หลุมพรางร้าย มาเฟียเถื่อน ( ตระกูลมัส 2 )

180.0K · จบแล้ว
พริ้มพราว
62
บท
20.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“นาริกา ฉันไม่ได้บอกว่าเธอต้องจ่ายด้วยเงิน” “แล้วคุณเนสจะให้นาจ่ายยังไงคะ ผ่อนจ่ายได้ไหม หรือหักเอาจากเงินเดือนนาก็ได้” “ฉันขอจูบ….จ่ายฉันมาด้วยจูบของเธอ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักพลิกชีวิตรักหวานๆคนรับใช้มาเฟียเศรษฐีโรแมนติกผู้ชายอบอุ่น18+

ตอนที่ 1.งานใหม่

EP1. งานใหม่

ร่างสมส่วนแหงนหน้ามองห้องเช่าตรงหน้าอย่างหมายมั่น ก่อนที่มือเรียวสวยจะผลักประตูเข้าไปเมื่อมั่นใจแล้ว ว่าสถานที่นี้คือที่ที่เธอตามหา ‘นาริกา เพลงกร’ สาวน้อยวัยยี่สิบปี เธอกำลังจะเข้ามาสมัครงานที่สำนักงานจัดหางานแห่งนี้

นาริกากำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สองของมหาลัยXX เธอจากบ้านเข้ามาเรียนในเมืองกรุงด้วยความยากลำบาก ครอบครัวของเธอไม่ได้จนมากแต่ก็ไม่ได้รวยมากเช่นกัน การเรียนของเธอนั้นอยู่ในขั้นที่ดีมาก จนสามารถกู้ยืมเงินเพื่อทุนการศึกษาได้ แต่ลำพังค่าอยู่ค่ากิน แค่พ่อกับแม่ส่งมาให้นั้นไม่เพียงพอหรอก ค่าของชีพของเมืองหลวงนั้นสูงเกินกว่าจะใช้เงินหนึ่งพันบาทได้ทั้งอาทิตย์

สาวน้อยในเมืองกรุงถึงได้ออกหางาน เธอเองก็พอมีประสบการณ์ในการทำงานพาร์ทไทม์มาอยู่บ้าง หากได้งานนี้ก็คงจะดีไม่น้อย

“สวัสดีค่ะ หนูมาสัมภาษณ์งานค่ะ”

เชอร์รี่มองสาวน้อยตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนหน้านี้มีคนเข้ามาสมัครงานที่นี่แล้วห้าคน แต่ไม่มีใครถูกใจเธอเลยสักคน แถมงานนี้เป็นงานที่ค่อนข้างจะคัดคนเอามากๆเสียด้วย ทำงานเพียงสัปดาห์ละสี่วัน ทำตอนไหนก็ได้ตามที่สะดวกแต่ต้องแจ้งตารางงานเอาไว้ล่วงหน้าก่อนหนึ่งอาทิตย์

ทำงานเพียงเดือนละ 16 วัน แต่ได้เงินเดือนเท่าๆกับมนุษย์เงินเดือนหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เชอร์รี่ถึงได้เลือกคนแบบละเอียดยิบมากกว่าปกติ หากเธอคว้าเอาคนไม่ดีไปทำงาน แล้วเกิดเหตุผิดพลาด มีหวัง เงาหัวเธออาจจะหลุดออกจากบ่าก็เป็นได้

“นั่งลงก่อนสิ”

สาวใหญ่เอ่ยออกมาน้ำเสียงเรียบนิ่ง ใบหน้าซื่อๆของนาริกา ทำให้สาวใหญ่วัยสี่สิบต้นๆอย่างเธออยากลองสัมภาษณ์ดู

“ขอบคุณค่ะ”

“ขอดูเรซูเม่หน่อย”

นาริกาล้วงเข้าไปหยิบแฟ้มของตัวเองที่เตรียมไว้ในกระเป๋าออกมายื่นให้คนตรงหน้าด้วยสีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

“อืม ยังเรียนอยู่สินะ แล้วทำไมถึงอยากมาสมัครงานล่ะ”

วันนี้ทั้งวันเชอร์รี่ยอมรับ ว่านาริกาเป็นคนแรกที่นางรู้สึกถูกชะตาและถูกใจเด็กน้อยหน้าใสคนนี้

“หนูอยากหารายได้เพื่อเอามาไว้ใช้ในขีวิตประจำวันค่ะ คือบ้านหนูไม่ได้รวยมากมายอะไร หนูอยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ค่ะ”

ความจริงใจที่เชอร์รี่สัมผัสได้ ทำให้เธอปิดแฟ้มลงเพราะไม่ต้องการอ่านมันอีก เธอต้องการพูดคุยกับเด็กคนนี้มากกว่าจะสนใจเรซูเม่สวยๆที่เธอตั้งใจทำมา

“เธอเคยทำงานเป็นแม่บ้านมาก่อนไหม?”

“เคยค่ะ หนูเคยเป็นพาร์ทไทม์ที่โรงแรมค่ะ กวาดพื้น ถูพื้น ปูที่นอนเรียบกริบ ขัดห้องน้ำหนูทำได้หมดเลยค่ะ”

ทุกประโยคที่เธอพูด เธอมักจะยิ้มไปด้วยเสมอ นั่นทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากจริงเชียว ที่นาริกาพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย เพราะเธอมีความสุขเวลาพูดถึงเรื่องของตัวเองออกมาอย่างภาคภูมิใจ แม่ครอบครัวและชีวิตของเธอจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เธอก็ภูมิใจในตัวของพ่อและแม่มาก

“ดี แล้วเธออยากได้เงินเดือนเท่าไหร่”

คำถามนั้นเอาเอาสาวน้อยไปต่อไปเป็น เธอไม่เคยมีสิทธิ์เลือกเงินเดือนด้วยตัวเองเลยสักครั้ง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเรียกเท่าไหร่ งานล้างจานวันละ 200 เธอก็เคยทำมาแล้ว หากเรียกมากไปเขาจะรับเธอเข้าทำงานมั้ยนะ

“เอ่อ วันละ300ก็ได้ค่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ เธอนี่มัน เด็กน้อยจริงๆสินะ”

เชอร์รี่หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู ท่าทางกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของหญิงสาวตรงหน้า ทำเอาเธอชอบใจดีจริงเชียว ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าเธอมีอะไรให้ขำ แต่นาริกาก็ได้แต่ยิ้มหวานๆตอบกลับไปเท่านั้น

“เดือนละ 40000 โอเคไหม”

เชอร์รี่หยุดขำแล้วหันมาจ้องใบหน้าขาวนวลอย่างจริงจัง นาริกาเบิกตาโพลงเมื่อเธอได้ยินคำว่าสี่หมื่น!! แค่งานแม่บ้านได้เงินเยอะขนาดนี้เชียวหรือ สงสัยคนจ้างคงจะเป็นคนรวยละสิท่า

(โชคดีแล้วไอ้นาเอ้ย เดือนละสี่หมื่นต่อไปคงสบาย)

“อะ….โอเคค่ะ พี่ตกลงรับหนูเข้าทำงานแล้วหรอคะ”

เธอถามให้มั่นใจเพราะไม่อยากดีใจเก้อ เชอร์รี่พยักหน้าเป็นคำตอบ บอกตรงๆตอนนี้นาริกาอยากออกไปกรี๊ดข้างนอกดังๆ นี่มันยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอีกนะ เธอสามารถส่งเงินกลับไปให้พ่อกับแม่ใช้ได้สบายๆเลย

“เริ่มงานพรุ่งนี้เลยได้ไหม แล้วหลังจากนั้นส่งตารางเวลาว่างมาให้ฉันได้เลย เธอสะดวกเวลาไหนก็ใส่มาให้ชัดเจน เจ้านายเขาไม่เรื่องมากหรอก”

“ดะ…ได้ค่ะ พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลยค่ะพี่ ขอบคุณมากนะคะ”

“งั้นพรุ่งนี้ทำงานวันแรก มาสักแปดโมงเช้าก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะไปส่งที่ทำงาน นี่สัญญางาน อ่านให้ครบ งานที่เธอจะไปทำเป็นสถานที่ลับ ห้ามเผยแพร่ให้คนอื่นรู้เด็ดขาด หากเรื่องนี้แพร่พรายไปจากเธอเธอต้องเสียค่าชดใช้ให้ที่ทำงานนะ เอาล่ะ ถ้าเข้าใจแล้วก็เซ็นซะ”

นาริกาหยิบกระดาษสัญญาขึ้นมาอ่านอีกรอบอย่างครบถ้วน เธอเข้าใจแล้ว ถึงไม่ห้ามเธอก็ไม่คิดจะไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้อยู่แล้วล่ะ หญิงสาวจัดการเซ็นสัญญาจนเสร็จสิ้น สิ่งเดียวที่เธอสนใจคือค่าตอบแทนอันสูงลิบลิ่วต่างหาก งานจะเหนื่อยแค่ไหนเธอไม่เกี่ยงหรอก ถึงแม้พรุ่งนี้จะต้องหยุดเรียนไปเริ่มงานก็ตาม แต่มันก็แค่วันเดียว หลังจากพรุ่งนี้ไปเธอจะเลือกลงตารางงานตอนไหนก็ได้ แบบนี้แหละเจ๋งสุดแล้ว

“แอดไลน์มาด้วยนะ ฉันจะสั่งงานผ่านไลน์ ฉันชื่อเชอร์รี่นะ แล้วเธอมีชื่อเล่นไหม”

“นาค่ะ หนูชื่อนา”

นาริกาหันมาตอบพลางหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ใช้มาแล้วไม่ต่ำกว่าสามปีขึ้นมาแอดไลน์ตามคำสั่งของเชอร์รี่

“เสร็จแล้วก็กลับได้ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นี้นะนา”

วันต่อมา

@เพ้นต์เฮาส์

นาริกาเดินทางมาถึงเพ้นต์เฮาส์สุดหรูภายในเวลาแปดโมงครึ่ง ซึ่งคนที่พาเธอเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล คือเชอร์รี่นั่นเอง ทางขับเข้ามามันช่างดูลึกลับมากจนนาริกาแทบจำไม่ได้ว่าต้องเลี้ยวกี่ครั้งถึงจะมาถึงนี่ สาวน้อยตาแป๋วอ้าปากค้างให้กับสิ่งที่เพิ่งเคยเห็น ไม่น่าเชื่อว่าหลังกำแพงสีขาวนั่นจะมีตึกสุดหรูขนาดนี้ซ่อนตัวอยู่ด้วย

“อย่ามัวแต่จ้อง เดินมาไวๆ”

เชอร์รี่หันมาดุเมื่อเห็นนาริกามัวแต่ยืนอึ้งให้กับความหรูหราของตึกด้านหน้านี้

“คะ….ค่ะ”

หญิงสาวรีบก้าวเท้ายาวๆตามเชอร์รี่ไป กว่าจะผ่านเข้าไปด้านในตึกได้ จำเป็นต้องผ่านจุดตรวจหลายจุด แถมคนที่นี่มีแต่หน้าโหดๆทั้งนั้นเลย ชักอยากจะรู้แล้วสิ ว่าเจ้าของที่แห่งนี้คือใคร

เชอร์รี่พานาริกาขึ้นลิฟท์มายังขั้นสูงสุดนั่นก็คือขั้นที่สิบสี่ สาวน้อยหันมองซ้ายมองขวา เจอแต่กำแพงสีทึบๆและประตูนั่นแทบจะเนียนไปกับกำแพงอยู่แล้ว ถ้าไม่มีปุ่มให้กดกริ่งเธอคงไม่รู้ว่าเป็นประตู

ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง

รอประมาณห้านาทีก็มีผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาฝรั่งจ๋า หนวดเครารุงรังออกมาเปิด นาริการีบก้มหน้าหนีเมื่อชายคนนั้นมองมาที่เธอ

(ทำไมเขาถึงน่ากลัวจัง)

“สวัสดีค่ะคุณวิว วันนี้ฉันพาแม่บ้านคนใหม่มาทำงานวันแรกค่ะ”

วิวมองสาวน้อยที่เริ่มตัวสั่นเป็นลูกนกด้วยแววตาเรียบเฉย ดูเหมือนเธอจะกลัวเขามากเลยสินะ ถึงได้ก้มหน้าลงหนีขนาดนั้น เจอเขายังตัวสั่นขนาดนี้แล้วถ้าเจอเจ้านายเขาจะไม่ฉี่ราดเลยหรือไง

“เชิญเข้ามา”

พอได้ก้าวเข้ามาในห้องสุดหรูเหมือนในนิตยาสาร นาริกาก็ค้องเบิกตาโพลงอีกครั้ง ไม่อยากจะเชื่อว่าบนเพ้นต์เฮ้าส์ชั้นสูงสุดจะมีพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้ ถ้ามองเห็นจากในรูปเธอคงนึกว่านี่คือบ้านหลังนึงไปแล้ว สัดส่วนของห้องมันใหญ่พอๆกับบ้านหนึ่งหลังได้เลยนะ อาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำไป

“รออยู่ตรงนี้ผมจะไปตามเจ้านาย”

วิวพูดจบก็หายไปในห้องนึงซึ่งนาริกาก็ไม่รู้ว่าในห้องนั้นคือห้องอะไร หญิงสาวสังเกตุไปรอบๆห้อง ข้าวของเครื่องใช้มีเเต่ของเเบรนด์ทั้งนั้น หากเธอทำแตกหรือทำพังไม่อยากจะคิดมูลค่าเสียหายเลยว่าเท่าไหร่ เธอคงไม่มีปัญหาหาเงินมาจ่ายแน่ๆ

“หนูต้องทำความสะอาดที่นี่หรอคะ”

“ใช่ เดี๋ยวเจ้าของห้องเขาจะมาบรีฟงานกับเธอเอง รายละเอียดอาจจะเยอะหน่อย แต่คุ้มกับเงินที่เธอจะได้แน่นอน”

เชอร์รี่รู้ดีว่านาริกากำลังประหม่ากับสถานที่แห่งนี้ ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ก็มีอาการเช่นเดียวกับเธอ เพียงไม่นานร่างสมส่วนตามคำล่ำลือก็ทอดกายออกมาจากห้องนอนของตัวเองพร้อมกับลูกน้องคนสนิท

มาติเนสจ้องมองไปยังร่างเล็กที่ยืนก้มหน้าหงุด ดูเหมือนเธอกำลังกลัวจนตัวสั่น ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆให้กับท่าทางอันแสนจะไร้เดียงส่านั้น เขาอยากเห็นหน้าเธอชัดๆ แม่บ้านคนใหม่ของเขา…ทำไมเธอถึงไม่กล้าสบตากับเขาเลย

ก่อนหน้านี้เขาไล่แม่บ้านคนเก่าออกเพราะเธอพยายามปีนขึ้นมาบนเตียงของเขา แต่พอดีว่าคนอย่าง ‘มาติเนส มัส’ ไม่ชอบกินของมั่ว เขาถึงได้ไล่เธอออกอย่างไม่สนใจใยดี เขาจะกิน….คนที่เขาอยากกินเท่านั้น

“นาจ้ะ นี่คุณมาติเนส เจ้านายของเธอ นี่นาริกาค่ะคุณเนส แม่บ้านคนใหม่ของที่นี่”

“สะสวัสดีค่ะ”

นาริการวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มือเงยหน้าขึ้น ก่อนจะพนมมือกล่าวทักทายเขาตามขนบธรรมเนียมของประเทศไทยอย่างนอบน้อม ถึงเธอจะเห็นหน้าเขาเพียงเสี้ยววิ แต่รับรู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่นาริกาไม่กล้ามองเขานานกว่านี้ เพราะสายตาที่เขามองเข้าที่เธอมันทำให้เธอรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก

มาติเนสแทบจะมองทะลุลงไปในกายสาว เข้าพิจารณาใบหน้ารูปไข่ของเธอได้แค่เพียงครู่ เธอก็ก้มลงหลบหน้าเขาอีกแล้ว

“ขอบคุณมากคุณเชอร์รี่ เดี๋ยวผมให้วิวจัดการเรื่องเงินให้ หมดธุระของคุณแล้วก็กลับไปได้เลยนะ เดี๋ยวเรื่องแม่บ้านคนใหม่ผมจัดการเอง”

น้ำเสียงเย็นยะเยือกสั่งออกไป เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขา สันหลังของเธอก็เสียววาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ คนอะไรทำไมมีน้ำเสียงเย็นชาได้ขนาดนั้น

( ฉันไม่ชอบบรรยากาศที่น่าอึดอัดแบบนี้เลยอ่าาา คิดถูกหรือคิดผิดที่สมัครงานนี้ T_T )

“เดี๋ยวผมสอนงานเธอให้ครับ”

“ไม่ต้อง….เดี๋ยวฉันจะสอนเธอเอง นายออกไปส่งคุณเชอร์รี่แล้วก็รอฉันอยู่ที่รถ เสร็จแล้วฉันจะลงไป”

“เอ่อ ให้เชอร์รี่รอที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ พอดีเชอร์รี่เป็นคนมาส่งนาเอง เดี๋ยวนาไม่มีรถกลับ”

ที่เชอร์รี่ต้องท้วง เพราะเธอเป็นห่วงนาริกา เธอไม่อยากทิ้งให้เด็กสาวต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่แสนอึดอัดเพียงคนเดียว

“ตอนนี้เธอเป็นพนักงานของที่นี่แล้ว แค่เรื่องรถรับส่งผมจัดการให้ได้ เชิญคุณกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”

ในเมื่อเขายื่นคำขาดไปแบบนั้นแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าขัดอะไรอีก วิวมองเจ้านายหนุ่มด้วยสายตาแปลกออกไป ทำไมเจ้านายของเขาถึงลงทุนสอนงานแม่บ้านคนใหม่ด้วยตัวเอง ถึงจะยังคาใจแต่ก็ยอมออกไปตามคำสั่งแต่โดยดี

นาริกามองตามเชอร์รี่ตาละห้อย ถ้าทุกคนออกไปหมด ก็หมายความว่าเธอกับผู้ชายคนนี้ต้องอยู่ด้วยกันสองคนน่ะสิ

( ทำไงดี เธอไม่อยากอยู่กับเขาเลย เขาหล่อเกินไป หากเข้ามาใกล้กว่านี้มีหวังอกแตกตายกันพอดี )