12. ท่าทีที่เปลี่ยนไป
ซือซือยกมือขึ้นดันไหล่เขาทันที ทว่าแรงเท่ามดไหนเลยจะทำให้คนโตกว่าสะเทือน มีแต่แม่ทัพหนุ่มจะเบียดตัวเข้าหามากกว่า พร้อมกับจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างรวบตึงไว้บนหัว ทำให้นางไม้สามารถขัดขืนเขาได้
“อย่าได้หวัง ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าเดินทางลำพังเป็นแน่ หากเจ้าดื้อดึงข้าจะทำมากกว่าวันนี้” เอ่ยจบใบหน้าคมคายที่อยู่ใกล้แค่คืบก็ชุกลงที่ซอกคอขาว
เขาดูดเม้มสร้างรอยจนขึ้นสีแดงเรื่อ ทำเอาผู้ที่อยู่ใต้ร่างถึงกับตัวแข็งทื่อ ไม่คิดว่าแม่ทัพที่เลื่องชื่อจะเป็นคนหยาบคายต่อสตรีเพียงนี้ หากประวัติศาสตร์เอ่ยถึงอุปนิสัยเขาบ้าง คงเป็นหนทางให้ซือซือได้ระวังตัวไว้ก่อน ไม่ปล่อยให้คนตัวโตฉวยโอกาสกับตนเช่นนี้เป็นแน่
เฟิงซีเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาสบดวงตาคู่สวย ซึ่งส่งมาตัดพ้อเขาจนสัมผัสได้ ใจแกร่งวูบไหวทันที เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย ทว่าคนปากหนักก็หาได้ขอโทษกับสิ่งที่ตนทำลงไป เขายังคงทำหน้านิ่งเช่นเดิม
“คนใจร้าย ข้าจะไม่พูดกับท่านแล้ว” ต่อว่าเขาก่อนจะหันหน้าหนี ทำเอาผู้ที่อยู่บนตัวถึงกับไปไม่เป็น เพราะขอบตาสวยมีน้ำใสไหลลงมาด้วย
นิ้วเรียวของแม่ทัพหนุ่มยกขึ้นเกลี่ยออกเบา ๆ ก่อนจะก้มลงจูบซับอย่างลืมตัว ทำเอาสตรีที่ไม่เคยต้องมือชายมาก่อนถึงกับนิ่งงันไปอีกรอบ ไม่คิดว่าคนตัวโตจะทำเรื่องเช่นนี้กับสตรีที่พึ่งพบกัน ‘หรือเขาทำเช่นนี้เสมอ’ นึกคิดถึงการกระทำของอีกฝ่ายซึ่งดูอ่อนโยนยิ่งนัก
“ต่อไปก็อย่าดื้ออีก เจ้ากลับมาอยู่ในยุคเดิมแล้ว จะทำตัวเช่นยุคที่จากมาไม่ได้ ควรเว้นระยะห่างกับบุรุษทุกคน เข้าใจหรือไม่” ออกคำสั่งเสียงกดต่ำ ครานี้คนใต้ร่างหันขวับกลับมาหาเขาทันที
“แล้วท่านไม่ใช่บุรุษหรือ เหตุใดยามนี้จึงมาอยู่บนตัวข้า ทั้งที่ข้าไม่ได้เอาตัวเข้าใกล้ท่านเลย ตั้งแต่กลับมายุคนี้ ก็มีแค่ท่านแม่ทัพผู้สูงส่งนี่แหละ ที่ใกล้ชิดข้ามากที่สุด เช่นนี้แล้วข้าก็ควรจะออกห่างท่านด้วยใช่หรือไม่” ย้อนคำของเขา พร้อมกับจ้องนัยน์ตาคมไม่หลบหนี
“ข้าคือข้อยกเว้น” เอ่ยออกมาหน้าตาย ก่อนจะขยับลุกขึ้นมานั่ง พร้อมกับรั้งเอาร่างเล็กตามมาด้วย
“ชิ คนบ้าอำนาจ” ยังไม่วายปากดีใส่ พร้อมกับเหลือบตามองเขาที่เอาแต่จ้องลำคอของนาง ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก ทำเอาคนตัวเล็กต้องรีบยกมือปิดไว้ทันที
“ต่อไปถ้าเจ้าดื้อไม่เชื่อฟัง ข้าก็จะฝากรอยไว้ทุกวัน” บอกสิ่งที่เขาคิดจะทำหากนางขัดคำสั่ง
“ข้าไม่ใช่คนของท่าน ท่านไม่มีสิทธิ์จะบังคับข้า” แหวใส่คนตัวโตโดยไม่กลัวเกรงเขาเลยสักนิด ใบหน้าคมคายจึงเผยยิ้มชอบใจเป็นคราแรก เขาไม่เคยเจอสตรีเช่นนี้มาก่อน ขนาดอยู่ต่อหน้าเขายังโต้เถียงไม่หยุดหย่อน
ก็อก! ก็อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะเปิดออก พร้อมกับคนงานที่ยกเอาอาหารเข้ามา มีลู่ถงเดินตามเข้ามาด้วย เป็นเช่นนี้เสมอยามผู้เป็นนายทานอาหาร
“คนอื่น ๆ ล่ะ” หันมาเอ่ยถามคนของตน
“กำลังกินข้าวอยู่ข้างล่างขอรับ” ลู่ถงตอบก่อนจะยืนรอผู้เป็นนาย ซึ่งยามนี้หันกลับไปหาสตรีตัวน้อยแล้ว เฟิงซีช้อนอุ้มเอาคนตัวเล็กขึ้น ทั้งที่นางเขย่งเดินมาเองก็ได้
คนสนิทยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทีเอาใจใส่ของท่านแม่ทัพ ซึ่งมีให้กับสตรีคนแรกตลอดยี่สิบปีมานี้ เพราะเขาอยู่กับเฟิงซีมาตั้งแต่ผู้เป็นนายสิบขวบ ยามนี้ก็อายุสามสิบแล้ว ยังไม่มีฮูหยินหรืออนุเลยสักคน เพราะเอาแต่ทำสงคราม จนมารดาเขาเป็นกังวลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ทว่ายามนี้ท่านแม่ทัพกลับใส่ใจสตรีที่มีชาติกำเนิดต่างจากคนทั่วไป เติบโตในต่างยุค และไม่รู้ว่าเป็นบุตรสาวสกุลใดในแคว้นนี้กันแน่ เขาก็ได้แต่หวังว่านางจะเป็นผู้ที่ทำให้ท่านแม่ทัพยอมเปิดใจเสียที
ซือซือได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้คนตัวโตทำตามใจ ขนาดนางก่นด่าต่อว่าไปหลายหนแล้ว เขาก็ยังทำเช่นเดิมคือทำในสิ่งที่เขาอยากทำ จนกระทั่งผ่านมาอีกสามวัน
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วใช่หรือไม่” เฟิงซียืนมองคนของตนที่กำลังตรวจตราอาวุธ รวมถึงม้าที่ต้องใช้ในการเดินทางไปยังเมืองตู ตามกำหนดเขาควรจะถึงนานแล้ว ทว่าดันมาเกิดเรื่องถูกลอบสังหารเสียก่อน และยังต้องรอคนสนิทที่แยกไปสืบข่าวเกี่ยวกับกลุ่มโจร ซึ่งยามนี้รู้แล้วว่าพวกมันหนีไปต่างแคว้นทางทิศตะวันออก
“ขอรับ เราสามารถออกเดินทางได้เลย” อินสือรายงาน ผู้เป็นนายจึงพยักหน้า ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน ซึ่งมีซือซือนั่งอยู่ พร้อมกับตรวจดูอาวุธปืนและกระสุน
“เราจะไปกันแล้ว” บอกเพียงเท่านั้น ทว่าเขาก็ไม่ได้เร่งรัดอันใดนาง ปล่อยให้เก็บอุปกรณ์ใส่ย่ามจนเสร็จ แล้วรั้งเอามาถือไว้เองทำราวกับตนเป็นเจ้าของ ก่อนจะหันมาจูงเอาแขนเล็กให้เดินตามไปยังม้าที่รออยู่
“ม้าข้าล่ะ” ถามเขาทันทีเมื่อไม่เห็นม้าที่ตนขี่มา
“ขาเจ้ายังเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือ บังคับม้าไม่สะดวกหรอก ไปกับข้านี่แหละ” เอ่ยพร้อมกับยกร่างเล็กขึ้นไปนั่งรอด้านบน โดยไม่ฟังคำทักท้วงของนางเลย
“เอาแต่ใจเป็นที่สุด” ตำหนิเขาเสียงดังพอให้เหล่าผู้ติดตามได้ยิน ทำเอาแต่ละคนต่างก็หน้าตื่น เพราะเกรงว่าสตรีเพียงหนึ่งเดียวจะถูกลงโทษ ทว่า! ทุกอย่างกลับยังคงเป็นปกติ ผู้เป็นนายเหยียบโกลนขึ้นไปนั่งซ้อนหลังนางหน้าตาเรียบเฉย ไม่มีวี่แววว่าจะเอ่ยอันใดสักนิด
“ออกเดินทางได้” สั่งแล้วก็บังคับม้าให้ตรงไปยังเส้นทางเข้าเมือง ซึ่งต้องใช้เวลาครึ่งวัน
จนกระทั่งยามเซิน [15:00-16:59] คณะเดินทางที่มีกันอยู่สิบคนก็มาถึงเมืองเปี้ยน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองตูอีกวันครึ่ง พวกเขาเข้าพักกันที่โรงเตี๊ยม และแน่นอนว่าซือซือยังต้องนอนห้องเดียวกับแม่ทัพหนุ่ม ทั้งที่ควรจะแยกอยู่ลำพัง ตามความเหมาะสมระหว่างบุรุษและสตรี
“ดูท่าท่านแม่ทัพคงไม่ได้คิดจะสืบเอาความเรื่องของแม่นางซือซือเพียงอย่างเดียวแล้วกระมัง” อินสือเอ่ยกับสหาย ในขณะที่มองผู้เป็นนายพาสตรีตัวน้อยเข้าห้อง ก่อนนั้นยังกำชับให้เขาไปหาชุดมาให้นางเปลี่ยนด้วย
“ข้าว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีนะ” ลู่ถงเอ่ยก่อนจะเผยยิ้ม
“ก็จริงเช่นที่เจ้าว่า” อินสือเห็นดีด้วย ก่อนจะออกไปทำธุระตามที่ผู้เป็นนายสั่ง
ด้านเฟิงซี ยามนี้เขากำลังมองคนตัวเล็กหามุมนอนสำหรับคืนนี้ และดูเหมือนจะไม่ได้มุมที่ดีเลย
“ไยเจ้าต้องลำบากถึงเพียงนั้น ทั้งที่ตื่นมาเจ้าก็อยู่บนเตียงทุกเช้า เหตุใดไม่นอนบนเตียงให้มันจบ ๆ ไป”
ใบหน้างามหันกลับมาหาเขาพร้อมกับกดสายตา ก่อนจะมองค้อนเขาไปหนึ่งที ซึ่งนางก็ทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำ เฟิงซียกยิ้มก่อนจะนั่งลงมองคนตัวเล็ก ดูท่านางคงไม่รู้เลยว่าตลอดสามคืนมานี้เป็นเขาที่อุ้มนางไปนอนด้วย เพราะมันทำให้ตนหลับสนิทต่างจากนอนผู้เดียวมาก
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป อินสือก็มาเคาะประตู ก่อนจะเข้าห้องมาพร้อมกับห่อผ้า เขานำมันมาวางลงที่โต๊ะหน้าผู้เป็นนาย ซึ่งเอาแต่มองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์ได้แล้ว แล้วก็ทิ้งไปเสียชุดนี้ เหม็นสาบจริงเชียว” ออกคำสั่งพร้อมกับตำหนิไปด้วย แม้เขาจะเอ่ยเช่นนี้ ทว่าทุกคืนก็ยังอุ้มเอานางไปนอนด้วย ตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวเป็นอย่างมาก
ซือซือทำตามอย่างว่าง่าย เดินมาหยิบเอาห่อผ้าไปกอดไว้ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังมุมห้อง ซึ่งมีเพียงฉากกั้นไว้เท่านั้น ทว่านางก็เริ่มคุ้นชินกับการมีแม่ทัพหนุ่มอยู่ร่วมห้องยามอาบน้ำแล้ว อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง ไม่เคยเข้าใกล้ยามนางทำธุระส่วนตัวเช่นนี้
“ออกไปสิ จะยืนอยู่ทำไม” ต่อว่าคนของตนที่ยังยืนอยู่ภายในห้องไม่ยอมออกไปจนกระทั่งเขาสั่ง
#ตรงไหนผิดวานแนะนำไรท์ด้วยนะคะ ไรท์จบแค่ ป.5 สมัยเรียนเมื่อ 30กว่าปีที่แล้ว ระดับชั้น ป. 5 ยังเอาแต่ถอนผมหงอก ปลูกผัก แลกเกรด ไม่ค่อยได้เรียนอะไรเต็มที่นัก ศัพท์บางคำ ความหมายบางประโยคไรท์ไม่รู้ไม่เข้าใจจริง ๆ อย่างคำนี้ในความคิดไรท์ คือเราเขียนถูกแล้วด้วยซ้ำ พอมีคนติเข้ามาก็งงสิคราวนี้ แต่แก้ไขทั้งในเมบและในแอพรายตอนแล้วนะคะ
ตรงไหนผิดพลาด วานคุณรี้ดที่น่ารักติเตียนเข้ามานะ เรื่องหน้าจะได้ปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องค่ะ
ขอบพระคุณที่ซับพอร์ตกันนะคะ