บทที่ 2 ประชดรัก (1)
ตอนที่ 2
ประชดรัก
วาโยลงจากรถมองเข้าไปในบ้านแล้วถอนหายใจ นับตั้งแต่วันที่รุ่งนภาอดีตคนรักเข้ามาอยู่ในฐานะแม่เลี้ยง บ้านหลังนี้ก็เหมือนนรกสำหรับเขา รักใครไหนจะเจ็บช้ำเท่ากับคนรักเปลี่ยนใจไปรักกับพ่อของตัวเอง แม้เมื่อรู้ตัวว่าความรู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้ว รุ่งนภาจะมาตัดสัมพันธ์กับตนแล้วจึงไปสานต่อกับคนเป็นพ่อ มันไม่ผิดแต่มันเจ็บเกินบรรยาย แม้จะผ่านมาสองเดือนแล้วก็ยังทำใจไม่ได้เลย
“จะกลับเช้าทำไมไม่โทรมาบอกพ่อบ้าง” เสียงเข้มที่ทักขึ้น ทำให้วาโยที่กำลังจะเดินขึ้นห้องหยุดชะงัก แล้วตอบกลับโดยที่ตายังคงก้มมองพื้น “เมาน่ะครับเลยค้างที่บ้านเพื่อน”
“กินข้าวมาหรือยังคะ ถ้ายังรุ่งจะบอกแม่บ้านตั้งโต๊ะให้” รุ่งนภาทำใจกล้าลุกขึ้นมาถามอย่างพยายามจะผูกมิตร แต่ก็ต้องชะงักเมื่อชายหนุ่มหันมาถลึงตาใส่
“ไม่ต้อง!” ปฏิเสธเสียงเข้ม กัดกรามแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยากเย็น และไม่สามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้นานกว่านี้อีก “ผมง่วงจะไปนอนล่ะ” บอกก่อนจะเดินผละออกไป แต่คนเป็นพ่อก็เรียกเอาไว้เสียก่อน “เดี๋ยวสิ เมื่อไหร่แกจะเลิกทำมึนตึงกับรุ่งเขาเสียที ไม่นานก็จะถึงวันงานแล้วนะ” นายวรโชติเงียบหวังให้ลูกชายพูดโต้ตอบอะไรกลับมาบ้าง แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาอะไรจึงพูดต่อ ด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนระคนขอร้อง “ยังไงวันนั้นพ่อขอได้ไหม ช่วยยินดีกับพ่อในฐานะลูกชายหน่อยได้ไหม”
วาโยนิ่งไปก่อนจะหันมายิ้มฝืน ๆ ให้คนเป็นพ่อ “ผมขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” เขาไม่ตอบคำถามของท่านแต่เลือกจะคุยไปเรื่องอื่นที่เขาเองก็เหมือนจะลืมไปชั่วขณะ แล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นห้องไป ปล่อยให้คนเป็นพ่อมองตามหลังแล้วถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้
“เราต้องให้เวลาเขาหน่อย” นายวรโชติปลอบคนเป็นภรรยาที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าซึม “รุ่งไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณตั้งแต่แรก” หญิงสาวบอกอย่างรู้สึกผิด ทั้งที่หลายคนรอบตัวรวมถึงนายวรโชติบอกว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไร คบซ้อนสิถึงจะเรียกว่าผิด แต่นี่พอรู้ตัวเธอก็รีบเคลียร์ทุกอย่างให้จบ แม้รู้ว่าทำไปวาโยจะเจ็บหนัก แต่เธอก็จำเป็นต้องทำ
เรื่องความรู้สึกห้ามกันไม่ได้ ถ้าห้ามและบังคับมันได้เธอคงห้ามไม่ให้ตัวเองตกหลุมรักหนุ่มใหญ่อย่างวรโชติ และใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันกับวาโยอย่างราบรื่นไปแล้ว
“เด็กโง่ อย่าพูดอย่างนั้นอีก ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหน ถึงเราไม่ได้เจอกันที่นี่ แต่อาจจะเจอกันที่ไหนสักแห่ง”
“แต่เราอาจจะไม่ได้เจอกันในสถานการณ์ที่มันเลวร้ายขนาดนี้”
“ถ้าคนเรากำหนดกฎเกณฑ์ทุกอย่างได้ดั่งใจ ความผิดหวังเสียใจคงไม่มีในโลกใบนี้หรอก ทำใจให้สบายเถอะ ไม่ได้ตัวคนเดียวนะ คุณแม่เครียดคุณลูกในท้องก็จะเครียดไปด้วยนะ” นายวรโชติลูบหน้าท้องที่แบนราบของแฟนสาวด้วยความรู้สึกอิ่มเอม ไม่คิดว่าอายุจนป่านนี้แล้วจะสามารถมีลูกได้อีก
“ค่ะ” รุ่งนภาเอนตัวซบลงที่อกกว้าง ด้วยสีหน้าที่ยังไม่ได้คลายกังวล แม้ที่ผ่านเธอจะพยายามทำดีทุกอย่างแต่เหมือนมันจะไม่ได้ผลเลย
หลังจากหายขึ้นห้องไปครู่ใหญ่วาทีที่ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปในครัว ให้แม่บ้านทำอาหารร้อน ๆ แก้แฮงค์ให้กินก่อนจะเดินกลับออกมาหาคนเป็นพ่อ ที่นั่งทำท่าปัญญาอ่อนด้วยการพูดคุยและหยอกเอิ้นกับท้องแบนราบของรุ่งนภา ทั้งที่เด็กในท้องเพิ่งจะอายุแค่เดือนเดียวเท่านั้นจะไปรู้เรื่องรู้ราวอะไรหรอกมั้ง
“ไงมีเรื่องอะไรจะคุย” นายวรโชติหันมามองลูกชายที่เดินมานั่งลงที่โซฟายิ้ม ๆ
“ผมจะแต่งงานครับ” วาโยเอ่ยเรื่องที่น่ายินดีด้วยสีหน้านิ่งเรียบไร้ความรู้สึก ราวกับมันเป็นเรื่องอะไรสักอย่างที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับชีวิต
“อ๋อ จะแต่งงาน” นายวรโชติที่ยังไม่ได้ละความสนใจจากท้องของภรรยาสาวฟังแล้วก็เออออ ก่อนจะชะงักขมวดคิ้วทบทวนคำพูดของลูกชายก่อนจะหันขวับ “ฮ้า! จะแต่งงาน!” แล้วอุทานเสียงหลง