หวงก้าง | EP.3 ไอ้เด็กบ้า!
ใครๆ ก็รู้ว่าดินแดนลูกชายคนโตของ Stone gem เหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กำลังตามจีบนักอัญมณีสาวของฮันเตอร์อยู่ โชคเข้าข้างที่ฮันเตอร์ให้บริษัทของเขาขุดหาแร่ให้ ไม่อย่างนั้นคงเข้าหาเกรซได้ยากเพราะนอกจากงานแล้วเธอแทบจะไม่สนใจอะไรเลย
“อ้าวคุณดิน” นิดหน่อยชี้ไปหาชายหนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าประตูชั้นล่างสุดของตึก
ดินแดนส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานทั้งสามคนที่เดินมาด้วยกันโดยเฉพาะหญิงสาวที่เป็นหัวหน้าทีม
“มาตามนัดครับ ที่บอกว่าพี่ต้องเลี้ยงข้าวพวกเธอไง”
“ใช่ครับ เย็นนี้คุณดินเลี้ยงเพราะแพ้เกมผมเมื่อคืน” คินน์เอ่ยอย่างภาคภูมิใจที่ตนเองชนะเกม ROV เมื่อคืนโดยที่ไม่รู้ว่าดินแดนยอมอ่อนข้อให้เพื่อนเขาจะได้มีข้ออ้างทานข้าวกับเกรซ
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วงั้นเลี้ยงทุกคนเลยแล้วกัน”
“จริงเหรอคะ นิดหน่อยอยากกินชาบูร้านเปิดใหม่”
“แต่ผมอยากทานร้านอาหารหรูที่เคยคุยกันไว้อะ ไหนๆ ก็มีคนเลี้ยงแล้วพี่เกรซไปด้วยกันนะ”
“นั่นสิ พี่เกรซ” นิดหน่อยเห็นว่าตัวเลือกของคินน์ดีกว่าเลยเปลี่ยนใจ
“ไปเถอะครับคุณเกรซ”
“โอเคๆ แต่ไม่ไปต่อใช่มั้ย” ถามเพื่อความแน่ใจเพราะไปกินข้างเย็นด้วยกันทีไรเธอชอบโดนน้องๆ ลากไปต่อกันทุกที ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากดื่มเท่าไหร่เพราะยังมีงานค้างรอสะสางอยู่
“ถ้าไม่ไปเสียดายแย่ดิพี่เกรซ”
“งั้นไปร้านพี่ดีมั้ย เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์เปิดใหม่เมื่อเดือนที่แล้วเอง คุณเกรซว่าไงครับ”
“เกรซยังไงก็ได้ค่ะ” เกรงใจคนเลี้ยงและคนอยากกินอีกสองคนมองตาปริบๆ ขนาดนี้
“งั้นก็โอเคครับ”
เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ดินแดนจึงพาเกรซ นิดหน่อยและคินน์ไปร้านของอาหารกึ่งบาร์ของตนเอง
“เฮ้ย! ไอ้พี่คินน์ แกลืมงานไว้ที่ออฟฟิศเหรอ” นิดหน่อยโวยวายตอนกำลังเดินเข้าร้าน นึกอะไรไม่รู้อยู่ๆ ก็คลำหาไดร์ฟในกระเป๋าแต่ไม่เจอ ถามคินน์ก็ตอบว่าไม่รู้
“เอ้า ก็แกบอกหยิบมาแล้ว”
“ฉันบอกพี่ว่าหยิบมาให้หน่อยต่างหาก หูตึงเหรอ!”
“ก็ได้ยินแบบนั้นจริงๆ นี่หว่า”
“ไม่รู้แหละ พี่ไปเอามาให้นิดเลย”
“เฮ้ย ไม่ดิ มันจะค่ำแล้วนะ ไปด้วยกันดิ”
“ฮั่นแหน่ ไอ้คนตาขาว”
“ไม่ต้องมาชี้หน้า ไปด้วยกันนี่แหละ พี่เกรซ คุณดิน เดี๋ยวผมสองคนมานะครับ”
“โอ๊ย ไอ้พี่คินน์แกก็เบาๆ หน่อยสิวะ” นิดหน่อยร้องโวยวายเสียงดังที่โดนกระชากให้เดินตามไปด้วยกัน
เกรซถอนหายใจอย่างชินชา เป็นเหตุการณ์ที่ธรรมดาไปแล้วกับทีมของตัวเอง แต่เห็นแบบนี้ตอนทำงานก็สามัคคีกันดีเกินคาด ยกเว้นตอนจบงาน กัดกันเหมือนเดิม!
“เกรซชินแล้วล่ะค่ะ” หันมายิ้มให้ดินแดน
“งั้นเข้าไปข้างในก่อนเถอะครับ”
ดินแดนเดินนำเกรซเข้าไปในร้านตรงไปยังโซนส่วนตัวที่เขาให้ลูกน้องจัดเตรียมโต๊ะเอาไว้
ระหว่างทางเดินดวงตาคู่สวยปรายมองเชยชมไปรอบๆ ร้าน สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอหยุดสายตาไว้ก็คือ ดวงตาคู่นั้น...
เฟรดริก... เขานั่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงตรงมุมนั้น
ดวงตาคมไม่ฉายแววใดๆ ทั้งที่ในใจนั้นเต็มไปด้วยความแปลกใจและอยากรู้เป็นที่สุด เกรซกับเฮียดิน...
หญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ตอนที่มีคนมาจีบเธอต่อหน้าเฟรดริกและช่วงเวลานั้นเธอเริ่มหวั่นไหวกับน้องชายคนนี้แล้ว
เกรซนะเกรซ จะรักมั่นคงไปถึงไหน…
หญิงสาวเอ่ยต่อว่าตนเองในใจแต่ก็สามารถแสดงออกกลบเกลื่อนความรู้สึกจริงได้
ใช่ เธอเก่งขึ้น ประสบการณ์ตอนนั้นทำให้เธอรู้จักเก็บความรู้สึกของตนเองไว้ ลึกเท่าไหร่ยิ่งดี
‘เกรซไม่ใช่สเปก’
ไม่ใช่แล้วทำให้หวั่นไหวทำไม ไอ้เด็กบ้าเอ้ย!
นึกย้อนไปเมื่อก่อนที่เด็กบ้านี่พูดกับเพื่อนอีกอย่าง แต่แสดงออกกับเธออีกอย่างทำให้คนไม่รู้ประสีประสาเรื่องความรักอย่างเธอหวั่นไหวจนต้องเถียงกับตัวเองทุกวัน
“คุณเกรซเชิญทางนี้ครับ” ดินแดนผายมือไปทางโต๊ะอาหารมุมส่วนตัวติดสวนกลางร้านอาหาร
“ขอบคุณค่ะคุณดิน” ยิ้มสุภาพขอบคุณ ไม่วายหันมองอีกคนในอีกมุมหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ บาร์เหล้า
เฟรดริกนั่งรวมกับกลุ่มเพื่อนไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งกำลังดื่มสังสรรค์ต้อนรับเฟรดริกกลับบ้านอย่างเป็นทางการ แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่เอนจอยไปกับเพื่อนเลยตั้งแต่เห็นพี่สาวข้างบ้านคนนั้นเดินเข้ามาในร้านกับผู้ชายแค่สองคน
“คนนี้เหรอที่เฮียดินตามจีบอยู่” ฮาร์ดินถามขึ้น เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นคุ้นมากเหมือนเคยเจอที่ไหนแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก
“เออดิ จีบนานแล้วแต่ยังไม่ติดสักที” แทนไท น้องชายของดินแดนพูดพลางหัวเราะพี่ชายของตนเองที่ป่านนี้ยังจีบนักอัญมณีคนนั้นไม่ติด
“ถ้าเป็นฉันนะ ใจอ่อนกับเฮียดินไปนานแล้ว” เนเน่พูดเสียงละห้อย ถ้าเธอเป็นคนที่โดนเฮียดินจีบ เธอคงเซย์เยสไปตั้งแต่วันแรกแล้ว ของดีขนาดนี้จะปล่อยให้จีบนานทำไมก็ไม่รู้
“เขาไม่เหมือนเธอนี่ที่จะตกลงกับผู้ชายทุกคนที่เข้ามาจีบ” แทนไทพูดแย้งเพื่อนสาวที่นั่งข้างกัน
“เห็นอย่างนี้ฉันก็เลือกนะยะ ชิ” เนเน่หันหน้าหนีไปคุยกับเพื่อนคนอื่น คุยกับไอ้หมอนี่ที่ไรเป็นต้องหงุดหงิดทุกที ไม่ขัดขาสักวันมันจะตายหรือยังไงก็ไม่รู้
“คุ้นๆ นะ เหมือนกูเคยเจอที่ไหนสักที่” ฮาร์ดินยังคงคิดไม่ออก พูดกับเฟรดริกให้ช่วยคิด
“บ้านกูไง” เสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
เฟรดริกละสายตาจากหญิงสาวก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกระดกเหล้าสีอำพันลงคออึกใหญ่
“บ้านมึง ใครวะ อย่าบอกนะว่าพี่สาวคนสวยของมึงอะไอ้เฟร็ด!”
คิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะนึกออก ผู้หญิงคนเดียวที่เคยเจอที่บ้านเฟรดริกตั้งแต่เด็กจนโตก็มีอยู่คนเดียวคือพี่สาวข้างบ้านที่มันตามหวงนักหวงหนา จนไม่มีใครกล้าจีบพี่เขาเลย
เฟรดริกพ่นลมหายใจแรงระบายความหงุดหงิด ยิ่งเห็นเกรซพูดคุยหัวเราะหน้าระรื่นมีความสุขกับผู้ชายคนอื่นเขายิ่งรู้สึกไม่ชอบ เมื่อก่อนก็ว่าไม่ชอบแล้วตอนนี้ยิ่งไม่ชอบมากกว่า
“อย่าบอกนะว่าโตจนป่านนี้แล้วมึงยังหวงพี่เกรซอยู่”
เขากับเฟรดริกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก นอกจากเขาแล้วเฟรดริกก็มีแค่พี่สาวข้างบ้านนั่นแหละที่มันไปเล่นด้วยบ่อยๆ
สายตาคู่คมเขม่นมองเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์พลางคิดตอบคำถามฮาร์ดินในใจ
เมื่อก่อนหวงเพราะไม่อยากให้เกรซมีแฟนหรือเอาเวลาที่เคยเล่นกับเขาอยู่กับเขาไปใช้กับแฟน อะไรที่เป็นของเขาก็ต้องเป็นอยู่อย่างนั้น ถ้ามีใครมาแย่งเขาพร้อมจะขัดขวางเสมอ
แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่ เพราะไม่ใช่แค่หวงเธอแต่เขาหวงความรู้สึกของเธอด้วย!
เสียงพูดคุย สนุกสนานวุ่นวายแค่ไหนก็ไม่เท่าความรู้สึกขุ่นมัวในใจของชายหนุ่มตลอดเวลาจนสองคนนั้นทานอาหารกันเสร็จ
“อาหารถูกปากไหมครับ ถูกใจคุณเกรซหรือเปล่า” ใบหน้าเปื้อนยิ้มของดินแดน เอ่ยถามหญิงสาวเสียงหวาน
“อร่อยมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ กลายเป็นคุณดินเลี้ยงข้าวเกรซแทนเจ้าคินน์เลยค่ะ” หลังจากไปเอาไดร์ฟที่ออฟฟิศ คินน์มีธุระด่วนที่บ้านกะทันหัน นิดหน่อยก็ติดสอยห้อยตามไปด้วยทำให้สองคนนั้นกลับมาที่ร้านไม่ทัน
“ถ้าอย่างนั้นรอบหน้าคุณเกรซเลี้ยงผมคืนดีไหมครับ” ดินแดนพูดอย่างมีเลศนัย
“ได้เลยค่ะ ไว้รอมีนากับภีมกลับมาเดี๋ยวเกรซเลี้ยงคืนนะคะ”
“โถ่ คุณเกรซครับ ผมหมายถึงเราไปทานข้าวกันสองคนอีกต่างหาก”
“สองคนไม่สนุกหรอกค่ะ เกรซชวนคุยไม่เก่ง ยังไงวันนี้ก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
หญิงสาวรู้ดีว่าดินแดนรู้สึกยังไงกับตน แต่เธอไม่สามารถไปปฏิเสธได้เต็มปากเพราะยังมีงานที่ต้องทำด้วยกันอยู่จึงได้แต่ปฏิเสธทางอ้อมเหมือนอย่างตอนนี้
“งั้นคุณเกรซให้ผมไปส่งนะครับ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันที่ทำให้เขาใจเย็นกับผู้หญิงคนนี้มาก ถ้าเป็นคนอื่นแค่พยายามสองสามครั้งแล้วไม่สำเร็จเขาก็พร้อมจะหยุดแล้วไปต่อกับคนอื่นนานแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะคุณดิน ลูกค้าที่ร้านกำลังเยอะเลย เกรซกลับเองดีกว่าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยปฏิเสธ หาเหตุผลมารองรับทำให้ดินไม่ฝืนต่อ
“ก็ได้ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ ถึงบ้านแล้วไลน์บอกผมด้วยนะ เป็นห่วงครับ”
“เจอกันนะคะ”
เกรซยิ้มหวาน ทำมือบ้ายบายลาดินแดนก่อนเดินออกจากร้านไป
อีกคนที่จับตามองสองคนนั้นอยู่ก็พ่นลมหายใจแรงก่อนดูดบุหรี่ราคาแพงเข้าปอดแล้วปล่อยควันคละคลุ้งออกมาระบายความหงุดหงิด
เฟรดริกล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าเสื้อหนังสีดำของตนเองออกมากดโอนเงินเข้าบัญชีฮาร์ดิน
“เปย์กูทำไม” อยู่ๆ ก็มีเงินสองแสนเข้าบัญชีเลยหันไปพูดแกล้งเล่นๆ
“จัดการคืนนี้ให้ที” เฟรดริกเอ่ยหน้านิ่งพลางกระดกเหล้าที่เหลือในแก้วจนหมด
“เอ้า แล้วมึงจะไปไหน” ฮาร์ดินงงเป็นไก่ตาแตก อยู่ๆ เพื่อนก็ลุกขึ้นยืนเหมือนจะทิ้งงานคืนนี้ไปยังงั้น
“กลับบ้าน”
