บท
ตั้งค่า

ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 7

เขาเจอวิหคซ่างฟู่เป็นครั้งที่สามแล้ว เจียงอันเหอจึงไม่ได้หวาดกลัวขนาดนั้นแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเคยโดนวิหคซ่างฟู่พาบินโฉบไปโฉบมาในตอนกลางวัน ตอนนี้เขาเดินตามหลังมู่ชิง รู้ดีว่าปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองแน่นอน ตอนนี้จึงเริ่มคิดวิเคราะห์หาความแตกต่างของหัววิหคซ่างฟู่ทั้งสาม

ส่วนอีกสองคนหน้าตาดูผ่อนคลาย หลังจากที่มู่ชิงเห็นเงาของวิหคซ่างฟู่อย่างชัดเจนแล้ว จึงเก็บกระบี่ของตนเข้า หันไปกำชับศิษย์น้องว่า “เสี่ยวซาน วิหคซ่างฟู่ตัวนี้รับมือได้ง่ายมาก ครานี้เจ้าขึ้นไปเองแล้วกัน ศิษย์พี่จะดูอยู่ด้านหลังให้”

ชางไป๋ซานได้ยินเข้าแม้ว่าจะมีสีหน้าไม่เต็มใจ แต่ก็ยังขึ้นหน้าเผชิญกับวิหคซ่างฟู่ที่ตั้งท่าพร้อมรบ

เจียงอันเหอมองอึ้งอยู่ด้านข้าง “ช้าก่อน เขาจะตีบอสคนเดียวหรือ” เด็กหนุ่มคนนี้ดูเรี่ยวแรงมัดไก่ยังไม่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่เขายืนประจันหน้ากับวิหคซ่างฟู่ที่ตัวโตกว่าไม่รู้กี่เท่า ยิ่งทำให้คนดูอกสั่นขวัญแขวน

“ไม่เป็นไรหรอก เสี่ยวซานเก่งกาจมากนะ” มู่ชิงไว้ใจเขามาก หากกลับกลัวว่าเจียงอันเหอจะเป็นฝ่ายเกิดเรื่อง “เจ้ากระเถิบเข้ามาด้านหลังข้าอีกนิด ระวังอย่าให้ได้รับบาดเจ็บ”

เจียงอันเหอเขยิบเข้าไปด้านหลังอีกเล็กน้อย เวลานี้ชางไป๋ซานก็ได้สู้ชนะไปแล้วหนึ่งยก ระหว่างคนหนึ่งคนกับนกหนึ่งตัว ลูกศรดอกหนึ่งพุ่งเข้าไปปักกลางหัวของวิหคซ่างฟู่หัวหนึ่ง วิหคซ่างฟู่เองก็ตอบสนองไวมาก หลังจากที่หลบการโจมตีของเขาได้ ก็ใช้หัวทั้งสามล้อมไว้ อ้าปากกว้างพุ่งเข้าโจมตีชางไป๋ซาน

เจียงอันเหอเห็นสถานการณ์ กำลังจะร้องตะโกนว่า “แย่แล้ว” ก็เห็นชางไป๋ซานตวัดขากลางอากาศตามหลักสรีรศาสตร์ ตวัดขาเตะเข้าที่หัวหัวหนึ่ง หัวนั้นเจ็บปวดจนหดเข้าไป ชางไป๋ซางจึงถอยออกมาจากวงล้อมหัววิหคซ่างฟู่จากกลางอากาศ

“เสี่ยวซาน ชักกระบี่” เมื่อได้ยินเสียงของมู่ชิง ชางไป๋ซานหันกลับไปมองเขาทีหนึ่ง สีหน้าดูรำคาญเต็มทน “ก็ได้”

พอชางไป๋ซางหันไปมองซ่างฟู่อีกครา แววตาของเขาจึงแปรเปลี่ยนกะทันหัน แม้แต่คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างเจียงอันเหอก็รู้สึกได้ว่าพลังปราณในตัวเขาได้เพิ่มสูงขึ้น วิหคซ่างฟู่ร้องก้องอย่างดุร้าย คอยจ้องมองความเคลื่อนไหวของเขาอย่างระแวดระวัง

เห็นแต่ชางไป๋ซานยกมือขวาขึ้นกุมหน้าอก แสงสว่างจ้านับไม่ถ้วนพุ่งประกายออกร่างแล้วผนึกรวมเข้าไปในมือขวาของเขา ฉับพลันก็หลอมตัวกันกลายเป็นกระบี่ยาวที่มีความยาวสามฟุต ความกว้างหนึ่งนิ้ว จากมุมที่เจียงอันเหอเห็น ด้านหลังของกระบี่ยังมีกระบี่ขนาดบางโผล่มาอีกเล่ม ดูคมกริบหาใดเปรียบ

หลังจากที่วิหคซ่างฟู่เห็นเงาแสงคมกริบของกระบี่ จึงหลบเข้าไปในมุมลึกของถ้ำอย่างหวาดกลัว คล้ายกับมันกำลังหนี

แน่นอนว่าชางไป๋ซานไม่ให้โอกาสหนีแน่นอน เขาชูกระบี่ในมือขึ้น ไม่ต้องใช้กระบวนท่าใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่แทงลงไป เจียงอันเหอเห็นแสงสีขาวแวบผ่านตาไป ชางไป๋ซานก็เก็บกระบวนท่า กระบี่แสงในมือก็ค่อยๆ เลือนหายไป

ตอนนี้วิหคซ่างฟู่จึงร้องขึ้นมาทีหนึ่ง ร่างมหึมาล้มลง เจียงอันเหอถึงเห็นว่าตรงจุดสำคัญของร่างกายมันมีเลือดสดสีแดงไหลออกมา

หลังจากที่ชางไป๋ซานเห็นสัตว์ประหลาดล้มลงแล้ว จึงเดินมาอย่างเต็มภาคภูมิ บนใบหน้าเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า “ชม! ข้า!”

ใช่แล้ว บนใบหน้ามีเครื่องหมายอัศเจรีย์ที่มีชีวิตชีวายิ่ง

มู่ชิงชื่นชมไปตามน้ำสองสามคำ แล้วยังทำท่าทางพูดถึงเจียงอันเหอสองสามคำ

ที่จริงเจียงอันเหอก็รู้สึกว่ากระบี่นี้ของชางไป๋ซานนั้นบาดตายิ่ง แต่เขาเห็นชางไป๋ซานไม่มองมาทางตัวเองเลยแม้แต่น้อย ดูท่าคงจะไม่ใส่ใจว่าเขาจะคิดอย่างไร จึงได้แต่พูดขึ้นมาเบาๆ คำหนึ่ง “สุดยอดมากเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่ดูบอบบางขนาดนี้...”

จากนั้นก็เห็นชางไป๋ซานจ้องตนอย่างดุดันเขม็ง      

“เจ้ากล่าวว่าผู้ใดบอบบางกัน!?”      

“...ข้าหมายถึงตัวข้าเอง!” เจียงอันเหอไหลไปตามสถานการณ์ เขายังไม่อยากมีประสบการณ์ที่รู้สึกเหมือนกับถูกสังหาร

มู่ชิงรีบเข้าไปโอบเอวศิษย์น้อง ขวางมือเขาไว้ “เอาเถิด เอาเถิด อย่าโวยวายเลย คนธรรมดาจะรับมือเจ้าได้อย่างไรกันเล่าศิษย์น้อง”

ชางไป๋ซานมองไปยังศิษย์พี่ตนเองอย่างกะหลับกะเหลือกแล้วมองไปทางเจียงอันเหอ “จริงหรือ ก็ได้ เช่นนั้นข้าจะเมตตาอภัยให้คนธรรมดาสักคราก็แล้วกัน หึ”        

เดี๋ยวสิ ใครคนธรรมดากัน! เจียงอันเหอต้องคอยเตือนตนเองให้นึกถึงความคมกริบของกระบี่ของชางไป๋ซาง จะต้องอดกลั้นไว้ให้ได้      

“จริงสิ อันเหอ เจ้าบอกว่าเนื้อเรื่องทำให้เจ้าเข้ามาในดันเจี้ยนใช่ไหม  เจ้าดูสิว่าภารกิจเสร็จสิ้นหรือยัง” มู่ชิงเห็นสองคนนี้หยุดลง จึงถอนใจออกมาด้วยความโล่งใจ แล้วเริ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

พอเจียงอันเหอได้รับคำเตือนจึงรีบเปิดไปหน้าภารกิจ ด้านบนไม่ได้มีการแจ้งเอาไว้เลยว่าตัวเองบรรลุภารกิจแล้ว “อืม...ข้าขอดูหน่อย ยังไม่บรรลุภารกิจเลย สิ่งที่ภารกิจต้องการคือดอกพระจันทร์ครึ่งซีกที่อยู่ในถ้ำ ข้าไปหาดูก่อน” เขากำลังคิดจะเข้าไปหาในถ้ำ แต่กลับค้นพบว่าตัวเองไม่มีอะไรพอจะเป็นแสงสว่างได้เลย

“แหม ข้าไปเองดีกว่า คนธรรมดาก็ไม่ได้เรื่องอย่างนี้แหละ” ชางไป๋ซานพูดเองเออเองพลางจุดคบไฟเลียนแบบมู่ชิงแล้วเดินเข้าไปในถ้ำลึก    

ถึงจะรู้สึกขอบคุณเขาก็เถอะ เจียงอันเหอคิดในใจ แต่อยากอัดเขามากกว่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel