ตอนที่ 4 ขิงก็ราข่าก็แรง ep.4
“เดี๋ยวสิคะทฤษฎ์..”
ปาลินรีบก้าวมาหยุดตรงหน้าของทฤษฎ์ธาดาเมื่อเขาลุกขึ้น
“ไม่คิดจะมองหน้าปาบ้างหรือคะ..”
หล่อนก้าวเข้าไปใกล้เขาอีกนิด ก่อนจะสอดแขนไปกอดรอบเอวแล้วซบหน้าไปหาแผ่นอกกว้างของเขา แต่ทฤษฎ์ธาดารีบผลักร่างของหล่อนออกห่างอย่างรวดเร็ว
“ทฤษฎ์คะ!..”
เขาทำท่าเหมือนจะก้าวหนี แต่หล่อนรีบสอดแขนไปกอดทางด้านหลังของเขาไว้แน่น
“อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ ปาเจ็บมามากแล้ว ปาคิดถึงคุณ ปารักคุณ กลับมาอยู่บ้านเถอะนะคะ อย่างน้อยก็มองหน้าปาบ้าง พูดคุยกับปาบ้างก็ยังดี อย่าทำหมางเมินแบบนี้เลยนะคะ ปาเจ็บ..”
เขาแกะมือของหล่อนออกแล้วก้าวห่างออกมาก่อนจะหันกลับไปมองหน้าที่สวยหวานของหล่อน ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกตัวเองว่ารักหล่อนมาก และคงไม่สามารถจะรักใครได้อีก
“รู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณพูดอยู่กับใคร..”
“ทฤษฎ์!..”
“กลับไปหาสามีของคุณจะดีกว่า แล้วควรจะซื่อสัตย์กับเขาให้มาก ในเมื่อคุณเลือกเขาแล้วก็ควรจะหยุดอยู่ที่เขา..”
“ทฤษฎ์!..”
หล่อนมองหน้าเขาด้วยหัวใจที่เจ็บลึก
“อย่ามาบอกรักใครต่อใครแบบหน้าด้าน ๆ อีก หัวใจของคุณควรจะหยุดอยู่กับคนที่คุณเลือก อย่าคิดจุนเจือมาให้ใคร เพราะผมมั่นใจว่า คงไม่มีใครเห็นความสำคัญของความรักของคุณ โดยเฉพาะผม..”
“ทฤษฎ์..”
ปาลินรีบก้าวไปขวางหน้าเขาไว้เมื่อเขาเตรียมจะเดินหนี
“ปามีเหตุผลของปานะคะ เห็นใจปาหน่อยเถอะนะ ปาไม่ได้หลอกคุณ ปารักคุณจริง ๆ คนที่ปารักคือคุณคนเดียวเท่านั้น อย่าไปไหนอีกเลยนะคะ ให้ปามีโอกาสได้เห็นหน้าคุณบ้าง ให้ปาได้ดูแลคุณบ้างเถอะนะ..”
“เพื่ออะไร..”
เขาขบกรามแน่น
“คุณไม่เคยถามความรู้สึกของผม ว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับคุณ ผมจะบอกให้ก็ได้..”
เขายิ้มน้อย ๆ เมื่อกวาดสายตามองเครื่องหน้าที่งดงามของหล่อนก่อนจะมองลามเลียไปตลอดร่างด้วยสายตาที่ทำให้หล่อนรู้สึกอับอายเหลือทน
“ผมไม่เคยเก็บคุณไว้ในใจเลย และไม่เคยหลงเหลือความรู้สึกพิศวาสแม้แต่น้อย ตรงข้าม ผมกลับรู้สึกชิงชังและขยะแขยงคุณที่สุด ..”
เขาหัวเราะเบา ๆ
“ผมยังอดที่จะถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งเสียไม่ได้ ว่า คุณมีอะไรที่น่าจดจำ มีอะไรที่น่าระลึกถึง อย่าลำพองตัวไปนักเลย ผมไม่เคยคิดเสียดายคุณ รู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำที่ทำให้ผมเป็นอิสระ ไม่ต้องฝืนทนกับผู้หญิงที่อิ่มไม่เป็นอย่างคุณ ไม่ได้คว้าคุณมาอยู่เคียงข้าง..”
เขายิ้มกว้าง
“ขอบคุณมากที่ทอดทิ้งผมไป..”
เขามองหน้าหล่อนนิ่งก่อนจะเดินออกไปจากบ้านแทนการกลับขึ้นไปด้านบน ปาลินก้าวตามมาที่หน้าประตู มองเห็นเขาก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยหัวใจที่เจ็บลึก
“คุณทฤษฎ์..”
หล่อนเผลอเรียกเชื่อเขาออกมาเมื่อมองตามรถคันนั้นที่แล่นฝ่าความมืดออกไป
“เมื่อคืนนี้ทฤษฎ์มาใช่ไหม..”
นายศักดาชายวัยเกือบหกสิบที่ยังดูหล่อเหลาและหนุ่ม เอ่ยถามหล่อนในตอนเช้า เมื่อเขาลงมาที่ห้องอาหาร
“ค่ะ..”
“ทำไมไม่ค้าง เขามาธุระอะไร ได้คุยกับเขาหรือเปล่า..”
หล่อนนิ่ง
“คุณปา..”
นายศักดา ชายวัยหกสิบ ร้องเรียกหล่อนด้วยกระแสเสียงทุ้มที่นุ่มละมุน ทำให้หล่อนเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มออกมา
“คุณอยู่ในฐานะแม่ของเขานะครับ อย่าลืมเสียล่ะ..”
“ค่ะ..”
“หน้าที่ของแม่คือดูแลสารทุกข์ของลูก เขาดูดีหรือเปล่า อ้วนหรือผอม ผมเหมือนจะจำหน้าเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาหายไปนานมาก..”
นายศักดาเอ่ยออกมาเบา ๆ ด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง
“ผมทำผิดกับเขาไว้มาก เขาคงเกลียดผมไปจนตาย ถึงไม่ยอมมาพบผมเลย..”
“อย่าคิดมากสิคะคุณพี่ คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ..”
เขามองหน้าหล่อน
“บริษัทของคุณเป็นอย่างไรบ้าง แล้วคุณพ่อของคุณล่ะครับ เขาพอจะเดินได้หรือยัง..”
ปาลินยิ้มน้อย ๆ เมื่อรินน้ำชาลงแก้วให้เขาแล้วนั่งลงตรงข้าม
“เพราะคุณพี่ ทำให้บริษัทของปายังอยู่รอด ทั้งที่เกือบล่มมาแล้ว พระคุณของพี่..”
“เพราะคุณเหมือนกันที่ทำให้ผมมีชีวิตที่ดี มีความสุขมากขึ้น หลังจากที่ผมต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาสามสิบปี หลังจากแม่ของทฤษฎ์คลอดเขาแล้วจากผมไป..”
เขามองหน้าหล่อนนิ่งก่อนจะยื่นมือใหญ่มารวบมือบางของหล่อน
“ต้องการอะไรก็บอกผม ไม่ต้องเกรงใจ หากเงินไม่พอก็บอกผม ผมพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณมีความสุขแล้วอยู่กับผมนาน ๆ..”
“เท่าที่คุณพี่ให้ก็มากเกินพอแล้วล่ะค่ะ ที่บริษัทตอนนี้ก็ให้ญารินดาดูแลอยู่ค่ะ เธอเรียนจบด้านบริหารมาจากอังกฤษ ตอนนี้ยังได้เป็นนักแสดงนำที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ปาไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วล่ะค่ะ..”
“แล้วคุณพ่อของคุณล่ะครับ..”
“ท่านมีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ คุณหมอบอกว่าท่านมีโอกาสกลับมาเดินได้ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ..”
“จริงหรือ..”
เขาหัวเราะเบา ๆ
“ดีใจด้วยนะครับ..”
นายศักดายิ้มกว้างเมื่อมองลึกเข้าไปในดวงตางามของปาลิน ผู้หญิงที่คอยดูแลไม่ห่าง ความอ่อนโยนของหล่อนทำให้เขาอดนึกถึงภรรยาที่จากไปเสียไม่ได้