บทที่ 3 : คำสั่งของหัวหน้า
“นี่...ถามจริง ๆ เถอะ” รินขยับเข้ามาใกล้แล้วถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทำตัวลึกลับอะไรอีกล่ะเนี่ย
“อะไร”
“มิวะไม่ได้ชอบผู้ชายใช่ปะ”
“....” ไร้เสียงตอบกลับฉันทำเพียงจ้องหน้ารินเท่านั้น อะไรที่พาให้คิดแล้วตั้งคำถามแบบนี้ขึ้นมาได้นะ?
“นอกจากพี่เซรินก็ไม่เห็นจะชื่นชมใครเลย” ก็พี่เซรินเขาเป็นไอดอลนิ สวย เก่ง แล้วยังได้สามีที่หล่อและรวยมาก! ฉันอยากได้อย่างเขา
“ทำไม จะชื่นชมแค่พี่เซรินก็ไม่เห็นแปลกอะไร”
“แต่ตอนนี้พี่เซรินไม่อยู่แล้ว เรามีหัวหน้าคนใหม่ที่หล่อมากและรวยมาก” รินพูดด้วยแววตาเป็นประกาย ดูจะชื่นชอบผู้ชายคนนั้นเหลือเกินนะ อยากให้รู้จังว่าตัวตนที่แท้จริงของ ‘ไดอิจิ เก็น’ เป็นคนยังไง
“เขามาเป็นหัวหน้างานไม่ใช่สามีพวกเราสักหน่อย” รินหุบยิ้มลงทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉันพูด ก็พูดความจริงทั้งนั้นนี่และอีกอย่างคนอย่างเขา ไม่สนใจผู้หญิงในหน่วยหรอกต่อให้ไม่มีพี่เซรินแล้ว
“ก็หัวหน้านี่แหละที่จะพาฉันเข้าใกล้หน้าที่ภรรยาของเก็นต่อไป”
“อ่อ แบบนี้นี่เอง...”
“เดี๋ยวจะต้องจักงานเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าแน่ ๆ ถ้าวันนั้นมาถึงมิวะช่วย”
“ไม่” ฉันปฏิเสธขึ้นทันทีอย่างไม่ลังเลก่อนที่รินจะพูดจบ ยังไม่รู้ว่าจะให้ช่วยอะไรแต่คิดว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
“ฟังก่อนได้มั้ย” รินกอดอกมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจ ไม่อยากฟังแล้วเดี๋ยวถูกลากเข้าไปข้องเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นอีก เรื่องเก่ายังหาคำตอบไม่ได้ว่าได้ทำอะไรเขาหรือเปล่า เพราะแม้จะทำงานอยู่ในหน่วยเดียวกันแต่ใช่ว่าจะได้เจอกันเสมอไป
“ไปก่อนนะ มีงานต้องไปจัดการเดี๋ยวช่วงบ่ายหัวหน้ากับรองคนใหม่ก็น่าจะมาที่หน่วยใช่มั้ยล่ะ” พูดจบก็รีบเดินออกจากจุดนั้นทันที ซึ่งรินใช่ว่าจะยอมแพ้เธอยังเดินตามฉันมาติด ๆ
“ช่วยหน่อยสิ ช่วยกันก่อน ~” รินวิ่งเข้ามากระโดดกอดแขนไว้แน่น สิ่งที่เธออยากให้ช่วยก็คือเรื่องของเขานั่นแหละ อย่าเห็นแค่ความหล่อได้มั้ย ตัวจริงของเขาต่างกับที่ทุกคนคิดมากเลยนะ!
อยากจะพูดออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอดแต่พูดไม่ได้ เดี๋ยวรินจะต้องสงสัยแน่ว่าฉันรู้ได้เรื่องเขาดีขนาดนี้ได้ยังไง...
วันเดียวกัน
ณ หน่วยสืบสวนสอบสวนที่ 3
“ไดอิจิเก็นครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคน”
เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังเอ่ยแนะนำตัวพร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่ในหน่วย อีกคนที่ขยับขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าคือคนในหน่วยที่เราต่างนับถือกันอยู่แล้ว ฝีมือไม่ต้องพูดถึงถือว่าเก่งรองจากพี่เซรินจึงไม่ต้องแนะนำตัวแก่พวกเรา ช่างเป็นการเปิดตัวที่ไม่ต้องมีพิธีการมากมาย
“เช่นกันค่า อุ๊บ!” มือเล็กขึ้นปิดปากทันที เพราะความลืมตัวและสติที่เหม่อลอย ทำให้ปากมันขยับไปเองอย่างไม่ทันรู้ตัวและภายในห้องที่เงียบสงบนั้นทำให้เสียงของฉันดังขึ้นมาเพียงคนเดียว
แล้วทำไมจู่ ๆ พร้อมใจกันเงียบหมดเลยล่ะ!
“มิวะ...” รินที่ยืนอยู่ข้างฉันถึงกับทำหน้าไม่ถูก
“ขอโทษค่ะคือว่า....” จะพูดอะไรดีล่ะ แล้วทำไมทุกสายตามองมาที่ฉันหมดเลยล่ะไม่ได้ไปทำใครตายนะ!
“มิวะ” หัวหน้าคนใหม่ของฉันพูดขึ้น แต่คำเรียกที่ดูสนิทสนมขนาดนั้นเหมือนตั้งใจให้คนอื่นคิดหรือเปล่าเนี่ย
“ค่ะ” ฉันตอบกลับคำเรียกนั้น ในขณะเดียวกันสายตาลอบมองไปรอบตัวและสิ่งแรกที่เจอก็คือสายตาของริน
คำถามฉายชัดบนหน้าแล้ว ถ้าแยกย้ายกันไปทำงานเมื่อไหร่ฉันต้องเจอยัยนี่ซักไซ้แน่
“มิวะเป็นเด็กฝึกของรองหัวหน้าหน่วยที่สามคนเก่าใช่มั้ยครับ” หัวหน้าของฉันหันไปถามรองที่ยืนอยู่ข้างกัน
“ใช่ครับ มิวะเป็นเด็กฝึกคนสุดท้ายของรองหัวหน้าเซริน” ชื่อที่ทุกคนได้ยินเมื่อไหร่จะพากันเงียบและรับรู้ถึงความรู้สึกเศร้าขึ้นมา พวกเขารับรู้เพียงแค่ว่าพี่เซรินหายสาบสูญในหน้าที่เท่านั้น
“ผมจะให้มิวะเป็นเลขาของหัวหน้าหน่วยนะครับ ยังไงคนเก่าก็ถูกปลดไปแล้วและเด็กฝึกที่ได้ข่าวมาว่าสนิทกับเซรินน่าจะรู้เรื่องการทำงานของระดับสูงพอสมควร ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานได้ครับ” สิ้นเสียงร่างสูงก็เดินไปยังห้องำทงานส่วนตัวของตัวเองพร้อมรองหัวหน้าหน่วย ปล่อยฉันทิ้งให้ยืนนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูก
“ได้ไง สลับตำแหน่งกันมิวะ!” รินปรี่เข้ามาเขย่าแขน ไม่ใช่แค่เธอแต่มีคนอื่นอีกต่างล้อมวงเข้ามารุมฉัน
คะ คำสั่งแบบนั้น...
ขยับหน้าที่ขึ้นไปเป็นเลขาของหัวหน้าหน่วยเนี่ยนะ!
โต๊ะทำงานส่วนตัว
ปึก!
“เรื่องบ้าอะไรเนี่ย เรื่องบ้าอะไรกัน จะบ้า...”
ร่างบางทิ้งตัวนั่งลงยังเก้าอี้ทำงานในที่ประจำของตัวเองก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เสียงเล็กพึมพำอย่างไม่เข้าใจ หลังจากเซ็นเอกสารปรับเปลี่ยนหน้าที่งาน สิ่งที่ต้องทำงานต่อไปคือเก็บของย้ายไปยังโต๊ะเลขาที่อยู่ภายในห้องของหัวหน้า
ฉันจะต้องเจอเขาตลอดเวลางั้นเหรอ...
“อ๊าก!” เสียงแหกปากอย่างคนสติแตกดังลั่นทำให้คนอื่น ๆ รีบลุกมาดูฉันด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรมิวะ!” เสียงหนึ่งถามขึ้นพร้อมกับมีมือของใครบางคนจับหัวให้หันมาสบสายตาหลายสิบคู่ที่จ้องมา
“....” เผลอทำอะไรแปลก ๆ ต่อหน้าคนอื่นอีกแล้วสินะ
“เข้าใจว่าเสียใจเรื่องรองหัวหน้าเซรินอยู่ แต่จู่ ๆ แหกปากขึ้นมาแบบนี้คนเขาตกใจกันหมด” รุ่นพี่ในหน่วยงานพูดขึ้น
“มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยก็เลยแหกปากระบายมันออกมา ขอโทษค่ะทุกคน” ฉันตอบกลับทั้งที่ยังเอียงหน้าแนบอยู่กับโต๊ะและคำตอบที่ได้นั้นทำเอาทุกคนส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะแยกยย้ายกับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองยกเว้น
ริน...
“ถ้าทำไม่ได้เสนอชื่อฉันไปเลยนะ โอเคมั้ย” รินนี่น่าจะชอบผู้ชายคนนั้นมากเลยสินะ
“อะไรริน อย่ามาตีสนิทมิวะเพราะเรื่องนี้นะ...ถ้าไม่ไหวส่งชื่อเราไปแทนนะมิวะ”
“หยุดเลย ฉันอยู่ในหน่วยมาสามปีแล้วมีสิทธิ์ที่สุด อย่าลืมนะมิวะ”
ไม่ใช่แค่รินแล้วแหละที่สนใจไดอิจิ เก็น ผู้หญิงในหน่วย 3 ต่างสนใจเขาเหมือนกันหมด พอจะเข้าใจได้อยู่หรอกก็หัวหน้าหน่วยคนก่อนทั้งแก่ ปากไม่ดี บ้าอำนาจ พอได้คนใหม่ที่ยังหนุ่มแล้วยังหล่อมาก ๆ อีกด้วยก็พากันตื่นเต้น
“รับทราบค่า ~”
ฉันขานรับอย่างไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่แล้วเริ่มเก็บของลงกล่องเพื่อทำการย้ายโต๊ะทำงานต่อ จะให้เสนอชื่อใครได้ คนแบบนั้นมองก็รู้ว่าทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองและยังทำเพื่อความสะใจเท่านั้นแหละ ที่เลือกฉันไปเป็นเลขาเพราะอยากหาเรื่องแกล้งกันต่างหาก