3. งานเลี้ยง
สตรีต่างยุคอาศัยอยู่ที่นี่ผ่านมาแล้วเกือบหนึ่งเดือน ทำให้นางเริ่มคิดว่าคงมิอาจกลับไปยังยุคปัจจุบันได้อีกแล้ว เลยพยายามใช้ชีวิตอยู่ที่นี่และเรียนรู้ทุกอย่างไปด้วย และวันนี้มีงานเลี้ยงวันประสูติของรัชทายาท ซีซีถูกเชิญให้ไปร่วมงานด้วย นางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เมื่อมาถึงตำหนักรัชทายาทก็ได้พบกับเหล่าคุณหนูของชนชั้นสูงในเมืองหลวง ซึ่งทุกนางล้วนแต่มีเป้าหมายที่จะได้มาพบเจอกับรัชทายาท และเหล่าองค์ชายรวมถึงท่านอ๋องผู้รูปงาม ที่ยังมิมีชายาเคียงข้างกาย
"มีแต่คนสวยๆหล่อๆทั้งนั้นเลย” ซีซีคิดในใจ
"เจ้ามาแล้วหรือ ข้ารอเจ้าอยู่ตั้งนาน"รัชทายาทเอ่ยขึ้น
ซีซีคำนับอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม ก่อนจะส่งยิ้มให้ตามปกติ จิงหลินจึงรีบเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"ข้าว่าจะแวะไปหาเจ้า แต่ราชกิจก็ยุ่งเหลือเกิน ข้าเลยส่งเทียบเชิญให้เจ้ามาวันนี้"
"ขอบพระทัยรัชทายาทที่เชิญหม่อมฉันมาเพคะ ทำให้หม่อมฉันได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตา"
"รัชทายาท บุตรีท่านเสนาบดีมาแล้วพะยะค่ะ" ซือเต๋อเอ่ยบอกกับผู้เป็นนาย
"ถวายพระพรรัชทายาทเพคะ" บุตรีเสนาบดีเอ่ย
"เจ้าก็มาแล้วหรือ ขอบใจที่มางานเลี้ยงของข้า"
ซีซีหันไปมองคนมาใหม่ ที่แต่งกายด้วยอาภรณ์ที่งดงาม พร้อมกับเครื่องประดับเต็มตัว
"สวยจัง" นางเอ่ยขึ้นเบาๆ พร้อมกับยืนมองอย่างชื่นชม ต่างจากบุตรีเสนาซึ่งหันมามองสตรีข้างกายรัชทายาทเช่นกัน แต่แววตากลับมิได้บ่งบอกว่าชอบใจแม้แต่น้อย
"หญิงผู้นี้เป็นใครกันไยถึงดูสนิทสนมคุ้นเคยกับรัชทายาทนัก รูปโฉมก็งดงามผิวพรรณก็ผุดผ่องต่างจากสตรีในเมืองหลวง" บุตรีเสนาคิดในใจ
"ซีซี นี่คือคุณหนูเหวินอี้เหม่ย เป็นบุตรีของเสนาบดี ส่วนนี่ ซีซีนางพักอยู่ที่จวนของเสด็จอาฉินเหยียน ข้าเชิญนางมาเอง นางเป็นสหายของข้า" รัชทายาทรีบบอกออกไป เพื่อมิให้ซีซีตกเป็นเป้าของใครบางคน ที่อาจจะทำร้ายนางได้ เพราะความสนิทสนมที่เขามีให้
"เป็นเช่นนี้เองหรือเพคะ" อี้เหม่ยเอ่ยออกมา แต่ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด และขุ่นมัวจนแสดงออกมาทางสีหน้า แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครใส่ใจ
"เสด็จไปที่ประทับเถอะพะยะค่ะ" ซือเต๋อบอกกับผู้เป็นนาย เพราะยามนี้หลายฝ่ายจับตามองเป็นอย่างมาก
"เจ้าก็ไปนั่งที่ของเจ้าเถอะ"รัชทายาทกล่าวบอกกับซีซี
"เพคะ" นางตอบรับก่อนจะเดินตามนางกำนัลไป
ที่นั่งของเธออยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งของรัชทายาท อีกทั้งยังอยู่ข้างแท่นประทับของอ๋องฉินด้วย
"เหตุใดรัชทายาทต้องใสใจนางถึงเพียงนี้" อี้เหม่ยได้แต่ขบคิดในใจ สายตาก็ยังคงแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง
ด้านซีซีพอนั่งลงก็หันมองซ้ายมองขวา แต่ก็มิเห็นอ๋องฉินเหยียนที่ควรจะอยู่ร่วมงาน เพราะเขาเดินทางมาก่อนนางเสียด้วยซ้ำ แต่เหตุใดถึงมิเห็นอยู่ในงาน
“เขาไปไหนกันนะ ปกติก็ต้องมางานเลี้ยงนี้ด้วยมิใช่เหรอ แต่ทำไมถึงมิเห็นล่ะ" เสียงหวานเอ่ยพึมพำคนเดียว
อีกด้านของตำหนักบูรพา มีการวางแผนลอบสังหารรัชทายาทอยู่ หากแต่การคุ้มกันแน่นหนา จึงมิสามารถลงมือได้ อีกทั้งคนที่เฝ้าอารักษ์ขาเป็นถึงหัวหน้าองครักษ์มีดบิน อ๋องฉินเหยียน จึงมิสามารถลอบเข้ามาได้ จึงทำให้การสังหารล้มเหลว จึงพากันหล้าถอยกลับไป
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์มิมีอะไรที่ต้องเป็นห่วง อ๋องฉินจึงกลับเข้ามาในงานเลี้ยง เพียงเท่านั้นเสียงซุบซิบจากเหล่าบรรดาบุตรีของขุนนางชั้นสูงก็ดังขึ้น เพราะปรารถนาจะให้อ๋องฉินหันมามองสักครา อ๋องผู้นี้เป็นที่หมายปองของเหล่าสตรี ที่หลงใหลในรูปร่างหน้าตาของเขา
ร่างกายกำยำและเครื่องหน้าอันหล่อเหลา เก่งทั้งบู๊และบุ๋น ทำให้สตรีทั่วหล้าต่างก็หมายตา หากแต่ท่านอ๋องฉินเป็นคนเย็นชาและมิเคยสนใจสตรี ยกเว้นใครบางคน
"หากเจ้าดื่มสุราเป็นน้ำเช่นนี้ เจ้าคงจะหลับไปตรงนี้ในมิช้า ส่งมาให้ข้า" อ๋องฉินพูดขึ้นพร้อมกับแย่งจอกสุรามาดื่ม ทำเอาคนที่กำลังมองหาเขาอยู่ ตกใจที่จู่ๆอ๋องหนุ่มก็โผล่มาโดยมิบอกกล่าว อีกทั้งจอกที่เขาดึงจากมือ นางก็พึ่งจะดื่มไปนิดเดียว เรียกว่าจิบเอาก็ได้
"ท่านอ๋องมาได้เช่นไร นั่นมันจอกสุราของข้านะ เหตุใดถึงมิใช้จอกอื่นกันล่ะเพคะ" เสียงหวานเอ่ยตำหนิทันที
เพราะที่เขาทำมันก็เท่ากับว่าจูบทางอ้อม พอคิดได้แบบนั้นนางก็อดอายมิได้ จนแก้มขึ้นสีระเรื่อน่ามอง
"เหตุใดข้าจะมามิได้ล่ะ ในเมื่อเจ้าเองก็อยู่ที่นี่"
"ก็ทีแรกหม่อมฉันมิเห็นท่านอ๋องนี่เพคะ" นางเอ่ยขึ้นในสิ่งที่คิด ทำให้อ๋องหนุ่มยกยิ้มพอใจที่ได้ยินเช่นนั้น อ๋องฉินเลือกที่จะนั่งลงข้างกายซีซี แทนที่จะไปนั่งในที่ของตน ซึ่งอยู่บนแท่นถัดไป พร้อมกับดื่มสุราในจอกไปด้วย
"นี่เจ้าสนใจข้าด้วยเหรอ ถึงได้บอกว่ามองหาข้า" เอ่ยจบเขาก็ใช้แขนวางไปที่โต้ะก่อนจะยกมือมาท้าวคาง จ้องมองซีซีด้วยสายตาที่มิเคยมีใครได้รับ นางก้มหน้ามิเอ่ยสิ่งใดออกมาเลย แต่แก้มเนียนใสกลับแดงเป็นลูกตำลึงไปแล้ว เพราะอีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองมิวางตา
"เสด็จอามานั่งกับกระหม่อมดีกว่าพะย่ะค่ะ จะได้ดื่มสุราด้วยกัน" รัชทายาทกล่าวทันทีเมื่อเห็นท่าทีสนิทสนมของอ๋องฉินและซีซีเพราะเขาก็สนใจสตรีผู้นี้มิน้อย
"ไม่ล่ะ ข้าจะนั่งตรงนี้ คนของข้าอยู่ที่นี่" เอ่ยจบก็หันไปบอกให้ซีซีรินเหล้าให้ดื่ม แต่นางยังคงนิ่งอยู่เพราะคำพูดที่อีกคนพึ่งเอ่ยออกมา มันทำเอานางใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย ก่อนจะได้สติเพราะอ๋องฉินเอื้อมมือมากุมเอาไว้
“เจ้ามิเต็มใจรินสุราให้ข้าหรือ” การกระทำของคนตัวโตยิ่งทำให้ซีซีรู้สึกประหม่า แต่ก็ทำตามที่อีกคนบอกแม้ในใจจะบ่นให้เขาก็ตาม
"เห็นเราเป็นเด็กเชียร์เบียร์รึไง สั่งให้รินเหล้าซะงั้น คำพูดแต่ละคำมิคิดว่ามันทำให้ใจเต้นแรงเลยหรือไงนะตาอ๋องบ้าคนนี้" ซีซีบ่นในใจถึงตอนแรกมิคิดจะทำตาม แต่เพราะทนต่อสายตารบเร้าของอ๋องหนุ่มมิได้ อ๋องฉินมองหน้านางนิ่งก่อนจะเอ่ยถามออกไป
"เจ้าอยากกลับรึยัง" เสียงทุ้มอ่อนโยนดังขึ้น
"ท่านอ๋องจะกลับแล้วหรือเพคะ" คนตัวเล็กย้อนถาม พร้อมกับเอียงคอมองเขา จนฉินเหยียนอดเอ็นดูมิได้
"แล้วแต่เจ้า ถ้าจะอยู่ต่อข้าก็ยังมิกลับรอกลับพร้อมเจ้า อย่างไรเสียเราก็อยู่ชายคาเดียวกัน" เขายังคงใช้เสียงทุ้มอ่อนโยนกับนาง พอได้ยินเช่นนี้แก้มเนียนก็ยิ่งแดงขึ้นริมฝีปากอิ่มก็มิอาจหุบยิ้มลงได้ ยิ่งทำให้คนที่นั่งมองอยู่ก่อนแล้วอยากให้เวลาหยุดลงตรงนี้
ต่างจากทุกคนที่อยู่ในงานล้วนแต่แปลกใจ ว่าเหตุใดท่านอ๋องถึงได้มีท่าทีเช่นนี้ เพราะปกติเขามิเคยส่งสายตามองสตรีใดมาก่อน รวมถึงคำพูดที่ดูอ่อนโยนจนมิน่าจะใช่อ๋องฉินเหยียนคนเดิมเลย แต่ก็มิมีผู้ใดกล้าเอ่ยถึงในยามนี้หรอก เพราะกิติศัพท์ของอ๋องผู้นี้ทุกคนต่างก็รู้ดี มิมีผู้ใดกล้าเอ่ยวาจาต่อหน้าเขาทั้งนั้น
เมื่องานเลี้ยงดำเนินมาจนดึกดื่น เหล่าองค์ชายและบุตรีขุนนางทั้งหลายต่างก็กล่าวลากัน
"เราต้องกลับแล้ว" ฉินเหยียนเอ่ยกับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกาย ก่อนจะพาลุกขึ้นแล้วหันไปกล่าวลารัชทายาท
"ขอบพระทัยเสด็จอาที่มางานเลี้ยงและดูแลความปลอดภัยนะพะย่ะค่ะ" รัชทายาทกล่าวกับผู้เป็นอา ก่อนจะหันมาหาคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ข้างอ๋องฉิน
“ไว้ข้าจะแวะไปหาเจ้าที่จวนเสด็จอานะ" จิงหลินเอ่ยบอกก่อนจะมองอย่างอาวรณ์
"เพคะรัชทายาท ฝันดีนะเพคะ" ซีซีบอกฝันดีไปโดยมิได้คิดสิ่งใด แต่กลับมีสายตาพิฆาตของใครบางคนจ้องอยู่ จนนางต้องเสหลบทันที
"กลับ!" ฉินเหยียนกระแทกเสียงใส่ทันที ซีซีอดที่จะตกใจกับการกระทำของคนตัวโตมิได้ เพราะน้ำเสียงนี้บ่งบอกว่าเขามิพอใจเป็นอย่างมาก
"ทำไมต้องเสียงดังด้วย ดูทำหน้าเข้าสิ” ซีซีคิดในใจแต่ก็เดินตามไป เมื่อมาถึงรถม้าอ๋องฉินก็ขึ้นม้าทันทีโดยมิเอ่ยสิ่งใด ส่วนซีซีก็รีบเข้าไปในรถม้าเพราะกลัวถูกดุอีก ฉินเหยียนนำคนของตนมาถึงกลางทาง
ก็มีกลุ่มคนชุดดำที่วางแผนลอบสังหารรัชทายาท แต่มิสามารถลอบเข้าไปได้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นอ๋องฉินแทน เพื่อที่ต่อไปจะได้ง่ายขึ้นกับลอบสังหารรัชทายาท การโจมตีเกิดขึ้นรวดเร็วจนอีกฝ่ายมิทันได้ตั้งรับ
เหล่าผู้ติดตามที่มีเพียงห้าคน และสาวรับใช้ต่างต่อสู้และหนีตายกันอลหม่าน ซีซีที่อยู่ในรถม้าตกใจมิน้อยแต่ก็พยายามตั้งสติ คิดว่าตัวเองมิน่าจะเป็นคนที่จะถูกทำร้ายเพราะพึ่งมาอยู่ที่นี่และมิเคยมีปัญหากับใคร คิดได้ดังนั้นจึงพยายามที่จะพาตัวเองออกมาจากรถม้า