ตอนที่ 5.หนอนบ่อนไส้
EP5. หนอนบ่อนไส้
หลายวันต่อมา
วันนี้นาริกาเลิกเรียนเร็ว เธอจึงไลน์ขออนุญาตเจ้าของเพ้นต์เฮ้าส์มาทำงานก่อนเวลา ซึ่งมาติเนสก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แถมเขาส่งคนรถไปรับเธอที่หน้ามหาลัยด้วยอีก หวังอำนวยความสะดวกแก่การเดินทางให้กับคนตัวเล็ก โดยใช้เรื่องงานมาอ้าง รถหรูแล่นอยู่บนถนนได้เพียงไม่นานหญิงสาวก็เดินทางมาถึงเพ้นต์เฮ้าส์สุดหรูของเขาภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
ร่างบางในชุดนักศึกษาเดินลัดเลาะไปขึ้นลิฟท์ตามปกติ เธอเอาชุดทำงานมาเปลี่ยนที่นี่จะได้ไม่ต้องกลับไปเปลี่ยนที่ห้องให้เสียเวลา พวกการ์ดหน้าตึกเห็นหน้าเธอจนชินแล้ว จึงไม่ได้ตรวจตราอะไรมากเหมือนวันแรกที่เข้ามาทำ
เมื่อมาถึงชั้นที่ต้องการนาริกาก็เจอกับวิวที่ยืนรออยู่หน้าห้อง เพราะเธอไม่มีคีย์การ์ดถึงต้องมีคนมาคอยเปืดประตูให้ทุกวันที่มาทำงาน วันนี้เจ้านายของเขาไม่ได้ออกไปทำงานที่คาสิโน วิวถึงได้รับคำสั่งให้มารับเปิดประตูให้แม่บ้านคนสำคัญ
“เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะ วันนี้คุณเนสไม่ไปทำงานหรอคะ” นาริกาเอี้ยวหน้ากลับมาถาม โดยปกติเธอจะเห็นทั้งสองคนตัวติดกันตลอด พอได้เห็นหน้าลูกน้องคนสนิทของเขาก็เลยอดแปลกใจไม่ได้
“ใช่ครับ ตอนนี้เจ้านายกำลังออกกำลังกายอยู่ด้านใน” เขาตอบน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเคย
นาริกาพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับส่งยิ้มให้เขาบางๆก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องเพื่อทำงานที่ตัวเองรัก วิวลอบมองหุ่นของหญิงสาวตามหลัง ถึงว่า….ทำไมนายเขาถึงดูสนใจในตัวของนาริกานัก พอได้เห็นเธอใส่ชุดนักศึกษารัดรูปเขาถึงได้เข้าใจ ว่าหุ่นของแม่บ้านสาวคนใหม่นั้นไม่ธรรมดา หากเจ้านายจับได้ว่าเขาแอบมองก้นเธอแบบนี้ มีหวังเงาหัวของเขาคงขาดแน่ๆ
นาริกาเดินเข้าไปในห้องที่ถูกเปิดไฟเอาไว้บางส่วน ดวงตากลมโตกวาดตามองไปรอบๆห้องเพื่อสำรวจว่าวันนี้เธอจะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งมันก็เหมือนเดิม มาติเนสคงไม่ค่อยได้ใช้ห้องสักเท่าไหร่นัก เพราะห้องของเขาดูสะอาดสะอ้านอยู่ตลอดเวลาเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ราวกับว่ามีคนมาคอยทำความสะอาดให้ทุกชั่วโมง
แกร่ก!
“มาแล้วหรอ”
ร่างหนาที่กำลังอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน ส่วนท่อนล่างสวมเป็นกางเกงออกกำลังกายขายาวที่ร้ดรูปไปตามสัดส่วน เดินออกมาจากห้องอาหารโดยมีหยดเหงื่อเกาะพราวไปทั้งตัว เพราะในห้องอาหารจะมีเครื่องออกกำลังกายสองสามอย่างที่เขาชอบใช้อยู่เป็นประจำตั้งเอาไว้
เหมือนนาริกาตกอยู่ในห้วงของจิตสำนึกที่มันเอ่อล้น สายตาของเธอกวาดไล่ไปบนกายกำยำจนแทบจะลืมหายใจ ก่อนหน้านั้นเธอได้เห็นแค่เพียงกล้ามเนื้อด้านหลังของเขา พอคราวนี้ได้มาเห็นกายแกร่งด้านหน้า เลือดกำเดาของเด็กสาวนั้นแทบพุ่ง เธอเคยเห็นหุ่นแบบนี้กับรูปปั้นเท่านั้น! ไม่คิดว่ามันจะมีคนหุ่นเพอร์เฟคแบบนั้นจริงๆ!!
เช่นเดียวกับมาติเนส เขาจ้องมองกายสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า คิ้วหนาขมวดชนกันอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าชุดที่เธอใส่มันรัดติ้วจนแทบจะปริออกมา….เธอเคยรู้ไหมว่าหุ่นของตัวเองมันเช้งกะเด๊ะแค่ไหน ทำไมถึงกล้าใส่ชุดที่นมโผล่แบบนี้ออกจากห้อง! นี่เขากำลังรู้สึกไม่พอใจอยู่ใช่ไหม!
“คะคุณเนสคะ….ตรงนั้นมัน”
นาริกาอ้าปากค้าง ดวงตาเปิดกว้างพร้อมกับกระพริบถี่รัว มือบางถูกยกขึ้นไปปิดปากโดยอัตโนมัติ มาติเนสก้มมองลงไปดู ณ จุดที่สายตาของเธอกำลังตะลึง!….และเขาก็พบว่าเป้ากางเกงของเขามันกำลังพองตัวเป็นลำเพื่อเชื้อเชิญเธออยู่!
( อ่าา แค่ได้เห็นเธอในชุดนักศึกษาก็ของขึ้นเลยหรอว่ะ! บ้าชิบ )
“เอ่อ เอ่อ นะนาปะไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะคุณเนส”
“หึ”
คนหน้าแดงแจ๋รีบวิ่งรุกลี้รุกลนเข้าไปในห้องน้ำ มาติเนสกระตุกยิ้มออกมาแถมหัวเราะในลำคอเบาๆเพราะเขาอดขำในท่าทางอันกลัวจนตัวสั้นของเธอไม่ได้ แค่เห็นจากภายนอกเธอยังวิ่งหนีขนาดนี้ แล้วถ้าได้เห็นของจริงเธอจะกลัวขนาดไหนกัน
“มันใหญ่มากเลยนะ” นาริกาบ่นพึมพัมอยู่คนเดียวในขณะที่เข้ามาในห้องน้ำแล้ว เธอมัวแต่จินตนาการถึงตรงนั้นของเขาจนสติสตางค์หายไปหมดแล้ว
เพี๊ยะ!
“หยุดคิดได้แล้วนาริกา รีบทำงานจะได้รีบกลับห้อง” หญิงสาวตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติ ถึงแม้ว่าหลายๆเรื่องเกี่ยวกับมาติเนสจะคอยกวนใจเธออยู่มาก แต่เด็กสาวก็พยายามลืมๆมันไปแล้วหันไปจดจ่ออยู่กับงานที่ต้องทำแทน
——————————————————————-
ในขณะที่นาริกากำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่นั้น มาติเนสก็ปลีกตัวออกมาประชุมอยู่ที่ชั้นสิบ ที่นี่นอกจากจะเป็นที่พักส่วนตัวของเขายังเป็นสถานที่ทำงานย่อมๆได้อีกด้วย หากไม่มีงานเยอะเขาก็จะไม่เข้าคาสิโน แถมอีกหลายๆชั้นที่เหลือยังเป็นห้องพักของพวกบอร์ดี้การ์ดอีกหลายสิบคน
วันนี้เขามีนัดประชุมด่วน เพราะที่จริงมันคือวันหยุด แต่งานมีปัญหากระทันหัน เขาจึงเรียกลูกน้องมาให้รายงานเรื่องราวที่นี่ การประชุมขนาดย่อมกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า และเขาก็กำลังเดินทางไปที่ห้องประชุมในชุดสบายๆ
มาติเนส มัส นอกจากเขาจะเป็นเจ้าของคาสิโนขนาดใหญ่แล้ว เขายังผลิตอาวุธปืนถูกกดหมายจำหน่ายด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำมาตั้งแต่ก่อนที่พ่อเขาจะลงจากตำแหน่งหัวหน้า แล้วส่งไม้ต่อให้เขาทำแทน
มาติเนส ปกครองทุกคนด้วยความเด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มีความอ่อนโยนและอะรุ่มอะล่วยให้กับลูกน้อง เขาเป็นคนที่หาตัวจับได้ยากมาก ในโลกแห่งความจริงจะไม่มีใครรู้ว่าเขาคือมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ เขาจะมีตัวตนมากๆเฉพาะกับโลกสีเทาเท่านั้น
จึงไม่แปลกที่เขาจะไม่เคยปรากฎหน้าออกสื่อใดๆเลยถึงแม้จะเป็นคนที่รวยมาก แต่น้อยคนนักที่จะได้รู้จัก ร่างหนาเดินออกจากลิฟท์ก่อนจะผลักประตูเข้าไปในห้องประชุมที่มีลูกน้องมานั่งรอก่อนอยู่แล้ว ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
“สวัสดีครับคุณเนส”
ทั้งสองคนลุกขึ้นทำความเคารพก่อนที่จะนั่งลงตามเดิมหลังจากที่เจ้านายหนุ่มนั่งลงไปแล้ว
“มีอะไรว่ามาเลย ผมมีเวลาไม่มาก” น้ำเสียงที่เป็นปกติสำหรับเขาเอ่ยขึ้นมา แต่ทว่าสำหรับคนอื่นนั้นมันดูเย็นยะเยือกจนแอบเสียวสันหลัง
“ตอนนี้ปืนล็อตที่สองของปีนี้มีปัญหาครับ ลูกค้าที่ซื้อไปคอมเพลนมา บอกว่ามันใช้การได้ไม่ดีเท่าล็อตที่ผ่านๆมา” หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อเอ่ยขึ้นมาตามสิ่งที่เขาได้รับรายงานมาจากพนักงานคนอื่นอีกที
“คืนเงินไปแล้วเอาสินค้ากลับมา ลูกค้าคอมเพลนมากี่คน” เขาพูดเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทั้งๆที่นั่นมันคือเงินมูลค่าหลายล้านบาท
“ครับ เบื้องต้นเราแจ้งไปแล้ว แต่ว่ารอบนี้ลูกค้าทุกคนที่ซื้อไป ขอเปลี่ยนคืนหมดเลยครับคุณเนส ลูกค้าเกือบๆห้าสิบคน หากคืนเงินไปทั้งหมด เอ่อ….ผมเกรงว่าเราอาจจะเสียเงินเป็นจำนวนมากเกินไป”
“ได้คุยกับทางโรงงานที่ผลิตสินค้าหรือยัง”
มาติเนสเข้าใจสิ่งที่นิกรณ์กำลังจะสื่อ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันผิดปกติและบริษัทกำลังจะเสียผลประโยชน์มากเกินไป เพียงแต่เขายังไม่เห็นถึงสิ่งผิดปกติก็เท่านั้นเองว่าปัญหาของสินค้าเกิดจากอะไร เกืดจากลูกค้าหรือตัวโรงงานกันแน่ โรงงานปัจจุบันที่ร่วมหุ้นกันอยู่ร่วมลงทุนกับเขามาตั้งแต่สมัยบิดา การที่โรงงานจะทำให้สินค้าเกิดปัญหาได้มากขนาดนี้มันต้องมีแรงจูงใจมากพอสมควร และโรงงานก็ไม่ใช่โรงงานเล็กๆ คงจะเกิดการผิดพลาดได้ยาก เว้นแต่ว่ามีคนจงใจจะทำให้มัยเกิดปัญหา
“คุยแล้วครับ ทางนั้นบอกจะตรวจสอบให้แล้วเงียบหายไปเลย”
ได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่าทางโรงงานอาจกำลังมีอะไรปิดบังเขาก็อยู่เป็นได้ เเละเขาต้องรีบหาต้นตอของเรื่องนี้ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆอาจจะเกิดความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม
“งั้นส่งคนของเราไปตรวจที่โรงงานอย่างละเอียด รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงบ้าง เอาให้ได้คำตอบภายในอาทิตย์นี้”
“แต่ว่าคุณเนสครับ แค่อาทิยต์เดียวผมว่าไม่น่าพอ” เด่นคุณที่เป็นถึงรองประธานบริษัทเอ่ยขึ้น เขาคือลูกของเพื่อนพ่อถึงได้ตำแหน่งนี้ไปครองและแน่นอนว่าเด่นคุณมีความเห็นต่างที่คิดว่าส่งคนไปตรวจสอบอาทิตย์เดียวไม่น่าจะทัน ถึงทันเขาก็ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น
“ถ้าทำไม่ได้ก็ไล่ออก พวกคุณว่าไง….หรือจะให้ผมลงไปตรวจโรงงานด้วยตัวเอง” นิกรณ์หันไปมองหน้าเด่นคุณพร้อมกัน ในเมื่อเจ้านายพูดมาแบบนี้พวกเขาเองก็คงไม่กล้าขัดอะไร นอกจากจะทำยังไงก็ได้ให้ทุกอย่างเสร็จลุล่วงตามคำสั่ง
“ครับคุณเนส ผมจะรีบส่งคนไปจัดการเรื่องนั้น” นิกรณ์เอ่ยตอบอย่างไม่รอช้า
“ดี งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะ” ร่างสูงพูดจบก็ลุกขึ้นเดินหายออกไปจากห้องทันที นิกรณ์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก เขาเป็นลูกน้องที่นับถือเจ้านายมากจากใจจริง แต่ทุกครั้งที่ได้เผชิญหน้ากับมาติเนสใกล้ๆ เขามักจะเกร็งจนตัวแทบหดไปอยู่มุมห้องเสมอ
“เรื่องส่งคนไปตรวจสอบเดี๋ยวผมจัดการเองนะคุณนิกรณ์” เด่นคุณพูดออกมาน้ำเสียงเย็นยะเยือก แววตาฉายแววคุกครุ่นแต่นิกรณ์ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
“ครับ เอางั้นก็ได้ครับคุณเด่นคุณ”
“ตกลงตามนั้น งั้นผมขอตัวนะ คงไม่ได้ไปส่งคุณคงกลับเองได้ใช่ไหม”
“เอ่อ…ครับ” นิกรณ์เกาหัวแกรกๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ตอนเขาจะออกมาหามาติเนสที่นี่ เด่นคุณเป็นคนอาสาขับรถมาส่งแท้ๆ แต่ตอนกลับกลับทิ้งเขาไว้กลางทางซะงั้น เอาเถอะ! หนุ่มแว่นอย่างเขาไม่อยากจะมีปัญหากับใคร เพราะงั้นเขาหาทางกลับเองก็ได้