บท
ตั้งค่า

ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 3

ลมพัดใบไม้เสียงดังซ่า เสียงนกร้องจิ๊บๆ ดังลอดมาเป็นครั้งคราว แรกเริ่ม เจียงอันเหอยังรู้สึกเส้นประสาทตึงเขม็ง มองไปรอบตัวไม่หยุด แต่พอนานไปใจเขาก็เริ่มสงบนิ่งลงจากบรรยากาศอันผ่อนคลายโดยรอบ แล้วก้มหน้าก้มตาหาเบาะแสต่อไป

ปรากฏว่าไม่ได้ต่างไปจากที่คิด เจียงอันเหอยังคงไม่พบอะไรสักอย่าง!

เขานั่งพิงต้นไม้หายใจหอบ นั่งคิดอย่างสิ้นหวังว่าพลังการเคลื่อนไหวในเกมของวันนี้ทั้งวันก็ใกล้จะเทียบเท่าพลังการเคลื่อนไหวในโลกแห่งความจริงทั้งสัปดาห์อยู่แล้ว ดีที่โลกแห่งความเป็นจริงผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น ร่างกายยังไม่ได้รู้สึกอ่อนล้าจนถึงขีดสุด

แต่เหนื่อยใจน่ะเรื่องจริง

ในเวลานี้เองมีเสียง “สวบสาบ” ดังออกมาจากทางพุ่มไม้  เจียงอันเหอลุกพรวดอย่างตื่นตัว      

เห็นแต่กระต่ายน้อยสีขาวเทาตัวหนึ่งสะบัดตัวแล้วมุดออกมาจากกิ่งไม้ มันมองไปรอบๆ แล้ววิ่งมาทางเจียงอันเหอ

เขาเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง ย้อนคิดถึงคำพูดของคนตัดไม้ ในหัวคิดถึงแต่ภาพกระต่ายน้อยวิ่งมาหยุดที่ตรงหน้าตนเองแล้วอ้าปากใหญ่ยักษ์กลืนกินตนเองลงไป แม้ว่าเขาเองก็รู้สึกถึงอันตรายเหล่านี้อยู่ลางๆ แต่ขาน้อยๆ ของเจียงอันเหอกลับแข็งทื่อจนก้าวไม่ออก

เจียงอันเหอได้แต่มองกระต่ายค่อยๆ เข้ามาใกล้ตัวเองตาปริบๆ จากนั้น ก็กระโดดข้ามตัวเจียงอันเหอแล้ววิ่งทะยานไปตามทิศเดิมไม่หยุด

       ???

เจียงอันเหอหันขวับกลับไปมองกระต่ายน้อยที่หายลับตาตนเองไปอย่างเคว้งคว้าง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวกลับมา ก็ได้ยินเสียงนกร้องกังวานเจื้อยแจ้วดังมาจากทางที่กระต่ายเพิ่งวิ่งจากมา นกยักษ์ตัวหนึ่งบินร่อนลงมาจากท้องฟ้า ทะยานตรงมา นกยักษ์ตัวนี้ รูปร่างเหมือนไก่ แต่มีสามหัว หกขา สามปีก ยามมันกระพือปีก ลมที่พัดออกมาก็โค่นต้นไม้ล้มได้หลายต้นเลยทีเดียว

ขาน้อยๆ ที่แข็งทื่อในตอนแรกราวกับถูกฉีดยากระตุ้นพลัง เจียงอันเหอหมุนตัวกลับไปแล้วออกวิ่ง แต่เขางตอนนี้สูงเพียงแค่เมตรเดียว ความเร็วในการวิ่งสู้กระต่ายน้อยไม่ได้ ต่อให้มีต้นไม้เตี้ยๆ คอยบดบังวิสัยทัศน์การบินของนกยักษ์ก็เถอะ แต่เจียงอันเหอก็ยังคงถูกก้อนหินหรือไม่ก็ไม้เลื้อยพันขาอยู่ดี สุดท้ายเขาก็โดนกรงเล็บของนกยักษ์ตะครุบเข้าแล้วพาบินขึ้นฟ้า

ในหัวเจียงอันเหอที่โดนจับว่างเปล่า แม้แต่ดิ้นกระเสือกกระสนก็ยังลืม จนกระทั่งโดนกิ่งไม้บาดหน้าจึงได้สติคืน เขารีบขดตัวเข้าหากัน แล้วปกป้องส่วนหัวเต็มกำลัง

เขาค่อยๆ ได้สติกลับมา นึกถึงลักษณะของนกยักษ์ สามหัว หกขา สามปีก นี่คือวิหคซ่างฟู่ใน “คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร” นี่นา!

แต่ว่า “คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร” พูดไว้แค่ว่าถ้าได้กินเนื้อของวิหคซ่างฟู่จะทำให้ไม่ง่วงเหงาหาวนอน แต่ไม่ได้บอกเอาไว้ว่าควรจะรับมือกับมันอย่างไร พวกคนโบราณนี่จริงๆ เล้ยย ให้ตำราอาหารมาแต่ดันไม่บอกว่าจะจับวัตถุดิบมายังไง!

วิหคซ่างฟู่พาเจียงอันเหอบินวนรอบป่าอยู่ครู่หนึ่ง และคอยดักจับสัตว์เล็กสัตว์น้อยเป็นพักๆ เจียงอันเหอก็ยังไม่ได้เห็นปิศาจพิสดารอื่นๆ คิดว่าวิหคซ่างฟู่ตัวนี้น่าจะเป็นราชาวิหคที่อยู่หลังภูเขานั่นแหละ ส่วนตนเองก็คงจะเป็นเด็กชายที่กำลังจะถูกจับไปกิน...

หลังจากที่อดใจหายแทนตัวเองไม่ได้ เจียงอันเหอจึงตั้งสติคิดหาวิธีต่างๆ นานาที่จะหนีรอดออกจากปากนกให้ได้

จนกระทั่งขาทั้งหกล่าสัตว์มาจนเต็มทุกกรงเล็บแล้ว วิหคซ่างฟู่จึงได้เปล่งเสียงร้องออกมาอย่างพึงพอใจ แล้วบินกลับรัง

รังของวิหคซ่างฟู่สร้างอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งด้านหลังภูเขา หลังจากที่มันบินเข้าถ้ำก็โยนอาหารที่ล่ามาลงกับพื้น หัวทั้งสามเอียงไปเอียงมามองอยู่ครู่หนึ่งเตรียมจะกิน เจียงอันเหอเครียดจนเหงื่อเย็นไหลท่วม แม้จะบอกว่าระดับความเจ็บปวดเพียง 10% แต่พอคิดว่าอีกประเดี๋ยวจะต้องถูกชำแหละแหวกท้องออกมา เขาก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัวแล้ว

เขาคะเนสภาพแวดล้อมในถ้ำ ไม่กล้าเคลื่อนไหวมากเกินไปนัก จากนั้นจึงค้นพบรูเล็กๆ ตรงผนังหินที่เห็นแสงลอดเข้ามาได้รำไร เจียงอันเหอดีใจ ในใจคำนวณขนาดของรูนั้นเงียบๆ  เมื่อคิดว่าตัวเองลอดเข้าไปได้ ก็อาศัยจังหวะที่วิหคซ่างฟู่ยังไม่ได้มองมาทางตนเอง ค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้ผนังหินนั้น

จนกระทั่งเขาใกล้จนเกือบจะถึงรู วิหคซ่างฟู่ก็ตัดสินใจเลือกอาหารเลิศรสมื้อนี้ได้แล้ว หัวทั้งสามหันขวับลงไปที่พื้น จิกสัตว์เล็กสัตว์น้อยขึ้นมา และหนึ่งในหัวนั้นกำลังหันมาทางเจียงอันเหอ เจียงอันเหอตกใจจนรีบมุดเข้าไปในรู วิหคซ่างฟู่จึงได้รู้ตัวว่าเหยื่ออันโอชะของตนกำลังคิดหนี จึงคำรามเสียงประหลาดออกมาแล้วพุ่งไปที่ผนังหินนั้น

หัวหนึ่งของมันกำลังจะมุดเข้ารู ส่วนอีกหัวก็เบียดแทรกเข้ามาอย่างผิดเวลาไปหน่อย ปรากฏว่าหัวทั้งสองจึงติดอยู่คารูถ้ำ ด้านหลังยังมีอีกหัวหนึ่งที่อยากจะแทรกเข้ามาด้วย หัวของวิหคซ่างฟู่คาอยู่ตรงผนังหิน ขาทั้งหกตะกุยอยู่บนพื้นไม่หยุด ปีกกระพือให้วุ่นวายไปหมด สัตว์เล็กสัตว์น้อยตัวอื่นที่ยังพอมีสติพอเห็นดังนั้นต่างก็ชักขาวิ่งจ้ำอ้าวหนีไป ได้ชีวิตน้อยๆ กลับคืนมา

หลังจากที่เจียงอันเหอคลานออกมาจากรูถ้ำ เขาไม่หันกลับไปมองแม้แต่น้อย อึดใจเดียวก็วิ่งจ้ำอ้าวไปไกลแสนไกลถึงจะหยุดลง เขานั่งพักพิงต้นไม้ใหญ่หายใจกระหืดหอบ ดวงตาทั้งสองคอยสอดส่องหาที่หลบภัยไม่หยุดยั้ง บังเอิญไปเห็นรูต้นไม้ที่มีขนาดพอเหมาะพอเจาะเข้าพอดี จึงรีบคลานเข้าไปหลบ

ผ่านไปพักหนึ่ง ด้านนอกมีเสียงคำรามก้องกับเสียงกระพือปีกของวิหคซ่างฟู่อย่างที่คิด เจียงอันเหอขยับตัวอย่างหวาดหวั่น หากแต่ไม่กล้าให้มีเสียงเล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อย วิหคซ่างฟู่บินไปบินมาอยู่หลายรอบก็หาเหยื่อเจ้าเล่ห์นั่นไม่เจอสักที จึงได้แต่จับสัตว์อื่นไปเป็นเหยื่อตามที่จะหาได้ แล้วพาเสียงร้องโหยหวนของมันจากไป

หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวประหลาดอยู่เป็นเวลานาน เจียงอันเหอจึงได้ผ่อนมือทั้งสองที่อุดปากอุดจมูกเอาไว้ แล้วนอนแผ่หราด้วยสีหน้าตกใจอยู่ตรงนั้นเอง

นี่มันเกมที่ไหนกัน ดูหัวใจเต้นสิ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel