้าไปได้มีเพียงทางเดียวคือเธอต้องรอซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ทั้งสองคนจะออกมา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังนั่งรออยู่ริมถนนตาจ้องไปที่ทางเข้าอย่างไม่วางตาเพื่อรอให้คนพวกนั้นออกมา
เธอไม่ใช่เด็กน้อยแต่เธอก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนั้นเข้าไปทำไมเพราะแม่เธอก็มีพ่อของเธอและยังมีลูกสาวซึ่งก็คือเธอ ถึงจิตใจใฝ่ดีจะยังให้ความเชื่อมั่นในตัวมารดา แต่จิตใจใฝ่ต่ำก็ยังคิดเรื่องดีไม่ได้ ขนาดแม่ของเธอกับผู้ชายคนนั้นเดินในที่สาธารณะยังมีโอบเอวหอมแก้มกันอยู่บ่อยครั้งและถ้าเข้าไปในที่ส่วนตัวแบบนั้นถึงจะคิดดีขนาดไหนความคิดชั่วร้ายก็ยังมีเปอร์เซ็นต์สูงมากกว่าอยู่ดี เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะจับแม่ที่กำลังเล่นชู้สวมเขาให้พ่อ
สองชั่วโมงที่เธอยืนตากแดดตากลมอยู่ที่หน้าโรงแรมทันทีที่เห็นรถยนต์คันหรูป้ายทะเบียนที่เธอจำได้แม่นเข้ามาจอดด้านหน้าเธอก็วิ่งไปแอบทันทีและไม่กี่นาทีสองคนที่พากันเข้าไปก่อนหน้านั้นก็เดินออกมา ใบหน้าของแม่เธอสดใสอิ่มเอิบไม่ต่างจากผู้ชายคนนั้นแต่ที่แตกต่างจากตอนเข้าไปอย่างเห็นได้ชัดคือตอนที่แม่ของเธอเข้าไปไม่ได้สวมชุดนี้แน่นอน เธอมองแม่ที่กำลังหอมแก้มผู้ชายคนนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ดวงตาคู่สวยฉ่ำไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ไม่นานก็มีแท็กซี่วิ่งเข้ามาจอดด้านหลังรถคันนั้นคนขับรถหรูลงจากรถและหยิบถุงที่แม่ของเธอเดินช็อปมาใส่บนรถแท็กซี่ เธอมองแม่ของเธอที่โอบแขนไปที่รอบคอของผู้ชายคนนั้นอย่างผู้หญิงใจกล้าคล้ายไม่อยากแยกออกจากกันแต่ผู้ชายคนนั้นพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้แม่ของเธอต้องผละออกแต่ถึงอย่างนั้นแม่ของเธอก็ยังยิ้มออกมาไม่หยุดหัวใจของเธอแทบสลายเมื่อรู้แน่ว่าแม่ที่แสนดีของเธอทำอะไรลับหลังพ่อ
และนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็นแม่ของเธอกับผู้ชายคนนั้นแต่เธอก็ยังปล่อยให้เป็นเรื่องราวของผู้ใหญ่ แม่ที่พอกลับเข้ามาในบ้านก็ทำตัวเป็นแม่ที่ดีแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ว่าบรรยากาศในบ้านมันเปลี่ยนไป พ่อที่ไม่ค่อยพูดกับเงียบขรึมลงกว่าเดิมทั้งสองคนไม่ค่อยพูดกันและมันเป็นความเงียบงันแต่เขาทั้งสองยังพูดกับเธอเหมือนปกติแต่หารู้ไม่ว่ามันไม่มีอะไรปกติสำหรับเธอแล้ว บ้านที่เคยมีเสียงหัวเราะนั่นเป็นเพียงแค่อดีตและมันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายเพราะแม่ตัดสินใจที่จะหนีจากพ่อเธอไปในวันนั้น วันที่เธอถือใบเกรดและเอกสารเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยชื่อดัง
และสิ่งที่เหมือนจะเป็นการขาดสะบั้นของพ่อกับแม่ก็คือวันนั้นนั่นเองเสียงพูดด่าทอต่อว่าพ่อที่ไม่มีท่าว่าจะโต้แย้งเลยสักครั้งผิดกับครั้งที่แล้วมา เธอได้ยินเพียงคำพูดของพ่อที่ขอร้องอ้อนวอนผู้หญิงคนนั้นแต่ยิ่งพูดขอร้องเท่าไรก็ยิ่งได้รับคำพูดที่เชือดเฉือนจากผู้หญิงคนนั้นสิ่งที่เธอได้ยินไม่คิดว่ามันจะออกมาจากปากของคนที่เธอเรียกว่าแม่มาตลอดสิบเจ็บปี เธอเพิ่งรู้ว่าการที่ผู้หญิงคนนั้นท้องและคลอดเธอออกมามันเป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ต้องการเลยสักนิด คำที่ว่ามันเป็นความผิดพลาดที่ออกมาจากปากของคนที่เธอเรียกว่าแม่และคำพูดที่ว่าถ้าหากเธอตัดสินใจไปเอาออกตั้งแต่รู้ว่าท้องได้แค่เดือนเดียวเธอคงจะไม่ต้องมามัวอยู่กับชีวิตแบบนี้
นั่นคือคำพูดที่ทำให้เธอหัวใจสลายแม่ที่ไม่เคยต้องการเธอแต่อยู่เพราะคิดว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นตามที่พ่อเธอบอก แต่สิบเจ็ดปีที่ผ่านมามันกลับไม่เป็นแบบนั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมพ่อเธอยังเป็นครูใกล้วัยเกษียณทั้งยังไม่มีความก้าวหน้าและไม่มีทางไปได้ไกลกว่านี้
กุนณฉัตรยังคงยืนฟังสิ่งที่คนที่คลอดเธอออกมาพ่นคำพูดต่าง ๆ นา ๆ ล้วนแล้วแต่ก็เป็นคำพูดที่บั่นทอนจิตใจและนั่นก็จบลงที่ผู้หญิงคนนั้นเดินออกจากบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าสองใบ ในตอนที่เธอยืนให้น้ำตามันไหลอยู่นั้นรถยนต์คันคุ้นตาก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเสียงเปิดประตูพร้อมกับร่างของหญิงสาวแต่งตัวสวยที่ก้าวออกมาทำให้เธอต้องรีบยกมือปาดน้ำตา ผู้หญิงคนนั้นหันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจก่อนจะเรียกชื่อของเธอดวงตาคู่สวยของผู้หญิงคนนั้นไหวระริกเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่จะร้องออกมาทำไมในเมื่อสิ่งที่พูดออกมานั้นมันทำเอาหัวใจดวงน้อยของเธอแตกสลายไปแล้ว และมันไม่มีวันเหมือนเดิม!!
"กั้งคือแม่.."
"คุณไปซะแล้วก็ไม่ต้องกลับมาฉันจะจำไว้ว่าฉันไม่มีแม่อย่างคุณและคุณก็ไม่ใช่แม่ฉันอีกต่อไป เจอกันที่ไหนขอเพียงแค่คุณเดินผ่านไป ฉันก็จะทำแบบนั้นเหมือนกันแต่ยังไงก็ขอบคุณที่คลอดฉันออกมาแทนที่คุณจะเอาออก!"