ตอนที่ 5 ขิงก็ราข่าก็แรง ep.5
หล่อนมีอะไรเหมือนกันมาก มากจนเขามองเห็นปาลินเป็นภรรยาของเขาจึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะขอให้หล่อนมาอยู่เคียงข้าง
แม้ต้องขมขื่นที่สำเหนียกชัดว่า แท้จริงแล้วปาลินคือผู้หญิงที่ทฤษฎ์ธาดาคิดจะแต่งงานด้วย แต่มันก็แก้ไขไม่ได้เสียแล้วเมื่อเขาบอกตัวเองว่า หลงรักผู้หญิงรุ่นลูกคนนี้จนหมดหัวใจ
“พ่อขา รินเองค่ะ..”
ญารินดา หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปี ที่โด่งดังมาจากการเป็นนักแสดงละครเรื่องหนึ่งทำให้เธอมีชื่อเสียงเรื่อยมา เธอเข้ามาในห้องพักของนายโชติวัฒน์ ชายวัยเกือบหกสิบปี ที่นอนอยู่บนเตียงแบบพิเศษที่สามารถปรับระดับ ได้สามช่วง ซึ่งจะเป็นการประคองให้เขานอนนั่งได้โดยไม่ต้องมีใครพยุง
“พ่อขา..”
เธอรวบมือใหญ่ของพ่อเอาไว้แล้วยิ้มหวานเมื่อกวาดสายตามองหน้าของพ่อ
“วันนี้พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ ดีขึ้นไหมคะ คุณพยาบาลบอกว่า คุณพ่อทานได้เยอะขึ้นแล้วระบบขับถ่ายก็ทำงานได้ดี คุณพ่อกำลังจะหายเป็นปกตินะคะ..”
นายโชติวัฒพยายามจะยิ้ม เมื่อมองหน้าเธอ เขาอยากจะพูดแต่เพราะเส้นเลือดตีบ ลามมาถึงเส้นเสียงที่ไม่สามารถพูดได้ แต่เขาได้ยินและรับรู้ อีกทั้งร่างกายด้านขวาไม่สามารถจะขยับเขยื้อนได้ มีเพียงมือข้างซ้ายที่พยายามจะยกมาจับเธอแต่ก็ยังอ่อนแรง
“พ่ออดทนหน่อยนะคะ อีกไม่นานพ่อจะเดินได้ แล้วหายเป็นปกติ ส่วนที่บริษัทก็ไม่ต้องห่วงนะคะ พี่ปากับรินเราช่วยกันบริหารค่ะพ่อ..”
เธอหอมแก้มพ่อเบา ๆ
“รินไปทำงานก่อนนะคะพ่อ..”
เธอมองหน้าพ่อนิ่งก่อนจะเดินออกไป
“คุณพ่อมีโอกาสหายเป็นปกติกี่เปอร์เซ็นต์คะหมอ..”
ญารินดาเอ่ยถามหมอเมื่อออกมาด้านนอก
“เกินครึ่งครับ ตอนนี้ก็พยายามทำกายภาพบำบัด แล้วให้ยาที่ดี แต่ยาตัวนี้แพงมากสักหน่อยเพราะคุณภาพดีครับ.”
“เท่าไหร่ก็เท่ากันค่ะ ขอแค่รักษาคุณพ่อให้หายเท่านั้น..”
“ผมจะพยายามเต็มที่ครับ..”
“ฝากด้วยนะคะ..”
เธอมองหน้าหมอกับพยาบาลแล้วก็รีบไปทำงาน เพราะเธอจำเป็นต้องใช้เงินอย่างมาก ทั้งในการฟื้นฟูบริษัท และยังค่ารักษาพ่ออีก จะหวังพึ่งพาอาศัยเงินที่ปาลินนำมามอบให้อย่างเดียวก็ไม่ได้ เธอต้องช่วยอีกแรง
ญารินดาเตรียมตัวเข้าฉากที่ต้องถ่ายต่อหลังจากมีอะไรกับพระเอกแล้ว แต่ว่าทั้งเธอและทีมงานนั่งรออยู่กว่าสองชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววของพระเอก ทำให้เธอเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น
“มีใครโทรตามเขาหรือยังคะ..รินต้องเข้าประชุมที่บริษัทตอนบ่ายโมงนะคะ นี่ก็เหลืออีกแค่สามชั่วโมง เขาจะมาหรือเปล่า..”
เธอหันไปถามเจนจิราผู้จัดการส่วนตัวของเธอด้วยอารมณ์ที่เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
“คุณสร้อยสุดาเธอโทรตามแล้วค่ะ แต่ไม่มีคนรับสาย”
“บ้าที่สุด ไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย..”
ญารินดาลุกขึ้นเดินวนไปวนมาหมายจะฆ่าเวลา เธอตั้งใจว่าจะรออีกแค่สิบนาที หากเขาไม่มาเธอจะไปทันที และเมื่อครบสิบนาทีเธอก็เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่รถสปอร์ตหรูนำเข้าสีน้ำตาลแดงราคากว่าสิบล้าน ก็แล่นปราดเข้ามายังกองถ่าย
“เขามาแล้วค่ะคุณริน..”
เจนจิรารีบร้องบอกเธอเมื่อมองเห็นทฤษฎ์ธาดาเดินเข้ามา แต่ญารินดากลับหันไปคว้ากระเป๋าพร้อมลูกกุญแจรถ
“หายหัวไปไหนมาวะ เสียเวลานะ ไม่เคยเป็นแบบนี้สักทีมันเกิดอะไรขึ้นวะ..”
“ถ้าเฮียยังถามผมอยู่แบบนี้จะยิ่งเสียเวลานะครับ..”
เขาพูดพร้อมกับถอดเสื้อออกแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวพันเอวก่อนจะถอดกางเกงออกแล้วเอนร่างลงนอนที่เตียงกว้าง
“ผมพร้อมแล้วครับ..”
เขาร้องบอก แต่ญารินดากลับเดินไปที่รถขับรถออกจากที่นั่นไปอย่างรวดเร็ว
“มันอะไรกันนักหนาวะนี่..”
ชัยชนะตะโกนก้องอย่างหัวเสีย
“คุณรินมีประชุมที่บริษัทตอนบ่ายค่ะผู้กำกับ แล้วเธอก็รอมาเกือบสามชั่วโมงแล้ว..”
เจนจิราร้องบอก ทำให้ทุกคนนิ่งยกเว้นเพียงทฤษฎ์ธาดาที่เขาก้าวลงจากเตียงสวมใส่เสื้อผ้าอย่างเดิม
“จะถ่ายฉากต่อไปเลยหรือเปล่าครับ..”
“นางเอกของฉากนี้ กลับไปแล้ว เพราะคิวของเขามีถ่ายต่อที่อื่น ส่วนญารินดาตัวเดินเรื่องก็ไม่อยู่แล้ว นายลืมอะไรไปหรือเปล่าวะทฤษฎ์ ฉากนี้ นางเอกจะต้องเข้ามาเห็นว่านายนอนอยู่กับญารินดา แล้วถึงจะถ่ายฉากต่อไปได้ เมื่อนายช้า คนอื่นเขาก็เสียเวลาไป หมด นางเอกก็มีคิวถ่ายต่ออีกเรื่องตอนบ่ายโมง เขาจะเสียเวลารอนายทำไมวะ..”
“ผมผิดครับ ผมยอมรับ..”
“มีปัญหาอะไรวะ รับผิดชอบหน่อยสิ งานก็ส่วนงาน นายไม่เคยเป็นแบบนี้นี่หว่า มีอะไร..”
เขาระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ขอโทษครับ ผมรอลุ้นราคาหุ้นตอนตลาดปิด..”