หวงก้าง | EP.2 ไม่ใช่สเปค
ติ้ด ติ้ด
“อือ... หืม...” เสียงงัวเงียง่วงนอนเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง มือเล็กควานหานาฬิกาแต่พลาดไปโดนแก้วน้ำที่ตั้งวางอยู่ข้างกันหล่นแตก
เพล้ง!
“เกรซนะเกรซ” เสียงเล็กบ่นให้ตนเองพลางรีบพยุงตัวลุกขึ้น เธอปรับสายตาให้กับแสงก่อนจะหยิบแว่นที่วางอยู่โต๊ะข้างเตียงมาใส่
หญิงสาวค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงไปเก็บกวาดเศษซากของแก้วจนพื้นสะอาดเหมือนเดิม ก่อนจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปทำงาน
เกรซเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ปัจจุบันเธอเป็นที่ปรึกษาด้านอัญมณีให้แบรนด์เครื่องประดับชื่อดังระดับเอเชียอย่าง ฮันเตอร์...
ร่างอรชรเลือกชุดในแบบที่ตนเองชอบและเข้ากับการทำงานได้เป็นอย่างดี สาว Working women อย่างเธอต้องกางเกงเท่านั้น ถ้าด้านล่างยาว ด้านบนก็ต้องเซ็กซี่หน่อยอย่างเช่นชุดนี้ กางเกงยาขาวทรงกระบอกใหญ่เอวสูงกับเสื้อครอปตัวสั้นทับด้วยสูทครึ่งตัวโชว์หน้าท้องแบนราบและเนินอกขาวเนียนทำให้เธอมีเสน่ห์น่าดึงดูด
เกรซขับรถไม่เก่งเธอจึงเลือกใช้วิธีเดินทางไปทำงานโดยรถขนส่งสาธารณะแทน หญิงสาวใช้เวลาเดินทางทั้งหมดจากบ้านถึงที่ทำงานประมาณ 30 นาที
“พี่เกรซ” มีนา รุ่นน้องทีมเดียวกันร้องทักสาวรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้างานอย่างสนิทสนม
“อ้าว วันนี้มีนาต้องไปลงพื้นที่กับภีมไม่ใช่เหรอ มาสั่งกาแฟก่อนมา” ถามด้วยความแปลกใจเพราะเธอเป็นคนแพลนงานให้มีนากับภีมไปลงพื้นที่ที่เชียงใหม่ก่อน
“ขอบคุณค่ะ ก็ไอ้ภีมมันนัดที่นี่นี่คะ หนูต้องแหกตาตื่นมารอมันเนี่ย”
“นู่นไง วิ่งมานู่น” นิ้วเรียวชี้ไปหาภีมที่กำลังวิ่งหน้าตั้งมาร้านกาแฟที่พวกเธอกำลังยืนคุยกันอยู่
“ไอ้บ้า กว่าจะมาได้นะ” มีนามองค้อนใส่เพื่อนร่วมงานที่มาสายเลยเวลานัด
“อย่าตีกันระหว่างทางล่ะ นี่จ้ะ เติมพลังก่อนไป” เกรซยื่นแก้วกาแฟให้ลูกทีมสองคนที่ยืนแยกเขี้ยวใส่กันอยู่
“ขอบคุณครับพี่”
“ประชุมกับท่านประธานวันนี้ สู้ๆ นะคะ” มีนายกมือทำท่าไฟต์ติ้ง ส่งกำลังใจให้รุ่นพี่
“ขอบคุณนะ ไปกันได้แล้ว เดินทางปลอดภัยนะ ถึงแล้วไลน์มาด้วย”
“รับทราบครับ ไปดิยัยเตี้ย”
“เออ ไปเล่า มีนไปก่อนนะคะ”
เกรซยิ้มโบกมือบ้ายบาย เป็นเวลาที่กาแฟของเธอทำเสร็จพอดี
หญิงสาวสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจให้ตนเองก่อนเดินขึ้นลิฟต์ฝั่งพนักงาน วันนี้มีประชุมกับฝ่ายบริหารเรื่องการสำรวจอัญมณีที่พื้นที่ต่างๆ มาทำเครื่องประดับคอลเล็กชั่นใหม่ที่ผสมผสานความเชื่อของแต่ละพื้นที่มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับด้วย
“พี่เกรซ พอดีว่าท่านประธานเลื่อนการประชุมออกไปเป็นช่วงบ่าย” คินน์รีบวิ่งมาบอกทันทีที่เห็นหัวหน้าเดินออกจากลิฟต์
“อื้ม ไม่เป็นไร จะได้มีเวลาเพิ่มอีกหน่อย” ตอบเสียงราบเรียบก่อนเปิดคอมพิวเตอร์เลื่อนดูความเรียบร้อยของไฟล์งานที่ต้องนำเสนออีกครั้ง
ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในหัวสมองของเธอหมดแล้ว สไลด์พวกนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้กลุ่มผู้บริหารเห็นภาพมากขึ้นเท่านั้น
“ระดับเจเจ้ยังดูอยู่อีกเหรอครับ”
“ดูว่าแกแก้คำถูกให้เป็นคำผิดหรือเปล่าน่ะ”
“โถ่ พี่เกรซอะ”
“ถ้าเจอผิดอีกจะไม่เลี้ยงกาแฟทั้งเดือน”
“ไม่ผิดแน่นอน พี่ได้เลี้ยงกาแฟผมตลอดอายุการทำงานแน่ๆ ครับ” คินน์ฉีกยิ้มกว้างอย่างมั่นใจ ก่อนเดินกลับโต๊ะทำงานของตนเอง
เกรซตรวจงานซ้ำๆ จนมั่นใจ ก่อนจะอยู่ในความเงียบเพื่อเรียกสติและสมาธิ ก่อนนำเสนองานหรือต้องเข้าประชุมกับผู้บริหารเธอมักจะเตรียมความพร้อมกับตัวเองแบบนี้เสมอ
“พี่เกรซไม่ลงไปทานข้าวเที่ยวด้วยกันเหรอคะ” นิดหน่อยลูกทีมอีกคนเดินเข้ามาถามเบาๆ เหมือนไม่อยากรบกวนสมาธิ
“ไม่ล่ะจ้ะ พี่ฝากซื้อกาแฟอีกสักแก้วสิ”
“ได้ค่ะ เอาเหมือนเดิมนะคะ”
“อื้ม ขอบใจนะ”
“เดี๋ยวนิดรีบไปรีบกลับ ไปกันเถอะพี่คินน์”
นิดหน่อยกับคินน์ลงทานข้างกลางวัน เกรซยังทบทวนงานที่จะนำเสนอในอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้า
หญิงสาวลุกมาสูดอากาศ เดินมากดน้ำหวานในห้องพักผ่อนของพนักงาน ยืนหันหน้ามองวิวกลางเมืองในตอนกลางวัน ในหัวก็คิดทบทวนเรื่องงานไปเรื่อยก่อนหนุนตัวกลับมาตามเดิม
ตอนกลับมาที่โต๊ะทำงาน นิดหน่อยกับคินน์ก็กลับมาพอดีพร้อมกาแฟแก้วโปรด ไม่นานก็ถึงเวลาที่เธอกับคินน์ต้องเข้าประชุมกับผู้บริหาร
เกรซพ่นลมหายใจระบายความกังวลหลายครั้งไม่ต่างจากรุ่นน้องอย่างคินน์ แม้จะเคยเข้าร่วมประชุมมานับครั้งไม่ถ้วนแต่เธอก็ตื่นเต้นและกังวลทุกครั้ง
“เอาน่าพี่เกรซ ได้อยู่แล้วพี่สาวผม”
คินน์เรียกความมั่นใจให้พี่สาวคนสวย ไม่นานประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกก่อนที่ท่านประธานใหญ่อย่าง ฮาล ฮันเตอร์และกลุ่มผู้บริหารคนอื่นๆ ทยอยเข้ามาในห้องประชุม
ความรู้สึกมั่นใจที่เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีนั้นทลายลงเมื่อดวงตาคู่สวยสบประสานกับดวงตาคมเข้มดุดันของชายหนุ่มผู้เข้ามาเป็นคนสุดท้าย
เฟรดริก...
สองสายตาสบประสานกันโดยไม่ตั้งใจ ชายหนุ่มเหมือนต้องมนตร์เมื่อมองเห็นหญิงสาวรุ่นพี่คนที่เขานอนนึกถึงอยู่เมื่อคืน
สวย สวยมาก...
คำเชยชมและสีหน้าถูกเก็บไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งและสายตาคมคู่นั้น
หญิงสาวเหมือนตกในภวังค์ สบตามองเหมือนแรงดึงดูดระหว่างกัน น้องชายข้างบ้านที่เธอเคยสนิทเคยเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กและเขาก็ยังเป็นลูกชายคนเดียวของฮาล ทายาทเพียงคนเดียวของฮันเตอร์
กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ...
เก็บความสงสัยแต่เก็บอาการของสั่นของตนเองเอาไว้ นาทีนี้เธอต้องพร้อมกับงานตรงหน้าไม่มีสิ่งใดมาทำงายความตั้งใจนี้ของเธอเด็ดขาด
เฟรดดิกนั่งเก้าอี้ตัวที่ถูกจัดไว้ใกล้ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ วันนี้เขาเข้ามาดูงานคร่าวๆ ในบริษัทก่อน ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเกรซในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทักทายกันได้ทันทีที่เจอกันแบบนี้
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงเก็บอาการบังคับสายตาของตนเองไม่ให้มองสาวรุ่นพี่มากนัก แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดี
เกรซ...
ภายใต้แว่นกลมของเธอไม่สามารถปกปิดความสวยเอาไว้ได้เลย กลับยิ่งทำให้เธอสวยและมีเสน่ห์มากขึ้นอีก ยิ่งได้ยินเสียงนุ่มหูที่กำลังเอ่ยบรรยายอยู่ทำให้เขาห้ามใจตัวเองยากยิ่งขึ้น
หลายครั้งที่สองสายตาประสานกันโดยอัตโนมัติ คนที่เป็นฝ่ายหลบเลี่ยงคือหญิงสาวทุกครั้งเสมอไป ส่วนอีกคนในเมื่อหักห้ามใจที่จะมองไม่ได้เลยมองต่อไปด้วยสายตาที่คนภายนอกคาดเดาไม่ถูก แต่ในใจของเขานั้นมีแต่ความชื่นชมหญิงสาวตรงหน้า เธอเก่ง เธอสวยและมีเสน่ห์มาก จากที่ไม่เคยหวั่นไหวกับเธอสักครั้งในตอนนี้หัวใจของเขากลับเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
6 ปีที่ไม่เจอหน้ากัน เกรซเปลี่ยนไปมากจริงๆ
เกรซสูดหายใจเข้าลึกเรียกสติและความคิดกลับมาที่งานตรงหน้าอย่างเป็นมืออาชีพ ในที่สุดเธอก็สามารถนำเสนองานจนจบโดยไม่มีข้อผิดพลาดสักนิด
วิเวียนภรรยาของฮาล ฮันเตอร์ ผู้ชื่นชอบและหลงใหลในอัญมณีมาตั้งแต่เด็กถึงกับปรบมือชื่นชม
เกรซได้หายใจโล่งอกเมื่อแผนงานของตัวเองผ่านที่ประชุม ต่อไปเป็นการออกแบบเครื่องประดับตามคอลเล็กชั่นที่วางไว้
“ดีมากเลยหนูเกรซ น้าอยากเห็นของจริงแล้วสิ”
ถึงแม้ผู้บริหารท่านอื่นจะออกจากห้องไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่ครอบครัวฮันเตอร์ แต่วิเวียนก็ยังเอ่ยปากชมหญิงสาวไม่หยุด
“ขอบคุณมากๆ ค่ะคุณท่าน” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณอย่างนอบน้อม
“ไม่มีใครอยู่แล้วเรียกป้าก็ได้จ้ะ”
วิเวียนเอ็นดูเกรซตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะเสียพ่อกับแม่ไป แต่หญิงสาวยังสานฝันของตัวเองให้เป็นจริง เธอได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอัญมณีเหมือนพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยและได้มาทำงานในด้านนี้ให้กับฮันเตอร์แทนพ่อของเธอที่เสียไปด้วย
เป็นทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงานที่ดีมากๆ
“จำพี่เกรซได้ไหมลูก นั่งนิ่งเชียว”
“จำได้ครับ” เสียงทุ้มของเฟรดริกเอ่ยขึ้นพร้อมวางสายตาไปที่หญิงสาวรุ่นพี่
ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมือสั่นมากขนาดนี้เพียงแค่โดนสายตาคู่นั้นจ้องมองอยู่
“สองคนคุยกันไปนะ พอดีลุงมีนัดทานข้าวกันต่อ” ฮาลพูดขึ้นก่อนเพราะใกล้ถึงเวลานัดทานข้าวฝ่ายบริหารต่อ
“ครับแด๊ด”
“สวัสดีค่ะคุณลุง สวัสดีคุณป้า” เกรซยกมือไหว้อย่างสวยงาม
ฮาลและวิเวียนออกจากห้องประชุมไป ทำให้ในนั้นมีเพียงแค่เธอและเฟรดริกสองคน
“เอ่อ... เฟร็ด...” อยู่ๆ ก็ตะกุกตะกักพูดไม่ออก เพราะโดนสายตาคู่คมนั้นจ้องมองอยู่
ดาเมจนี้เธอรับไม่ไหว ตอนเฟรดริกอยู่มัธยมก็ว่าฮอตมากแล้ว ตอนนี้ยิ่งแบดบอยไปกันใหญ่ หัวใจของเธอจะกลับมาหวั่นไหวกับน้องชายข้างบ้านอีกครั้งเหรอเนี่ย!...
“พี่เกรซพี่ เอ่อ...” คนที่เปิดประตูมาเรียกหัวหน้าทีมอึ้งไปพักหนึ่ง เพราะเขาคิดว่าไม่มีใครอยู่ในห้องประชุมแล้ว
“เกรซไปทำงานเถอะ”
ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งแต่สามารถทำให้เธอหัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำได้ ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้
เกรซตั้งสติ นี่น้อง น้องที่โตมาด้วยกันไง
“อื้ม งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ ไว้คุยกัน”
“ครับ” ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนเดินออกจากห้องไป
ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะใจเต้นแรงกับเกรซเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ และเกรซไม่ใช่สเปคเขาสักนิด
