บทย่อ
แนะนำเรื่องใหม่ แนวพระเอกขี้อ้อน-นางแอบแซ่บ เตชินทร์หรือตฤณ ภูวรินทร์โชติ เด็กหนุ่มคราบมาเฟียเย็นชากับคนอื่นชอบแกล้งนางเอก ตฤณชอบที่ได้เห็นกุนณฉัตรแต่งตัวเป็นสาวเฉิ่มแต่กลายร่างเป็นนางแมวยั่วสวาทร่านร้อนใต้ร่างในยามค่ำคืน กุนณฉัตร ไพรพรรณ อาจารย์สาวเฉิ่มลุคคุณป้าแต่ใครจะคิดว่าเธอเปิดแอคลับหวิวโชว์เสียwหารายได้พิเศษ ***---***---***---*** ตัวอย่างในเรื่อง "หึ!อย่าคิดว่าจะมาทำอะไรคนของกูง่าย ๆ กูถนอมของกูมาตั้งเท่าไรไม่เคยทำให้เธอเสียใจร้องไห้นอกจากนอนน้ำตาไหลใต้ร่างกูแล้วมึงคิดว่ามึงเป็นใคร" ตฤณพูดเสียงเหี้ยมกับตัวเองดวงตาดำเข้มทอดมองไปด้านหน้าที่เป็นยอดตึกสูงเสียดฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เขาก็ไม่อยากให้เธอมาวุ่นวายใจเธอต้องมีความสุขเท่านั้น .... "ตฤณพี่เข้ามหาลัยก่อนนะทำอาหารไว้ให้แล้วอย่าลืมทานด้วยนะ" "หอมแก้มผมก่อนไปทำงานด้วยสิครับ" กุนณฉัตรที่ได้ยินเสียงเข้มก็ก้มลงนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าก่อนจะถามกลับพร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ "งั้นต้องถามก่อนว่านี่คือประโยคคำสั่งหรือประโยคขอร้องคะ" เธอมองคนตัวโตก่อนจะยื่นมือไปสางผมที่ปรกลงมาบนใบหน้าคนตัวโตไปด้วยก่อนที่เขาจะจับมือเธอออกมาแล้วก้มลงจูบที่ฝ่ามือของเธอแล้วก็พูดสิ่งที่เธอต้องการได้ยินและนั่นก็ทำเอาเธอหัวใจสั่นไหวอย่างรุนแรง "ขอร้องสิครับนะ..นะครับ" และนั่นก็ทำเอาหญิงสาวใจสั่นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเขาขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและยังทำตาปริบ ๆ ใส่แบบนี้ นี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะแค่นี้เธอก็หลงรักเขาไม่ไหวแล้ว "พี่กั้งงง.."
บทที่ 1 บทนำ
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ห้องพักอาจารย์
-อาจารย์กุนณฉัตร ไพรพรรณ-
"ขออนุญาตค่ะ อาจารย์คะวันนี้พวกเรามาชวนอาจารย์ไปฉลองเลี้ยงจบ อาจารย์ไปนะคะ" สาวนักศึกษาหน้าสวยสุดปีสี่ที่ถูกเพื่อนดันหลังเข้าไปในห้องอาจารย์ที่ขึ้นชื่อว่าดุที่สุดทั้งยังเนี๊ยบสมกับเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง แต่เพราะพวกเธอต้องการให้อาจารย์สาวไปด้วยจริง ๆ และยังมีการจัดเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ อันที่จริงอาจารย์กุนณฉัตรถือเป็นอาจารย์ที่พวกเด็ก ๆ ให้ความเคารพและรักเธอมากถึงจะเป็นคนที่ได้ชื่อว่าดุแต่ก็ไม่มีใครไม่รักเธอ ไม่ได้มีเพียงวิสุนีที่เป็นตัวแทนยังมีเพื่อนอีกสองคนที่ยืนขนาบข้างเธออยู่ไม่ต้องถามว่าที่เหลืออีกประมาณยี่สิบคนอยู่ไหน ก็ยืนลุ้นอยู่ที่หน้าห้องอาจารย์นั่นไง
เด็กสาวว่าที่บัณฑิตทั้งสามคนยืนทำหน้าตาน่าสงสารจนกุนณฉัตรเห็นก็อดไม่ได้ที่จะต้องยอมแพ้
ก็เพราะเธอไม่เคยใจแข็งกับเด็กพวกนี้ได้เลยสักที
"นะ..นะคะเดี๋ยวพวกหนูก็ต้องแยกย้ายกันไปแล้วงานรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการฉลองให้กับอาจารย์ที่อดทนกับพวกเรา" วิสุนียังออดอ้อนเสียงหวานทำตาปริบ ๆ เด็กสาวสองคนก็ไม่ต่างกันอันที่จริงพวกเธอมีของขวัญจัดไว้ให้อาจารย์ชุดใหญ่และยังเหมาร้านไว้โซนนึงเพราะเด็กนักศึกษาที่ไปกันก็ไม่น้อยและต่างก็รอคอยคำตอบของอาจารย์อย่างมีความหวัง
"โอเคค่ะไปก็ได้" ในที่สุดกุนณฉัตรก็ทนความรบเร้าของสาว ๆ ไม่ไหวเธอก็ตอบตกลงอย่างเสียมิได้
"เย้.."สาวทั้งสามคนร้องออกมาด้วยความดีใจแต่พวกเธอก็ต้องรีบเอามืออุดปากเพราะที่นี่เป็นห้องพักอาจารย์แต่ยังดีที่ไม่มีอาจารย์ท่านอื่นอยู่ไม่อย่างนั้นโดนดุแน่ ๆ
"งั้นเจอกันสองทุ่มนะคะเดี๋ยวหนูส่งโลเคชันให้งั้นพวกหนูไม่กวนอาจารย์แล้วค่ะ สวัสดีค่ะ" สาว ๆ ทั้งสามคนรีบยกมือไหว้ย่อให้กับอาจารย์สาวก่อนที่พวกเธอจะเดินออกไป พอเสียงประตูปิดลงเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอีกระลอก
กุนณฉัตรส่ายหัวให้กับลูกศิษย์ของเธอแต่ใบหน้าของเธอก็เปื้อนยิ้มอยู่ตลอด ใครบอกว่ากุนณฉัตรเป็นสาวยิ้มยากและเป็นสาวทึนทึกนั่นเพราะไม่มีใครรู้จักดีพอต่างหาก พอลูกศิษย์เงียบเสียงไปหมดกุนณฉัตรก็นั่งทำงานของเธอต่อ
กุนณฉัตร ไพรพรรณหรืออาจารย์กั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่ถูกจัดให้เป็นสาวเฉิ่มของมหาวิทยาลัยถึงไม่มีใครพูดแต่การที่เธอแต่งตัวอย่างกับแม่ชีเธอชอบใส่กระโปรงยาวกรอมเท้าเสื้อก็จะเป็นพวกเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีอึม ครึมตัวโคร่งที่ใส่แล้วไม่เห็นส่วนโค้งส่วนเว้าตรงไหนเลย ทั้งยังใส่แว่นตาหนาเตอะมีสายคล้องแว่นอย่างกับพวกคนแก่ชอบใช้และยังชอบมัดผมเป็นมวยใต้ท้ายทอย และไม่มีใครเคยได้เห็นใบหน้าของอาจารย์กุนณฉัตรชัดเจน แต่เครื่องหน้าของเธอก็ถือว่าครบจัดคิ้วเรียงตัวสวยธรรมชาติคิ้วเป็นทรงตรง ๆ ไม่โก่งหางคิ้วเรียงยาวเลยหางตาแถมขนคิ้วยังยาวโดยไม่ต้องเสริมแต่งใด ๆ และยังจมูกโด่งเป็นสันคมชัดเจนที่รองรับแว่นตาหนาเตอะนั่นก็ไม่ทำให้ดูน่าเกลียดแถมริมฝีปากยังเรียวเล็กเป็นกระจับโดยรวมก็ถือว่าดูดีแต่ถ้าเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่นกุนณฉัตรนั้นถูกจัดให้อยู่ปลายแถวเพราะไม่อาจสู้กับสาว ๆ คนไหนได้
และจากบุคลิกของเธอทำให้เธอถูกจัดเป็นอาจารย์ที่สุดเฮี๊ยบเจ้าระเบียบและเคร่งครัดในวินัย กุนณฉัตรเป็นหนึ่งในอาจารย์คณะอักษรศาสตร์นอกจากจะเป็นอาจารย์สอนเธอยังถูกแต่งตั้งเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง ถ้าเด็กคนไหนได้เข้าฝ่ายปกครองมาพบกับอาจารย์กุนณฉัตรบอกได้คำเดียวว่าคนคนนั้นโคตรโชคร้ายคณะอักษรศาสตร์คณะอักษรศาสตร์คณะอักษรศาสตร์
สาวเฉิ่มในวัยยี่สิบเจ็ดปีเธอเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศโดยได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพราะความมุมานะของเธอตลอดหลายปีที่เธอไปเรียนที่นั่นเธอต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยถือเป็นสิ่งที่หน้าหนาสาหัสสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องไปใช้ชีวิตดิ้นรนต่างแดน แต่เธอก็ผ่านมันมาได้ด้วยความภาคภูมิใจไม่ใช่แค่ตัวเธอ มหาวิทยาลัยเองก็มีชื่อเสียงเหมือนกันเพราะเธอไม่ใช่แค่เรียนจบแต่ยังคว้าที่หนึ่งของชั้นเรียนมาได้อีกด้วย
หลังจากเรียนจบตอนนี้เธอก็มาทำงานใช้ทุนการแต่การเป็นกุนณฉัตรนั้นไม่ง่ายเพราะภายใต้หน้ากากอาจารย์สาวสุดเฉิ่มแสนเคร่งขรึมมันมีบางอย่างซ่อนอยู่มันเป็นความลับที่เธอบอกใครไม่ได้ซ่อนอยู่จะมีเพียงเธอกับผู้ชายคนนั้นที่รู้...
...
-สองทุ่มตรง-
SKYLINE ผับ แอนด์ เรสเทอรองค์ ย่านทองหล่อ
กุนณฉัตรในลุคอาจารย์สุดเฉิ่มที่สวมเสื้อผ้าไม่เข้ากับสถานที่เพราะชุดที่เธอสวมอยู่นั้นเหมาะสำหรับการเข้าวัดทำบุญมากกว่าการ์ดที่อยู่หน้าร้านกับลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้านถึงกับมองเธอเป็นตาเดียว ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็มองมาที่เธออย่างอยากรู้อยากเห็นต่างก็คิดว่าเธอคงเป็นคุณป้าที่ไหนหลงเข้ามาแน่นอน
ส่วนกุนณฉัตรหลังจากส่งข้อความให้ลูกศิษย์สาวเธอก็ยืนรอเตร็ดเตร่อยู่หน้าร้านลูกค้าบางคนถึงกับหันไปพูดคุยนินทาเธออย่างสนุกปากและพากันมองมาที่เธอคล้ายกับว่าเจอกับตัวตลก แต่ถึงอย่างนั้นกุนณฉัตรก็ไม่ใส่ใจเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจอสายตาแบบนี้ เดี๋ยวนินทากันจนพอใจแล้วคนพวกนี้ก็เลิกสนใจเธอเอง
ร้านที่วิสุนีส่งโลเคชันมาให้หลังจากเห็นชื่อสถานที่กุณฉัตรก็ไม่แปลกใจเท่าไรนักเพราะที่นี่เป็นสถานบันเทิงที่มีชื่อเสียงมากในตอนนี้ ภายในร้านมีหลายโซนมีทั้งดนตรีสดเหมาะสำหรับการนัดสังสรรค์ยามค่ำคืนแบบนั่งทานชิล ๆ หรือโซนที่เป็นผับด้านในมีวีเจเปิดเพลงแดนซ์และมีนักดนตรีมาเล่นกันแบบสด ๆ โดยเฉพาะพวกวัยรุ่นที่ชื่นชอบโซนนี้เป็นพิเศษ
"อาจารย์คะมาค่ะเข้าไปกัน" วิสุนีกับเพื่อนยกมือไหว้อาจารย์และพากันเดินเข้าไปยังโซนที่พวกเธอจอง กุนณฉัตรเดินตามสาว ๆ เข้าไปด้านในขึ้นไปยังห้องวีไอพีที่จองเอาไว้ ทันทีที่ประตูเปิดไฟในห้องก็ดับลงเหลือเพียงแสงสลัวจากไฟหลืบข้างผนังพร้อมกับเสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดที่ดังขึ้นทันทีที่กุนณฉัตรก้าวเข้ามาในห้องเด็กนักศึกษาในชั้นเรียนของเธอไม่ต่ำกว่าสามสิบคนก็ต่างพากันยืนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงเหมือนว่ารออยู่และช่วยกันร้องเพลงวันเกิดให้เธอ พันตรีเด็กนักศึกษาชายที่ได้รับเกียรตินิยมเป็นผู้ที่เพื่อน ๆ ให้เลือกเป็นคนถือเค้กมาให้เธอเป่าและกุนณฉัตรเพิ่งรู้ว่าเด็ก ๆ พวกนี้ต้องการให้เธอมาเพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เธอนั่นเอง ในตอนที่พันตรีหยุดอยู่ตรงหน้าเธอก็เป็นช่วงที่เพลงร้องจบพอดีกุนณฉัตรยกมือขึ้นประกบก่อนจะอธิษฐานพออธิษฐานเสร็จเธอก็เป่าเค้กจนไฟดับหมด "ฟู่วว.."
พรึบ!!
ปุ ปุ ปุ...
ไฟถูกเปิดขึ้นพร้อมกับเสียงพลุกระดาษในมือของเด็ก ๆ ก็ดังขึ้นไม่พักไม่นานนักทุกอย่างก็เข้าสู่ความสงบ กุนณฉัตรที่ถูกใครก็ไม่รู้เอาไมค์มายื่นให้ถึงมือเธอรับมันไว้พร้อมกับกล่าวของคุณนักศึกษาทุกคนและให้พรในการจบการศึกษาของเด็กเหล่านี้หลังจากนั้นงานเลี้ยงฉลองก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการกุนณฉัตรตัดเค้กแจกจ่ายเด็ก ๆ แต่ก็เหมือนกับเป็นพิธีเท่านั้นเพียงเค้กชิ้นเดียวที่กุนณฉัตรตักมาเด็ก ๆ ก็จัดการทานตามมารยาทส่วนที่เหลือถูกเก็บบรรจุกล่องเหมือนเดิมเพื่อที่จะให้กุนณฉัตรนำกลับไปด้วยและยังมีของขวัญที่บรรดาเด็กนักศึกษาเอามาให้กุนณฉัตรอีกหลายชิ้นทั้งชิ้นใหญ่ชิ้นเล็กและมันเยอะมาก อันที่จริงเธอไม่ได้ต้องการสิ่งของเหล่านี้แต่เพราะเด็ก ๆ ที่ตั้งใจนำมาให้ เธอจึงปฏิเสธไม่ได้หลังจากรับของขวัญทุกชิ้นแล้วเธอก็รับเครื่องดื่มที่วิสุนีนำมาให้ ทุกคนชูแก้วเครื่องดื่มยกขึ้นชนกันรวมถึงกุนณฉัตรที่เด็ก ๆ พากันเข้ามาเดินชนและไม่พักแต่กุนณฉัตรเพียงจิบเล็กน้อยตามมารยาท เธอมองเด็ก ๆ ที่กำลังสนุกสนานทั้งดื่มทั้งกินทั้งเต้นและดูสนุกสุดเหวี่ยงกันเต็มที่
ตอนนี้กุนณฉัตรเป็นเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่บนโต๊ะดวงตาภายใต้แว่นหนามองเด็ก ๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขการที่ได้เห็นนักศึกษาที่ตัวเองได้สั่งสอนจบไปพร้อมกับความรู้ที่ตนเองถ่ายทอดนั้นเป็นความภาคภูมิใจของเธอที่สุดแล้ว และเธอก็ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าเด็ก ๆ เหล่านี้จะรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เพราะนานแล้วที่เธอลืมเลือนแม้กระทั่งวันเกิดและมันก็ทำให้เธอซาบซึ้งใจมาก
ผ่านมาค่อนคืนเด็ก ๆ ก็ต่างพากันเมามายไม่ได้สติแต่ก็ยังประคับประคองกันออกไปได้กุนณฉัตรส่งเด็ก ๆ ขึ้นรถไปหมด ก่อนที่จะเดินตรงไปที่รถเธอส่วนของขวัญที่เด็กพวกนั้นนำมามอบให้ถูกนำมาเก็บใส่รถของเธอตั้งนานแล้ว ทันทีที่เห็นรถแท็กซี่คันสุดท้ายลับตาไปเธอก็เดินไปยังลานจอดรถที่มีรถญี่ปุ่นคันเล็กจอดอยู่ ซึ่งจะพูดว่าเป็นรถที่ดูเก่าที่สุดที่มาจอดที่นี่ก็ว่าได้ กุนณฉัตรมองไปที่รถของเธอที่ถูกขนาบด้วยรถหรูหลายยี่ห้อก่อนที่จะมาหยุดที่รถคันหนึ่งที่ดูโดดเด่นสะดุดตาทันทีที่เห็นป้ายทะเบียนเธอก็สะดุดกึกอยู่กับที่ก้าวเท้าไม่ออกก่อนจะหันซ้ายหันขวาอย่างเลิ่กลั่กแล้วรีบวิ่งไปที่รถของเธอทันที ไม่ใช่เพราะว่ามันสวย มันหรู มันแพง แต่เป็นเพราะเจ้าของรถคันนี้ต่างหากที่ทำให้เธอกลัวมาดอาจารย์สุดเฮี๊ยบสุดเนี๊ยบหลุดไม่เหลือแล้วในตอนนี้ และคิดว่าน่าจะกำลังสติแตกในไม่ช้าหากยังอยู่ที่นี่อีกแม้แค่วินาทีเดียว
ตึกตัก! ตึกตัก! นั่นคือเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนควบไม่อยู่ของเธอ
ตอนที่เธอไขกุญแจด้วยความร้อนรนมืออันสั่นเทาของเธอก็ไขผิดไขถูก เธอสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดที่มันดันเปิดประตูไม่ออก
'เกิดจะมาไขยากไขเย็นอะไรตอนนี้' ในตอนที่เธอกำลังบ่นกับตัวเองอยู่นั้นน้ำเสียงเยือกเย็นที่ดังขึ้นเหนือศีรษะก็ทำเอาเธอตัวชาวาบขนลุกขึ้นมาทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเพราะเธอกำลังต้องการหนีจากเขาจนทำตัวลนลานขนาดนี้ แต่เหมือนว่าตอนนี้เธอไม่รอดแล้ว
"ผมไม่คิดเลยนะครับว่าอาจารย์จะออกมาโดยที่ไม่บอกผมสักคำอย่างนี้ก็แสดงว่าพร้อมที่จะรับการลงโทษจากผมด้วยใช่หรือเปล่าครับ"