2. ลอบสังหาร
เธอเดินสำรวจไปทั่วจนมาถึงสะพานข้ามสระบัว เพราะไม่ทันระวังมัวแต่มองสิ่งรอบตัว จึงทำให้สะดุดขอบไม้จนเซล้มลง แต่โชคดีที่อ๋องฉินผ่านมาพบ จึงดึงแขนของนางไว้ทันก่อนจะตกน้ำ ทำให้ทั้งคู่ต่างก็ตกอยู่ในอ้อมกอดกันและกัน ซีซีเงยหน้ามองอ๋องฉินแบบเต็มตาครั้งแรก อ๋องฉินก็เช่นกัน ทั้งสองต่างก็สบตากันความรู้สึกที่แปลกใหม่ ที่ทั้งคู่ มิเคยรู้สึกกับใครมันกำลังเกิดขึ้นกับทั้งสองแล้ว แต่เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกนี้ คนปากแข็งเช่นอ๋องฉินก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบใส่อีกฝ่ายทันที
"เดินก็หัดดูทางซะบ้าง" เขาตำหนินางเสียงดัง
"ขออภัยเพคะท่านอ๋องซีซีไม่ทันระวัง แล้วเมื่อไหร่ท่านอ๋องจะปล่อยฉันเสียที"
เพราะมาจากอีกยุคสมัย อีกทั้งคำราชาศัพย์ก็ไม่เคยใช้ฟังแต่ซีรี่ย์เท่านั้น เลยทำให้เธอหลุดประโยคแปลกไม่คุ้นหูคนที่นี่ออกมา อ๋องฉินได้สติก็รีบปล่อยมือ เพราะมัวแต่มองปากอิ่มเผยอเอ่ยถ้อยคำ
"เจ้าคุยอะไรกับเสด็จแม่ข้า " ฉินเหยียนเอ่ยถามทันที เมื่อถอยออกมายืนประจันหน้ากันแล้ว
"ฉัน เออ หม่อมฉันคุยเรื่องทั่วไปเพคะ"
"เจ้าจะบอกได้หรือมิว่ามาจากที่ใด เหตุใดถึงมีแสงสว่างสาดส่องมา ก่อนที่เจ้าจะปรากฎตัวอยู่บนแท่นบูชา เจ้าเป็นสายลับจากต่างแคว้นหรือไม่" อ๋องหนุ่มหมายจะเค้นเอาความจริงจากสตรีตัวน้อย ซึ่งยามนี้มองเขาตาโต เพราะคำว่าสายลับมันร้ายแรงจนอาจทำให้เธอถูกจับไปขัง ถ้าหากมีใครมาได้ยินคำพูดนี้ เธอเลยต้องรีบอธิบายให้อีกฝ่ายฟังอย่างร้อนรน
"ฉันไม่ใช่สายลับนะ! เอ่อ หม่อมฉันมิรู้ว่ามาที่นี่ได้ยังไงหมือนกัน ตอนแรกหม่อมฉันตกน้ำแล้วพอตื่นขึ้นมาก็มาอยู่บนแท่นนั้นแล้ว จะให้พูดอีกกี่ครั้งก็ไม่ต่างไปจากนี้หรอก เพราะฉัน เอ๊ย! หม่อมฉันไม่รู้จริงๆ”
“เฮ้อ! ทำไมถึงพูดยากแบบนี้นะคำราชาศัพท์เนี่ยะ” ซีซีคิดในใจ ก่อนจะเงยหน้ามองคนตัวโตที่ยืนจ้องเธออยู่ ใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อ๋องฉินมองหน้าสตรีตรงหน้า พลางก็คิดในใจ
"ดูท่าเจ้าเองก็คงจะมิรู้จริงจริง"
หลังจากวันนั้นผ่านไปนานกว่าสิบวัน การได้พูดคุยกับอ๋องฉินเหยียน ทำให้ซีซีได้รู้ว่า เขาไม่ได้เย็นชาอย่างที่คิดวันนี้อากาศแจ่มใส นางจึงมีความคิดอยากออกไปเดินเล่นที่ตลาด จึงไปขออนุญาตไท่เฟยแล้วก็ได้ออกไปสมใจ แต่ต้องมีคนติดตามไปเพราะเกรงว่าจะหลงทางเอาได้
"สมกับเป็นเมืองหลวงที่นี่ดูคึกคักจังเลย ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาพบเจอด้วยตัวเอง" ซีซีเดินดูรอบๆในตลาดอย่างตื่นตา แต่อีกมุมหนึ่งกลับมีกลุ่มคนกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย และมิใช่ใครที่ไหนรัชทายาทจงหลิน ซึ่งแอบปลอมตัวมาเดินเที่ยวหาความสำราญพร้อมผู้ติดตามนั่นเอง ยามนี้ซือเต๋อกำลังต่อสู้กับชายฉกรรจ์นับสิบ ในขณะที่กำลังจะพ่ายแพ้
"ทหารทางนี้ ทางนี้มีคนร้าย" กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ยินดังนั้นจึงรีบหนีไป โดยมิได้หันมามองเลยแม้แต่น้อย จึงมิรู้ว่าตนถูกหลอกเข้าให้แล้ว
"รีบหนีสิจะรอให้มันกลับมาฆ่าอีกเหรอ" ซีซีคว้ามือรัชทายาทวิ่งหนีโดยมีซื่อเต่อวิ่งตามเช่นกัน เขาทั้งสามหนีมาจนถึงจุดพักม้าจึงได้หยุด ซีซีรู้สึกสนุกกับเรื่องที่ทำมาก จนลืมว่าตัวเองมีคนติดตามมาด้วย
"ดีนะที่ฉันเป็นนักกีฬา วิ่งแค่นี้สบายมาก"
เธอพูดกับตัวเองโดยที่ยังไม่ได้ปล่อยมือออกจากแขนของใครบางคน รัชทายาทมองมือที่ซีซีจับก็อดยิ้มมิได้
"มิมีทหารแม้แต่คนเดียว เหตุใดเจ้าถึงบอกว่าทหารกำลังมาล่ะ" เขาเอ่ยถามว่าเหตุใดนางจึงเอ่ยเช่นนั้น
"เอ้า!ก็โกหกไง" ซีซีตอบหน้านิ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายดูท่าจะสงสัยในคำพูดของตน
"ถ้าไม่โกหกแบบนั้นจะให้ทำยังไง ฉันสู้ไม่เป็นนี่หน่า" ซีซียังคงพูดไปเรื่อยโดยมิได้หันมองผู้อื่นเลย
รัชทายาทยิ้มออกมากับท่าทีของอีกคน ที่มิคิดจะเกรงกลัวสิ่งใดเลยแม้จะเป็นสตรี
"ถ้าเช่นนั้นก็ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยข้า" จิงหลินเอ่ยเสียงอ่อนโยน ซีซีมองรัชทายาทและผู้ติดตาม ก่อนจะพูดขึ้น
"พวกนาย เอ๊ย! พวกเจ้าไปทำอะไรให้พวกนั้นโกรธ ถึงได้คิดฆ่าแกงกันแบบนี้ ทำไมถึงโหดร้ายป่าเถื่อนกันนักนะ ยุคไหนก็มีแต่คนฆ่าแกงกัน"
เธอถามแล้วก็ยังส่งเสียงบ่นราวกับว่าพูดคนเดียวเสียอย่างนั้น จนคนที่ยืนอยู่ด้วยกันอดเอ็นดูมิได้
"พวกมันก็ลอบสังหารข้าเป็นปกติอย่างนี้แหละ"
"อะไรนะ รอบสังหารเป็นปกติงั้นเหรอ นี่นายมีสัตรูเยอะขนาดนั้นเลยหรือไง" นางร้องถามเสียงหลง ในขณะนั้นก็มีเสียงคุ้นหูดังขึ้นมา ทำให้ซีซีต้องรีบหันไปมองทันที
"จงหลิน เจ้าแอบหนีออกมาอีกแล้วหรือ"
"เสด็จอา/ท่านอ๋อง" ทุกคนต่างก็ส่งเสียงออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าผู้ที่กำลังบังคับม้ามาคือผู้ใด
อ๋องฉินปรากฏตัวต่อหน้าคนทั้งสามพร้อมเหล่าองครักษ์ ซีซีเองก็มองอีกฝ่ายตาโต
"ทำไมวันนี้ท่านอ๋องเย็นชาถึงได้หล่อขนาดนี้เนี่ยะ" ซีซีคิดในใจ เพราะคนตรงหน้าแต่งกายด้วยผ้าไหมที่ตัดเย็บอย่างดี ซ้ำยังเกล้าผมขึ้นพร้อมกับเครื่องประดับคลอบไว้และปิ่นมังกร อย่างกับพระเอกในซีรี่ย์ที่เธอชอบดู
อ๋องฉินใช้หางตาเหลือบมองซีซีแล้วพูดขึ้น
"แล้วเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แอบนี้ออกมาอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงมิมีผู้ติดตามมาเช่นที่ข้าสั่งไว้"
"เปล่านะฉันออกมากับสาวใช้และผู้ติดตาม เอ่อ!แต่ว่า" นิ้วเรียวเล็กชี้ไปทางซ้ายขวาอย่างสับสน หลังจากนั้นซีซีก็เงียบไป เพราะรู้ว่าตัวเองผิดที่แอบหนีมาเดินเที่ยวคนเดียว จนมาเจอกับรัชทายาท
"อย่าโทษนางเลยเสด็จอา หากนางมิช่วยหลานไว้ อาจได้รับบาดเจ็บ หรือตายไปแล้ว "
"นั่นเพราะเจ้าหนีออกมาโดยที่มิมีองครักษ์นะสิ" อ๋องฉินเอ่ยตำหนิพระนัดดดาของตนทันที
"เอาล่ะ พวกเจ้าคุ้มครอง รัชทายาทกลับวัง ส่วนเจ้ากลับจวนพร้อมข้า" อ๋องฉินหันไปสั่งคนของตนที่ยืนล้อมรอบอยู่มิไกล พร้อมกับส่งสายตาดุมองคนตัวเล็กที่หาเรื่องให้ปวดหัวทุกวัน รัชทายาทหันมาหาซีซี
"แล้วข้าจะไปหาเจ้าที่จวนเสด็จอานะ" กล่าวเสร็จก็ยิ้มและขึ้นม้าไป ซีซีดีใจที่มีเพื่อนใหม่จึงยิ้มออกมา แต่ต้องเจอกับสายตาพิฆาตที่จ้องเขม็งอยู่ พร้อมกับน้ำเสียงปนความหงุดหงิดที่แผ่รังษีออกมาจนน่ากลัว
"จะกลับหรือจะอยู่ที่นี่!” ฉินเหยียนส่งเสียงดุใส่ทันที
"กลับค่ะ กลับแล้ว" คนตัวเล็กตอบออกไปพร้อมกับใบหน้าบึ้งที่ถูกอีกฝ่ายดุ อ๋องหนุ่มกลับขึ้นม้าแล้ว แต่ก็มิเอ่ยสิ่งใด ทำให้คนที่ยืนมองตาปริบๆถึงกับสับสน
"เขาจะให้เราเดินกลับรึยังไงกัน" ซีซีคิดในใจ
"ส่งมือมา" ฉินเหยียนเอ่ยราวกับออกคำสั่ง
แต่ดูเหมือนอีกคนยังคงสงสัย จึงได้แต่ยืนเอียงคอมอง
"ข้าบอกให้ส่งมือมา!" อ๋องหนุ่มเอ่ยเสียงดังอีกครั้ง ซีซีจึงส่งมือให้เขาก่อนจะถูกดึงขึ้น โดยมีมืออีกข้างรั้งเอวนางจนขึ้นมานั่งอยู่ด้านหน้าเขา เมื่ออยู่บนหลังม้าทั้งคู่ก็มิมีคำพูดใดๆออกมา
มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงของซีซี ซึ่งมันดังจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน
"กลัวตกหรือ ข้ามิปล่อยให้เจ้าตกลงไปหรอก"
"มิได้กลัวตกซะหน่อย" ซีซีคิดในใจ ยิ่งนึกนางก็หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆยังดีที่นั่งอยู่ด้านหน้า คนตัวโตเลยไม่ได้เห็นว่าตอนนี้นางอายมากเพียงใด พอมาถึงจวนไท่เฟยก็ตำหนิซีซีอยู่พักใหญ่เพราะความเป็นห่วงที่มี
"เจ้านะเจ้าทำไมถึงมิรู้จักกลัว ทำไมถึงทำให้คนแก่เป็นห่วงเช่นนี้" ถ้อยคำที่ไท่เฟยเอ่ยมานั้น ล้วนแต่เกิดเพราะห่วงซีซีมาก ทำให้ผู้กระทำผิดก้มหน้ารับมิปริปากอันใดแม้แต่น้อย นางคุกเข่าคลานเข้าไปหาอย่างออดอ้อน
"หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะไท่เฟย อย่าโกรธหม่อมฉันเลยนะเพคะ" ปากอิ่มเอื้อนเอ่ยเจรจาเสียงหวานเพื่อให้อีกคนหายโกรธ ไท่เฟยมองหน้าน้อยๆแล้วก็สงสาร ด้วยความเอ็นดูที่มีให้อยู่แล้วจึงโกรธมิลง
"อย่าแอบหนีผู้ติดตามไปอีกนะ ข้าเกรงว่าเจ้าจะถูกผู้อื่นรังแก เจ้าอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่าลืมข้อนี้” ไท่เฟยเอ่ยเตือนสติ เพราะรู้ว่าซีซีนั้นดื้อซนมิน้อย
"เพคะ พระสนมต่อไปจะมิทำเช่นนี้อีก" ซีซีรับคำ
"พาแม่นางซีซีไปพักเถอะ" ไท่เฟยออกคำสั่งสาวใช้
"หม่อมฉันทูลลาเพคะ"นางเอ่ยพร้อมกับคำนับ ไท่เฟย มองตามซีซีด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู แม้จะยังไม่รู้ที่มาแน่ชัด แต่ทุกคนในจวนต่างก็เคารพเช่นนายผู้หนึ่ง
พอเดินกลับมาถึงห้องพัก ใจดวงน้อยก็อดคิดถึงเมื่อคราที่นั่งม้ากับอ๋องหนุ่มมิได้ พลันหัวใจก็เต้นแรงจนคิดไปไกล กลัวว่าตัวเองจะป่วยขึ้นมาเพราะมันดูผิดปกติมาก
“ทำไมเต้นแรงแบบนี้นะ แล้วก็เป็นตอนที่อยู่กับอ๋องฉินเหยียนเสียด้วย กับคนอื่นเราก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย” ซีซีคิดถึงเรื่องราวระหว่างตนกับอ๋องหนุ่มไปเรื่อย จนทำให้หลับไปไม่รู้ตัว