หวงก้าง | EP.4 ไม่ชอบแน่นะ
หญิงสาวอาบน้ำทันทีที่กลับถึงบ้าน ตั้งแต่ออกจากร้านอาหารจนถึงบ้าน กระทั่งตอนนี้เธอยังไม่หยุดนึกถึงสายตาของเฟรดริก ร่างอรชรยืนให้น้ำไหลรดบนตัวก่อนเงยหน้าให้น้ำตกกระทบใบหน้าราวกับต้องการให้นำชำระล้างความคิดถึงเฟรดริกออกไปเพราะมันช่างกวนใจเธอเหลือเกิน
“ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย!” พูดต่อว่าชายหนุ่มซ้ำๆ เป็นครั้งที่ร้อย หัวใจที่สงบลงตลอด 6 ปี ตอนนี้มันกลับมาว้าวุ่นใจอีกครั้งเพราะเฟรดริกคนเดียว
“กลับมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลยเนี่ย!”
เกรซบ่นอุบอิบกับตนเอง ในขณะที่อีกคนกำลังเดินผ่านสวนดอกไม้ของคุณแม่เข้ามาทางลัดซุ้มกุหลาบเลื้อยที่ถูกดัดรูปตัวยูเป็นประตูให้เดินผ่านเพื่อไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน
สายตาคมปรายมองรอบๆ ที่มีแต่แปลงดอกไม้เต็มไปหมดโดยเฉพาะดอกกุหลาบที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน ยังคงกลิ่นอายเดิมตั้งแต่ตอนเด็กจนถึงตอนนี้
สาเหตุหนึ่งที่เขาชอบมาหาเกรซเพราะเขาชอบกลิ่นหอมของบ้านเธอ แค่คิดว่าจะมีคนอื่นมาได้กลิ่นพวกนี้เขาก็หวงแล้ว เฟรดริกโยนก้นบุหรี่ลงถังขยะที่วางหลบมุมอยู่บริเวณหน้าบ้านเพื่อสูดดมเอาความหอมอันคุ้นเคยที่ห่างหายไปนานหลายปี
มือหนามองสำรวจประตูบ้านที่เหมือนจะไม่ได้ล็อกแล้วมันก็ใช่อย่างที่คิดจริงๆ เมื่อเขาลองเปิดประตูออกมา
“ไม่ชอบล็อกบ้านเหมือนเดิม”
ชายหนุ่มถอนหายใจแรงพลางถือวิสาสะเดินสำรวจภายในบ้านที่เหมือนจะรีโนเวทและจัดระเบียบใหม่ แต่มีบางอย่างที่ยังตั้งอยู่ที่เดิมคือตู้หนังสือในห้องนั่งเล่น
บ้านขนาดกลางชั้นเดียวที่มีห้องนั่งเล่นเชื่อมกับห้องครัวโดยมีแค่ฉากกั้นไว้ ห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำหนึ่งห้องเพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่อยู่ด้วยกันเพียง 3 คนพ่อแม่ลูก
แต่ปัจจุบันนี้มีเพียงหญิงสาวแค่คนเดียวเพราะพ่อกับแม่ของเธอเสียไปตั้งแต่ 8 ปีก่อน
“ฮึก!... เฟร็ด”
หัวใจแทบร่วงลงพื้นด้วยความตกใจเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วเจอชายหนุ่มคนคุ้นเคยกันยืนเปิดตู้เย็นดื่มน้ำอยู่ในห้องครัว
“มะ... มาได้ไง” ถามด้วยความตกใจ ทำตาโตใส่จนเฟรดริกหลุดยิ้มขำ
“ประตูไม่ได้ล็อก”
หันหน้าไปทางประตูบ้านที่เปิดกว้างไว้เพราะเขาจงใจทำให้เธอเห็นลืมปิดประตู ก่อนหันกลับมามองร่างอรชรที่ยืนตกอกตกใจอยู่ สายตาคมเข้มค่อยๆ สำรวจมองใบหน้าสวยมีเกร็ดน้ำเกาะอยู่ บนหัวมีผ้าสีขาวอีกผืนม้วนผมเอาไว้ ไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนถึงลำคอระหงและเนินอกขาวอวบที่โผล่พ้นผ้าออกมา
เกรซทำให้เขาหายใจไม่ออก ทั้งที่เคยเห็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ทำไมเขาเพิ่งมีอาการแบบนี้ก็ไม่รู้
“อะ เอ่อ... พี่ขอไปแต่งตัวแปบนึงนะ”
รู้ตัวว่าโดยสายตาคมกริบปราดมองก็รีบเอามือผิดหน้าอก ก่อนรีบเข้าไปในห้องนอน ปิดประตูเสียงดังด้วยความเร่งรีบและตกใจจนทำตัวไม่ถูก
เฟรดริกเดินไปปิดประตูแล้วลงกลอนหนาแน่นเหมือนตนเองจะไม่ออกจากบ้านหลังนี้ ก่อนมานั่งรอหญิงสาวบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
มือถือของหญิงสาววางอยู่บนโต๊ะชุดโซฟารวมกับกระเป๋าที่เธอให้ไปทำงาน เสียงโทรศัพท์สั่นครืดพร้อมกับแสงสว่างที่หน้าจอ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงเมื่อเห็นรายชื่อคนส่งข้อความมา ความหงุดหงิดที่หายไปเมื่อเมื่อกี้ก็กลับมาใหม่
ไม่นานหญิงสาวก็ออกมาพบคนที่รออยู่ห้องนั่งเล่นในชุดนอนกางเกงขายาวเสื้อแขนยาวที่มีอยู่ไม่กี่ตัวในตู้เสื้อผ้า เพราะปกติเธอจะสวมเดรสชุดนอนที่เป็นผ้าลื่นและขาสั้นนอน
เฟรดริกยิ้มขำเมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกจากห้องด้วยชุดแบบนั้น เกรซเป็นคนขี้ร้อน เธอต้องใส่ชุดนอนที่สบายและเปิดกว่านอนถึงจะนอนหลับฝันดี ทำไมเขาจะไม่รู้
“เฟร็ดมานานแล้วเหรอ”
เกรซปั้นยิ้มกลบเกลื่อนความเขินในใจ โดนเฟรดริกมองทีไรเธอมักจะประหม่าและใจเต้นแรงทุกทีจนต้องหันหน้าหนี อาการแบบนี้เริ่มเป็นตอนที่เธอรู้ใจตัวเองว่าแอบชอบรุ่นน้องคนนั้นตั้งแต่ 7 ปีก่อน
“ก่อนเกรซอาบน้ำเสร็จไม่นาน ทำไมไม่ล็อกประตูบ้าน”
“ก่อนเข้านอนพี่...” พูดช้าๆ พลางนั่งลงบนโซฟาเหมือนเด็กโดนดุ
“เกรซเป็นผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวมันอันตราย หรือให้ผมอยู่ด้วยเหมือนเมื่อก่อน”
“มะ ไม่ เราโตกันแล้วนะ อีกอย่างก่อนนอนพี่ก็ตรวจเช็คอีกรอบอยู่ดี ว่าแต่เฟร็ดเถอะ กลับไทยมานานแล้วเหรอ”
เกรซหน้าแดงหวืดเมื่อนึกถึงเมื่อก่อนที่เฟรดริกชอบมานอนค้างที่บ้านเป็นประจำ ทั้งที่ย้านตัวเองก็เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแต่ให้เหตุผลว่าเป็นห่วงเธอ
มานอนเฉพาะวันที่มีคนเข้ามาจีบเธอนั่นแหละ!
“กลับเมื่อวาน”
“อื้ม แล้วเป็นยังไงบ้าง”
“ปกติดี มีคนมาจีบเกรซเยอะเยอะหรือเปล่า” ทำท่าพูดแบบไม่ใส่ใจ หยิบจับของบนโต๊ะกลบเกลื่อน
“ก็มีบ้าง นิดหน่อย” ตอบตามความจริง
มือหนาชะงักก่อนเงยหน้ามองคนข้างๆ สายตาดุเหมือนไม่พอใจทำให้อีกคนถึงกับหายใจติดขัด
“อืม เกรซสวยขนาดนี้จะไม่มีคนมาจีบได้ยังไง” เฟรดริกยิ้มเล็กน้อยส่งเสียงในลำคอ
“เฟร็ดก็มีสาวๆ ไม่น้อยเหมือนกันล่ะมั้ง เปลี่ยนไปเยอะเลย” หล่อขึ้นมาก แบดบอยดุดันกระชากใจ ได้แต่เก็บคำพูดประโยคหลังเอาไว้
“เกรซมีแฟนแล้วยังหรือกำลังชอบใครอยู่” หันมองหญิงสาวอย่างต้องการคำตอบจนลืมไปว่าตัวเองออกอาการมากขนาดไหน
“พี่...” ตกใจกับคำถาม เฟรดริกไม่เคยออกปากถาม
“เกรซกับเฮียดินเป็นอะไรกัน” ไม่สนใจแล้วเพราะความอยากรู้มันมีมากกว่า
“เป็นเพื่อนร่วมงานกัน”
“เพื่อนร่วมงานต้องไปกินข้าวกันสองต่อสองเหรอ”
“มีรุ่นน้องไปด้วยแต่สองคนนั้นตามมาไม่ทัน”
“แล้วทำไมไม่ปฏิเสธ”
“เดี๋ยวนะ ทำไมพี่ต้องตอบคำถามเธอเหมือนนักโทษแบบนี้ล่ะ” ฉุกคิดได้ว่าตนเองตอบทุกคำถาม ราวกับโดนสัมภาษณ์หรือกำลังโดนพิพากษาอยู่
“เกรซชอบเฮียดินเหรอ”
“ชอบหรือไม่ชอบแล้วเกี่ยวอะไรกับเฟร็ด” ไม่ยอมง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนหรอก เด็กคนนี้ทำเธอหวั่นไหวกับคำถามพวกนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
“หรือเกรซยังชอบผมอยู่” เห็นท่าทางต่อต้าน ยิ่งทำให้เขาอยากยิงคำถามให้ตรงจุด
“พะ พี่... เคยชอบเฟร็ดด้วยเหรอ”
ดวงตาสวยเบิกกว้างด้วยความตกใจแบบคาดไม่ถึงที่เฟรดริกถามคำถามนี้ออกมา ก่อนที่เธอจะรีบปฏิเสธโดยการถามกลับเหมือนคนไม่รู้ไม่ชี้
“ไม่ชอบแล้วจะเขียนไว้ในสมุดบันทึกเล่มนั้นทำไม” ส่งสายตาไปทางสมุดบันทึกเล่มสีชมพูในตู้หนังสือที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโซฟา
เกรซมองตามไปก็ได้แต่อึ้ง เพราะเธอเคยเขียนไว้จริงๆ และไม่คิดว่าเฟรดริกจะเปิดดู
“ตอบสิเกรซ ไม่ได้ชอบเฮียดินแต่ชอบผมใช่มั้ย”
ยิ้มมุมปากเหมือนพออกพอใจที่เห็นท่าทางเลิ่กลั่กของหญิงสาวก็ยิ่งทำให้เขาได้ใจ ตอนนี้หัวใจเต้นแรงเหมือนคนบ้าที่เห็นท่าทีแบบนั้นของเกรซ
“เฟร็ดแอบอ่านของพี่เหรอ ไม่มีมารยาท!” หันมาทำตาดุกลบเกลื่อน ทั้งที่หัวใจข้างในเต้นแรงเป็นบ้าที่รู้ว่าเฟรดริกรู้ความในใจของเธอมาตลอด
“บังเอิญเห็น ไม่ได้ตั้งใจเปิด” ตอบพลางยิ้มร้ายมุมปาก มองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
เกรซสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ทำใจยอมรับเพราะรู้ว่ากลบเกลื่อนยังไงเฟรดริกก็มองออก
“ก็แค่เคย มันเป็นแค่ความรู้สึกเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งรู้จักความรักน่ะ”
“แล้วตอนนี้ล่ะ เกรซไม่ชอบผมเหรอ”
“เปล่า โตแล้ว เลิกชอบไปนานแล้ว”
“หน้าแดงทำไม”
เฟรดริกพูดปุ๊บเกรซจับแก้มตัวเองปั้บยิ่งแสดงพิรุธให้เห็น
“นี่ ยอมรับว่าเคยชอบ แต่ตอนนี้พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว เฟร็ดสบายใจเถอะ” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินหนี ถ้าฝืนทนมองหน้าเฟรดริกต่อเขาคงจับได้แน่ๆ ว่าเธอโกหก
“เกรซ” ลุกขึ้นยืนตามพลางคว้าแขนเล็กเอาไว้ ทำให้ตอนนี้เกรซอยู่ในอ้อมกอดของเฟรดริกโดยไม่ได้ตั้งใจ
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ ยิ่งมองใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจใกล้ๆ เธอก็ยิ่งหวั่นไหวและใจสั่นบวกกับแววตาของเฟรดริกที่มันแตกต่างออกไปจากเดิมนั่นอีก
“เฟร็ดปล่อยพี่นะ”
“เคยบอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเกรซ เพราะเกรซเป็นของผม”
เอ่ยคำพูดที่เคยพูดประจำตอบเป็นเด็ก แต่ความรู้สึกมันแตกต่างออกไป อย่างที่บอกว่าเมื่อก่อนเขาแค่หวงของเล่น แต่ตอนนี้เขาหวงเกรซแบบที่หนุ่มสาวหวงกันไม่ใช่หวงแบบพี่น้อง
“เราไม่ใช่เด็ก เราโตกันแล้วนะเฟร็ด อีกอย่างเฟร็ดเป็นผู้ชายพี่เป็นผู้หญิง ทำแบบนี้มันไม่... อื้อ!”
ด้วยความรำคาญที่พี่สาวคนสวยคนนี้เอาแต่พูดเรื่องที่เขาไม่อยากฟัง เลยปิดปากเธอด้วยริมฝีปากซะเลย
มือหนาจากที่จับต้นแขนเล็กเลื่อนมาประคองศีรษะไม่ให้หลบหนี จากปากประกบปากเปลี่ยนเป็นจูบดูดดื่มสอดลิ้นร้อนเข้าไปปั่นป่วนในโพรงปากเล็กอย่างเร็ว
แขนอีกข้างที่กอดเอวคอดไว้หลวมๆ กระชับแน่นขึ้นจนแผ่นอกกว้างแนบชิดกับหน้าอกอวบ
ริมฝีปากหยักบดจูบดูดเร้าอย่างดูดดื่มแทบไม่เว้นว่างให้หายใจ คนที่อ่อนประสบการณ์เพราะเพิ่งเคยมีจูบแลกถึงกับเข่าอ่อนแทบยืนไม่อยู่ หัวสมองขาวโพนนึกอะไรไม่ออกจากพยายามหอบลมหายใจเข้าออกให้มากที่สุด
