บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ไอ้เด็กมะลิตัวปัญหา [1]

บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยกลิ่นอายของคู่อัลฟ่า

โอเมก้าผสมปนเปกัน ทำเอาคนขับรถอย่างนาราและหัวหน้าผู้คุ้มกันอย่างลักษณ์รู้สึกอึดอัดจนแทบอยากหนีไปให้ไกล ๆ แตกต่างจากไตรวิชญ์ที่ยังคงเป็นปกติ หัวใจที่ร้อนรุ่มเหมือนถูกแผดเผาด้วยเปลวไฟพลันสงบลงอย่างน่าประหลาด หลังจากได้กลืนกินผลไม้ฉ่ำหวานตรงหน้าจนไม่มีเหลือ

หากสามารถจับเด็กนี่กลืนลงท้องเข้าไปทั้งตัวได้ ไตรวิชญ์ก็ไม่ลังเลที่จะทำมัน แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นมนุษย์มีเนื้อหนังเหมือนกันกับเขา และเขาก็ยังต้องการเสพสุขความหอมหวานจากเด็กนี่ต่อ จึงตัดสินใจที่จะเก็บตัวปัญหาไว้ใกล้ ๆ วันไหนที่เขาเบื่อหมดความสนใจค่อยไล่ไปก็ยังไม่สาย

ไม่แน่ว่าพอหมดช่วงฮีท เขาอาจปล่อยมันไปเลยก็ได้

รถยนต์คันหรูเคลื่อนเข้าในอาณาเขตของตระกูลหิรัญรชตที่กินเนื้อที่กว่ายี่สิบไร่ ทั้งสองข้างทางถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่หนาทึบ ตรงทางเข้าด้านหน้าคือสวนดอกไม้เมืองร้อนนานาพรรณ ประตูรั้วเหล็กสีขาวถูกดัดเป็นลวดลายกุหลาบตั้งตระหง่านสูงเกือบสามเมตร ด้านข้างจะมีป้อมยามรักษาการณ์ ขณะที่ทั่วทุกจุดจะมีกล้องวงจรปิดคอยตรวจเช็กความเคลื่อนไหวตลอดยี่สิบชั่วโมง ต่อให้แมลงสักตัวก็บินผ่านไปไม่ได้

เบื้องหน้าคือคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวทั้งหลังสูงสามชั้น สไตล์อังกฤษยุครีเจนซี่ เพิ่มลูกเล่นสีดำตรงบานประตูหน้าต่างด้วยลวดลายเป็นเอกลักษณ์ดูคลาสสิกหรูหรา ด้านซ้ายและขวายังมีคฤหาสน์หลังเล็กอีกสี่หลัง ถัดไปด้านหลังในสุดจะเป็นตึกอาคารสามชั้น ซึ่งเป็นที่พักคนงานร่วมสามร้อยชีวิต โดยแบ่งสัดส่วนชัดเจนในแต่ละหน้าที่ ตั้งแต่หน่วยคุ้มกันอารักขาเจ้านาย การ์ดรักษาความปลอดภัย พ่อครัว คนรับใช้ และคนสวน

แต่ละตำแหน่งหน้าที่ก็เลือกเฟ้นคนดีมีความสามารถ ยิ่งงานที่ต้องเสี่ยงอันตรายก็ยิ่งได้ค่าตอบแทนสูง และทั้งหมดก็เป็นพวกอัลฟ่าและเบต้า ไม่มีโอเมก้าหลุดรอดเข้ามาเลยสักคน

นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีโอเมก้าอ่อนแอล่วงล้ำเข้ามาในอาณาจักรของหิรัญรชต ก็เหมือนกับลูกแกะที่หลงเข้ามาในฝูงหมาป่า จะถูกขย้ำตายเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา ถ้าไม่จับขังไว้ให้ดี ๆ คงออกมาเดินเพ่นพ่านอย่างไร้เดียงสาให้พวกหมาป่ามันลากไปกิน

“บอกให้อัลฟ่าทั้งหมดออกจากบริเวณบ้าน ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีร้อยเมตร ใครฝ่าฝืนมีโทษสถานหนักยิงทิ้งได้เลย ไม่ต้องรอขออนุญาตจากฉัน”

“แต่ถ้าทำอย่างนั้นจะไม่มีใครอยู่เฝ้ารักษาการณ์เลยนะครับ หากเกิดอะไรขึ้นมาคงจะเข้าช่วยเหลือไม่ทัน” นาราเอ่ยค้านพลางมองสบตาเจ้านายผ่านกระจกหน้าคอนโซลรถ

“ฉันสั่งอะไรก็ทำอย่างนั้น ไม่ต้องไปวุ่นวายเรื่องอื่น” ดวงตาคมดุของไตรวิชญ์มองตอบ

แค่เพียงเห็นสีหน้าของเจ้านายนาราก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ลักษณ์ผุดยิ้มมุมปากเอ็นดูเจ้าเด็กตัวแสบ ติดตามคุณชายรองมาก็ตั้งหลายปียังดูไม่ออกอีกว่าคุณไตรคิดอะไร ให้พาโอเมก้าเข้าไปในดงหมาป่า คงได้เกิดเหตุการณ์นองเลือดไล่ยิงไอ้พวกที่ควบคุมสติยับยั้งอารมณ์ไม่ได้ทิ้งแน่

“เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ” ลักษณ์กดปุ่มตรงคอนโซลรถต่อสายหาคนในบ้านให้ช่วยแจ้งข่าวให้ทุกคนทราบเรื่องคำสั่งของคุณไตร

ไตรวิชญ์สั่งให้คนเคลียร์พื้นที่เสร็จก็ก้มลงมองไอ้ตัวภาระที่หลับไม่ตื่นจนนึกว่าตาย มือหนายื่นไปดึงผมหน้าม้ากระจุกหนึ่งกระตุกแรง ๆ อย่างหมั่นไส้ แต่อีกฝ่ายก็ยังนิ่งหลับตาพริ้มเหมือนฝันหวาน เรียวปากบางอมยิ้มมีความสุข ไม่ได้รับรู้ถึงความยุ่งยากใจของเขาเลย

หวังว่าวันนี้พวกมันจะไม่อยู่บ้าน ไม่งั้นเขาคงต้องคอยตอบคำถามงี่เง่ากวนประสาทของพวกมัน

หลังจากรถวนเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ ไตรวิชญ์ก็อุ้มไอ้ตัวปัญหาลงจากรถ กวาดตามองไปรอบด้านก็ไม่เห็นอัลฟ่าตัวอื่นนอกจากลักษณ์กับนารา เขาเลยส่งสายตาบอกให้ทั้งสองคนไปพักผ่อนได้ ส่วนตัวเองก็ก้าวเข้าบ้านพร้อมกับหัวคิ้วที่แทบผูกเป็นปม เพราะได้กลิ่นพี่ชายกับน้องชายอยู่ด้วยกันข้างหน้านี้ แล้วพอเข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็เห็นพวกมันนั่งอยู่ตรงโซฟามองมาที่เขานิ่ง ๆ

ตรีภพวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะ ดวงตาคมกริบภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมเรียบเฉยหากแต่ก็มีแววสงสัย ร่างสูงกำยำในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกางเกงสีดำนั่งเอนกายไขว่ห้าง ท่วงท่าเหมือนคุณชายสูงศักดิ์ ขณะที่

ไตรภูมินั่งเอนกายวางแขนราบไปกับพนักโซฟา ขาขวาวางทับขาซ้ายกระดิกเท้าอมยิ้มมองพี่ชายคนรอง ก่อนจะปรายตามองเจ้าก้อนกลม ๆ ในอ้อมแขนที่ถูกเสื้อคลุมทับซะมิดหน้ามองไม่เห็นลูกตา เห็นแต่เส้นผมเนี่ย จะปิดมิดอะไรขนาดนั้นวะ

“เฮียหอบใครกลับมาด้วยวะ ผมกลิ่นโอเมก้าฟุ้งเลย” ไตรภูมิเปิดฉากถามก่อนเพราะทนเก็บความสงสัยคาใจไว้ไม่ไหว

“ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ วันนี้กูเหนื่อย ไม่อยากตอบคำถามใครทั้งนั้น”

“ไม่อยากตอบคำถามกูด้วยสินะ” ตรีภพมองน้องชายที่เนื้อตัวมีแต่รอยขีดข่วนของเล็บ นอกจากจะมีกลิ่นโอเมก้าติดแล้วก็ยังมีกลิ่นเลือดปะปนด้วย คงเพิ่งไปจัดการเก็บกวาดพวกสวะมา

“กูจะให้คำตอบพรุ่งนี้ ถ้าพวกมึงยังอยู่ที่บ้าน แต่ถ้าไม่ก็อย่าหวัง กูขึ้นห้องแล้ว ฝากตามไอ้กวินให้มาเจอที่ห้องกูตอนเช้าด้วย จะให้ดูอาการ

ไอ้เด็กนี่หน่อย เดี๋ยวตายไปจะมาตามอาฆาตกูอีก”

“แหม เป็นห่วงเป็นใยกันซะจริง ผมได้กลิ่นเฮียบนตัวมันด้วย คงไม่ใช่ว่าเฮียกัดคอมันไปแล้วหรอกนะ”

“อย่าเสือกไม่เข้าเรื่อง กูจะกลับขึ้นห้อง บอกมันว่าสักแปดโมงค่อยมา อย่าสะเออะมาแต่เช้าเพราะกูยังไม่ตื่น”

“โอเค งั้นผมกลับห้องบ้างดีกว่า เมื่อกี้โคตรวุ่นวายเลย พวกการ์ดที่เป็นอัลฟ่าทั้งหมดพากันออกมารวมตัวตรงลานหน้าบ้าน ก่อนจะสลายตัวไปอย่างรวดเร็วเหมือนลมพายุ เหมือนกับกลัวอะไรสักอย่าง ตอนแรกผมก็สงสัย แต่พอเห็นเฮียอุ้มโอเมก้าเข้ามาผมก็เข้าใจทันที พวกมันกลัวเฮียจะเป่าทิ้งนี่เอง”

“พูดมาก มึงอยากโดนลูกตะกั่วยัดปากไหม!”

“นี่น้องนะครับ น้องแท้ๆ เลยนะเว้ย! ขู่กันแบบนี้เดี๋ยวก็ฟ้องแม่ซะเลย”

“แม่กลับมาแล้ว” คิ้วของไตรวิชญ์ขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยิน

แค่พาโอเมก้ากลับบ้านก็ยุ่งยากมากพอแล้ว แล้วยังต้องเตรียมตัวตอบคำถามแม่ในวันพรุ่งนี้อีก ยังไม่รวมถึงรอยกัดที่หลังคอ ถ้าแม่เห็นเข้าต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่

“อะไรกัน ปกติพี่จมูกไวจะตาย ทำไมวันนี้ถึงไม่ได้กลิ่นแม่ล่ะ อ๋อ...ลืมไปว่าจมูกคงถูกกลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้ากลบซะหมด แล้วก็ไม่ใช่แค่แม่นะที่อยู่ พ่อก็อยู่ข้างบนด้วย”

หน้าของไตรวิชญ์เคร่งเครียดหนักกว่าเก่า เขาอาจจะเก่งกับคนนอกบ้าน แต่กับในบ้านคนที่เขาเกรงใจมากที่สุดก็คือพ่อ รองลงมาก็แม่ และไอ้ภพพี่ชายเขา

ไม่มีใครไม่กลัว ไตรวุฒิ หิรัญรชต หรอก

พ่อเป็นอัลฟ่าที่แข็งแกร่งมาก มีพลังอำนาจในตัวจนไม่มีศัตรูหน้าไหนกล้าต่อกรด้วยตรง ๆ ถึงได้แต่เล่นลอบกัดแล้วก็แพ้ภัยตัวเองไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเอาชนะพอ่เขาได้ ส่วนเขาถึงจะเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปก็ยังมีพลังไม่เทียบเท่ากับพ่อ หรือก็คือเขาไม่เคยได้ต่อสู้กับพ่ออย่างสุดกำลังเลยสักครั้ง แม้ว่าใครต่อใครจะบอกว่าเขามีโอกาสขึ้นเป็นจ่าฝูงเพราะเป็นอัลฟ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นนี้ก็ตาม

ให้สู้กับพ่อคงไม่ไหว เพราะเขาให้ความเคารพท่านมากกว่าใครทั้งหมด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel