5. เป็นห่วง
อ๋องฉินพาซีซีเดินเลี่ยงออกมา จากเหล่าองครักษ์ที่ล้อมรอบรัชทายาท เขาได้สั่งการให้ดูแลความปลอดภัยให้เป็นอย่างดี เมื่อเดินออกมาพ้นผู้คนและอยู่กันตามลำพังแล้วเขาก็เอ่ยขึ้น
"อยากปล่อยโคมกับข้าหรือไม่"
ซีซีมองหน้าอ๋องฉินที่ยืนจ้องมองตนอยู่ก่อนแล้ว ใจดวงน้อยเต้นรัวจนเกรงว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน ก่อนจะตอบเบาๆ
"เพคะ" เสียงหวานเอ่ยออกมาเบาหวิว เพราะตอนนี้หัวใจพองโตคับแน่นอกอย่างมิเคยเป็นมาก่อน เมื่ออีกคนเอ่ยเช่นนั้น อ๋องฉินเหยียนจึงสั่งให้คนของตนเอาโคมมาให้ มินานทั้งคู่ก็ปล่อยโคมขึ้นสู่ท้องฟ้า ที่สว่างไสวไปด้วยแสงของไฟที่ถูกจุดลอยอยู่เต็มไปหมด หลังจากนั้นอ๋องฉินก็จูงมือซีซีเดินไปหยุดตรงที่พักริมน้ำที่ห่างออกมาจากผู้คน
พร้อมกับมอบปิ่นปักผมหยกให้กับนาง ถ้อยคำหวานหูดังขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมที่จ้องอีกฝ่ายมิละออกไปไหน
"ข้ามอบให้เจ้า หวังเพียงเมื่อเจ้าเห็นมัน เจ้าจะคิดถึงข้าบ้าง" ฉินเหยียนเสียงทุ้มอ่อนโยน นางมองปิ่นที่คนตัวโตมอบให้พร้อมกับยิ้มดีใจ ปิ่นนี้ทำด้วยหยกสีขาวมันมีความงามเป็นอย่างมาก นางมิคิดว่าอ๋องฉินผู้นี้จะมีมุมที่โรแมนติกกับเขาด้วย
"ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเพคะ" นางเอ่ยก่อนจะยื่นมือออกไปรับ
"ให้ข้าปักให้เจ้าดีกว่า" อ๋องหนุ่มมิเพียงแต่เอ่ย เขาบรรจงปักปิ่นให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ เพราะมิเคยทำเช่นนี้ให้ผู้ใดมาก่อน อีกทั้งมือไม้ก็ยังสั่นจนเกรงว่าคนตัวเล็กจะขันท่าทางของเขา
"เหมาะกับเจ้ามาก" เขาเอ่ยเสียงสั่น เพราะเกิดประหม่าขึ้นมาเสียดื้อๆ ซีซียิ้มออกมา
ก่อนจะเงยขึ้นสบตากับอีกฝ่าย ซึ่งยามนี้เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งลง บางสิ่งที่อยู่ในใจเริ่มทำงานผ่านสายตาอ๋องฉินโน้มหน้าลงมาช้าๆ มือที่อยู่ข้างลำตัวถูกยกขึ้น จับรั้งท้ายทอยของหญิงสาว พร้อมกับบรรจงแนบริมฝีปากอุ่นลงยังปากอิ่มของสตรีตรงหน้า ก่อนจะขยับไปมาเพื่อเค้นคลึงบดจูบให้อีกคนจดจำสัมผัสนี้ให้มากที่สุด
และเสียงครางในลำคออย่างพอใจดังขึ้น ซีซีนั้นตัวอ่อนไปแล้วหากแต่มีมืออีกข้างของอ๋องฉินประคองกอดไว้ จึงทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมกอดนั้นอย่างเลี่ยงมิได้ ลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปเพื่อสำรวจภายในอย่างตั้งใจ
ซึ่งคนตัวเล็กก็ตอบสนองอย่างรู้งานทุกอย่างจึงพัวพันกันด้านในจนเกิดเสียง ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งเร่าร้อนและไม่อยากหยุด ยามนี้ซีซีแทบจะหลอมละลายคาอ้อมกอดเขาแล้ว อ๋องหนุ่มจูบอยู่เนิ่นนานด้วยความชำนาญ หากแต่ต้องปล่อยออกอย่างเสียดาย
เมื่อเสียงเรียกจากคนสนิทดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้ยามนี้ร่างเล็กซบอยู่บนอกแกร่งแทน
"ท่านอ๋องรัชทายาทจะเสด็จกลับแล้วพะย่ะค่ะเลย ให้กระหม่อมมาตามพระองค์" จื่อถงเอ่ยโดยมิได้หันมามอง แม้จะอดคิดมิได้ว่าตนคงถูกทำโทษเป็นแน่ที่เข้ามาในเวลานี้ แต่กลับผิดคาดเพราะนอกจากผู้เป็นนายจะมิสั่งลงโทษแล้ว ดูเหมือนท่านอ๋องจะอารมณ์ดีเสียอีก
"เจ้ากลับไปกับจื่อถง แล้วข้าจะรีบตามไป" ซีซีที่กำลังตั้งสติอยู่ก็รับคำแบบงงๆแต่พอเห็นหน้าอ๋องฉินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที ทำให้คนตัวโตที่มองเห็นเช่นนั้นก็อดมิได้ที่จะจูบลงบนริมฝีปากหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนจะหันมาออกคำสั่งกับคนของตน
"พานางกลับจวน ดูแลให้ดีห้ามมิให้เกิดอันใดขึ้นเด็ดขาด" เขาสั่งเสียงเข้ม ทำให้คนสนิทรีบรับคำทันที
"พะยะค่ะท่านอ๋อง" จื่อถงจึงพาซีซีกลับจวนพร้อมกับทหารอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อมาถึงห้องซีซีก็นั่งคิดถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น แก้มเนียนใสก็เห่อร้อนขึ้นมาอีก
"ไม่เคยคิดฝันว่าจะทะลุมาในยุคโบราณ และยังมีจูบแรกกับคนที่เป็นถึงอ๋องอีก นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นอย่าพึ่งตื่นเลยนะ" เมื่อนึกถึงสัมผัสจากริมฝีปากหนานางก็ยิ่งนึกอาย เพราะเกรงว่าเขาจะมองว่าง่าย
"พรุ่งนี้จะมองหน้าเขายังไงล่ะคราวนี้" หญิงสาวคิดไปคิดมาก็เผลอหลับไปในที่สุด จนมิรู้ว่าคนที่ตนคิดถึงนั้นกลับมาถึงจวนแล้ว
"นางหลับไปแล้วหรือ"ฉินเหยียนเอ่ยถามจื่อถงทันที
"คงเป็นเช่นนั้นเพราะไฟในห้องดับไปแล้วพะยะค่ะ"
อ๋องฉินเดินกลับไปที่ห้องตนพร้อมจื่อถงและลู่หานเพื่อเอ่ยถามถึงการอารักขารัชทายาท
“ในงานมีเหตุการณ์อะไรหรือไม่”
"มิมีเหตุการณ์ร้ายแรงพะยะค่ะ มีกลุ่มสังหารที่คิดจะลอบสังหารรัชทายาท หากแต่ก็ถูกสกัดได้จึงมิอาจลงมือ แต่พอมันถูกจับได้ก็กินยาพิษฆ่าตัวตาย เลยมิสามารถคาดคั้นหาคนบงการได้พะยะค่ะ" ลู่หานเอ่ยรายงาน
"ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะ" เมื่อคนสนิททั้งสองออกไปแล้ว เขาเอ่ยถึงอีกคนด้วยถ้อยคำลำพึง
"เจ้าหลับไปแล้วจริงๆหรือ" เมื่อนึกถึงเรื่องก่อนนี้หัวใจของอ๋องฉินก็เต้นแรงอย่างห้ามมิได้
"ข้าอยากให้เจ้าอยู่กับข้าเช่นนี้ตลอดไป" เมื่อคิดว่าหญิงสาวอาจจะหายไปเมื่อใดก็ได้ เหมือนตอนที่นางมา อ๋องฉินก็มิสามารถหลับตาลงได้ จวบจนเช้าของอีกวัน
"ท่านอ๋องต้องเสด็จไปที่เมืองจิ้งวันนี้เลยหรือ จื่อถง เช่นนี้เราคงต้องเตรียมการเดินทางแล้ว"
"เป็นเช่นนั้น" สองสหายนึกถึงภารกิจที่จะต้องตามติดผู้เป็นนายไปต่างเมืองอีกครั้ง ซึ่งเป็นเช่นนี้เสมอ
"แล้วแม่นางซีซีรู้หรือไม่" ลู่หานเอ่ยถามสหายที่ยืนอยู่ข้างกัน จื่อถงทำเพียงแค่ส่ายหน้าเท่านั้น
"หากเป็นเช่นนี้ นางจะมิเสียใจแย่หรือ ไปคราวนี้มิรู้เมื่อไหร่จะได้กลับ" ลู่หานเอ่ยอีกครั้ง
"อย่าว่าแต่แม่นางซีซีเลย ท่านอ๋องก็คงรู้สึกมิต่างกันพระองค์พึ่งจะรู้สึกดีกับสตรีคราแรกแท้ๆ กลับต้องแยกจากกันซะแล้ว" สองคนสนิทต่างก็รู้สึกเห็นใจคนทั้งคู่
"เห้อ" เสียงถอนหายใจคู่ของทั้งสองดังขึ้น อ๋องฉินหลังได้รับราชโองการให้ไปอารักษ์ขารัชทายาทและปราบกบฎในเมืองจิ้ง ก็เกิดคิดหนักขึ้นมา เพราะมิรู้ว่าจะทำอย่างไรดี หากเป็นแต่ก่อนก็คงไปได้มิมีอะไรต้องห่วง หากแต่ตอนนี้มีใครบางคนที่มิรู้ว่าหากไปแล้วกลับมาจะได้พบหน้านางอีกหรือไม่ เลยทำให้เขารู้สึกต่างออกไปจากทุกครั้ง
"สัญญากับข้าได้หรือไม่ หากข้ากลับมาเจ้าจะยังอยู่ที่นี่" อ๋องฉินเอ่ยกับซีซีด้วยน้ำเสียงวิงวอน
"หม่อมฉันจะรอท่านอ๋องกลับมาเพคะ" เสียงหวานเอ่ยตอบคนตัวโตที่ทำหน้าละห้อย ราวกับว่าจะไม่ได้พบเจอกันอีกในวันข้างหน้าเสียอย่างนั้น
"เมื่อข้ากลับมาข้าจะขอพระราชทานสมรสกับเจ้า" อ๋องหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงหนักแน่นจริงจัง ทำเอาคนตัวเล็กตาโตเพราะมิอาจเชื่อหูตนเอง อ๋องหนุ่มมีสีหน้าเศร้าลง
"เจ้ามองข้าอย่างนี้เจ้ามิอยากแต่งงานกับข้าหรือ"
"ท่านอ๋องจะแต่งงานกับหม่อมฉันจริงๆหรือเพคะ"
"เจ้าคิดว่าคนเช่นข้าชอบพูดเล่นเช่นนั้นหรือ" อ๋องฉินเอ่ยพร้อมสาวเท้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก
"เราแต่งงานกันได้หรือเพคะ หม่อมฉันมิได้อยู่ที่นี่ อีกทั้งยังเป็นคนธรรมดามิใช่บุตรสาวขุนนางคนชั้นสูง" เมื่อเห็นถึงความกังวลของหญิงสาว อ๋องฉินก็รีบบอกทันที
"ข้าคุยกับเสด็จแม่แล้ว เมื่อข้ากลับมาเสด็จแม่จะทรงเป็นคนไปขอพระราชทานสมรสเอง"
เมื่อคนตัวโตเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้ซีซีเกิดความมั่นใจมากขึ้น จึงเกิดรอยยิ้มที่ทำเอาอ๋องหนุ่มใจชื้นเมื่อเห็นเช่นนี้
“หม่อมฉันจะรอท่านอ๋องกลับมาเพคะ"
"ถ้าเช่นนั้น" อ๋องฉินก็มิเอ่ยอันใดต่อ มือเรียวรั้งท้ายทอยคนตัวเล็กหันมาเพื่อรับจูบดูดดื่มทันที จูบแล้วจูบเล่า จนหญิงสาวอ่อนแรงในอ้อมแขนแกร่ง
จวบจนถึงเวลาที่ต้องออกเดินทาง อ๋องหนุ่มจึงจำต้องผละออกอย่างเสียดาย ก่อนจะพากันออกมาจากห้องนอนของซีซี เมื่อมาถึงห้องรับรองที่มีไท่เฟยนั่งรออยู่ อ๋องฉินก็เอ่ยกับคนตัวเล็กอีกครั้ง
"มิรู้ข้าจะต้องไปนานเพียงใดขอให้เจ้าดูแลรักษาตัวเองให้ดี ฝากดูแลเสด็จแม่ข้าด้วย"
"หม่อมฉันจะดูแลไท่เฟยให้ดีเพคะ" เสียงหวานเอ่ยตอบ พร้อมกับมองคนตัวโตตาละห้อย
ไท่เฟยมองบุตรชายที่ต้องจากไปเพื่อบ้านเมืองอีกครั้ง แม้จะเคยชินแต่ก็ยังอดเป็นห่วงมิได้
"รักษาตัวให้ดีนะลูกแม่ มิต้องห่วงคนทางนี้ แม่จะมิให้ใครมายุ่งกับของรักเจ้าเป็นแน่" เสียงอ่อนโยนของมารดาท่านอ๋องเอ่ย ทำเอาผู้ยืนอยู่ข้างๆถึงกับอายจนหน้าแดง อ๋องฉินยิ้มส่งให้คนตัวเล็ก ก่อนจะกอดลามารดาเช่นทุกที แล้วจึงหันมารั้งเอาร่างเล็กเข้าไปกอด จนอีกฝ่ายถึงกับหน้าหราเพราะมิคิดว่าเขาจะกล้าทำต่อหน้าผู้อื่น
“พี่ไปนะซีซี อย่าลืมสัญญาที่เจ้ารับปากพี่” ฉินเหยียนเอ่ยเสียงนุ่ม พร้อมกับสบนัยน์ตาสวย
“เพคะ ขอให้ท่านอ๋องกลับมาอย่างปลอดภัยนะเพคะ” เสียงหวานเอ่ยตอบ ก่อนที่ร่างเสูงจะทำใจเดินผละออกมา ซีซีมองตามเขาจนลับตาหายออกไปจากประตู ไม่คิดว่าช่วงเวลาของความสุขตื้นตันใจจะผ่านไปเร็วเพียงนี้