ตอนที่ 5 หมาหัวเน่า
ตอนที่ 5 หมาหัวเน่า
หลังจากที่น้องมีอารมณ์ดีขึ้น อวี้เหม่ยชักชวนน้องเดินไปที่ครัว เมื่อก่อนตอนที่แม่ยังอยู่บ้านของอวี้เหม่ยมีแม่บ้านคอยทำกับข้าวและทำอาหาร มาพักหลังจู่ ๆ คุณแม่ได้ให้แม่บ้านออก งานบ้านทุกอย่างคุณแม่เป็นคนทำอวี้เหม่ยจึงตอยช่วยเหลือคุณแม่โดยที่ไม่ได้เอ่ยถามทำไมถึงให้ป้าถิงออก
กลิ่นหอมของเนื้อตุ๋นคละคลุ้งไปทั่วบ้าน ดวงตาของเฟยหย่าเป็นประกายแวววาว น้ำลายส่อออกมา
“เนื้อตุ๋นของพี่อวี้เหม่ยหอมจริง ๆ ตอนนี้ท้องของหนูเริ่มร้องประท้วงอยากกินแล้ว”
“รอสักหน่อยนะ พี่ต้องทำอาหารอื่นเพิ่มอีกตอนนี้ครอบครัวของเราไม่ได้มีแค่สามคน หากทำไปแค่นี้มีหวังคุณพ่อต้องตำหนิแน่ ๆ อืม.. พี่จะแบ่งเนื้อตุ๋นให้เฟยหย่าได้กินก่อนคนอื่นดีมั้ย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เอาไว้กินพร้อม ๆ กันจะดีกว่าพี่อวี้เหม่ยจะผัดผักหรือคะมาค่ะหนูช่วยหั่นผักนะคะพี่จะได้ไปเตรียมในส่วนอื่น”แม้ว่าท้องจะร้องประท้วงด้วยความหิว สายตาจ้องมองไปแต่หม้อเนื้อตุ๋น ทว่าเธอกลับเลือกที่จะกินพร้อม ๆ กันกับทุกคนและหันมาช่วยงานพี่สาวต่อ ไม่นานกับข้าวสำหรับเย็นนี้ก็เสร็จ ทั้งสองพี่น้องช่วยกันยกไปจัดโต๊ะ ในยุคนี้อาหารมักจะมีมากกว่าข้าวสาว ยิ่งใกล้ฤดูหนาว อวี้เหม่ยจึงหุงข้าวน้อยเพื่อกักตุนเอาไว้กินฤดูหนาว เธอตักข้าวใส่ชามให้เท่า ๆ กัน เมื่อเห็นทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว เธอมองไปด้านนอกบ้านตอนนี้ดวงตะวันไปลาลับขอบฟ้า ด้านนอกมืดสลัวรีบบอกให้เฟยฟฃหย่าไปล้างมือเตรียมตัวกินข้าวเย็น
“เฟยหย่าไปล้างมือแล้วมานั่งรอที่เก้าอี้นะ พี่จะไปตามทุกคนจะได้กินข้าวพร้อม ๆ กัน”
“ได้ค่ะพี่อวี้เหม่ยวันนี้หนูจะได้กินเนื้อตุ๋นอร่อย ๆ แล้วคืนนี้คงนอนฝันดีแน่ ๆ” อวี้เหม่ยลูบหัวน้องสาวเบา ๆ ก่อนจะเดินไปตามทุกคนมาที่ห้องกินข้าว ทว่ายังไม่ทันได้เดินไปเสียงผู้เป็นพ่อก็ดังขึ้นพร้อมเดินมาพร้อมหน้า
“ทำไมทำอะไรชักช้าแบบนี้ จนเฟยหงบ่นเจ็บท้องหรือว่าเธอแกล้งทำช้า ๆ เพราะไม่พอใจที่ฉันสั่งให้ขอโทษน้องกันห่ะ ! นิสัยขี้อิจฉานี้ไปเอามาจากไหนกัน”
“คุณพ่อฉันกำลังจะเดินไปเรียกพอดีอีกอย่างฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำช้าแต่ว่าวันนี้เป็นเนื้อตุ๋นต้องใช้เวลานาน อีกทั้งยังต้องทำอาหารมากกว่าเดิม ฉันไม่เคยคิดอิจฉาหรือโกรธเคืองเฟยหงแม้แต่น้อย”
“ถ้ารู้ว่าเนื้อตุ๋นใช้เวลามากทำไมไม่เลือกทำเมนูอื่น เพราะเธออยากแกล้งน้องสินะ” สายตาจ้องเขม็งมายังร่างเล็กพร้อมเอ่ยถ้อยคำตำหนิไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของอวี้เหม่ยแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่นะคะคุณพ่อเฟยหย่าชอบเนื้อตุ๋น และเธอเป็นคนอยากกินฉันก็อยากให้น้องได้กินอาหารที่ชอบเท่านั้นทำไมคุณพ่อถึงคิดว่าฉันจะแกล้งเฟยหงละคะ”
“พี่เจี๋ยหลงพอเถอะค่ะ ตอนนี้อาหารก็พร้อมแล้วเรามานั่งกินข้าวกันเถอะจะได้พักผ่อนสักที เดินทางมาที่นี่ก็เหน็ดเหนื่อยมากพอแล้ว อีกทั้งยังต้องเก็บของใช้เสื้อผ้าใส่ตู้อีก อย่าเสียเวลาเลยค่ะ” หยวนหนิงรีบห้ามปรามก่อนที่เจี๋ยหลงจะต่อว่าอวี้เหม่ยไปมากกว่านี้ แต่ที่เธอพูดออกหน้าแทนไม่ใช่เพราะเธอสงสารแต่เธอต้องการทำให้เห็นว่าตอนนี้ไม่ว่าเธอกับลูกสาวพูดอะไร เจี๋ยหลงต้องเชื่อคำพูดของเธอและทำตามทุกอย่างเด็กทั้งสองจะได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วในบ้านหลังนี้ต่อจากนี้ใครคือผู้ที่มีอำนาจ
“เฟยหงหิวมากแล้วใช่มั้ยนั่งลงเถอะนะ พ่อจะคีบเนื้อให้ ต้องกินให้เยอะ ๆ นะเข้าใจมั้ยร่างกายจะได้แข็งแรง” อวี้เหม่ยนิ่งเงียบ จ้องมองพ่อที่เอาอกเอาใจเพียงแต่เฟยหงทำราวกับเธอเป็นเด็กเพียงอายุ 3 ขวบต่างจากเฟยหย่าที่เด็กกว่าเฟยหงแต่ไม่เห็นคุณพ่อจะเอาใจมากถึงเพียงนั้น
“ไม่นั่งลงกินหรือไงกัน รีบกินเข้าสิ” เจี๋ยหลงไม่เหลียวมองลูกสาวคนโตแต่ก็เอ่ยเรียกให้เธอนั่งลงกินอาหารพร้อม ๆ กัน เฟยหย่าเดินกลับมานั่งลงบนโต๊ะ จับตะเกียบกำลังจะคีบเนื้อตุ๋นครั้นนั้นเฟยหงก็ได้เอ่ยขึ้นมาเสียงดัง
“ว้าววันนี้เนื้อตุ๋นอร่อยมาก ๆ เลยค่ะ ไม่เคยกินเนื้อตุ๋นแบบนี้สักครั้งในชีวิต ดูสิคะอร่อยจนน้ำตาปริ่มเลยค่ะคุณพ่อ” เจี๋ยหลงยิ้มเบิกบานยื่นมือมายกชามเนื้อตุ๋นไปไว้ต่อหน้าเฟยหงจนเฟยหย่าไม่สามารถคีบถึง
“ถ้าชอบละก็กินเยอะ ๆ นะ เนื้อตุ๋นนี้พ่อให้เฟยหงคนเดียวเลย” ใบหน้าของเด็กหญิงเศร้าหมองลงเมื่อเห็นสิ่งที่ตัวเองอยากกินกำลังถูกย้ายไปที่อื่น จนอวี้เหม่ยไม่อาจจะทนเห็นน้องสาวน่าสงสารของตัวเองต้องทนนั่งคีบแต่ผัดผักกินกับข้าวดวงตาเอ่อคลอแดงก่ำ
“คุณพ่อคะ หนูขอเนื้อตุ๋นให้เฟยหย่าหน่อยนะคะ คุณพ่อเอาไปไว้ข้างหน้าของเฟยหงเพียงคนเดียวได้ยังไง ไม่เห็นหรือไงคะว่าเฟยหย่าอยากกินขนาดไหน” อวี้เหม่ยพูดจบกำลังเลื่อนมือคีบเนื้อมาให้น้องสาวตอนนั้นเองเจี๋ยหลงใช้ตะเกียบของตนเองปัดตะเกียบของอวี้เหม่ยทันที
แกร่ก !!
“ของแค่นี้เธอหวงกินหรืออวี้เหม่ย เฟยหงก็เป็นน้องสาวของเธอเหมือนกันอีกอย่างเฟยหย่าเคยกินเนื้อตุ๋นนับครั้งไม่ถ้วน แต่เฟยหงเพิ่งจะเคยได้กินเนื้อตุ๋นวันนี้ให้เฟยหงกินก็แล้วกันพวกเธอกินผัดผักไปซ่ะ”
“พี่เจี๋ยหลงใจเย็น ๆ นะคะ เนื้อตุ๋นนี้ก็มีมากพอสมควรฉันว่าแบ่ง ๆ กันกินดีกว่า”
“หยวนหนิงทำไมเธอถึงจิตใจดีแบบนี้ เอานี่เอาไปเพียงเท่านี้ก็เพียงพอนะเฟยหย่า เรื่องขนมก็ครั้งหนึ่งแล้ว นี่จะมาหวงเนื้อตุ๋นอีกหรือไง ” เจี๋ยหลงคีบเนื้อเพียงน้อยนิดแบ่งให้เฟยหย่า ส่วนอวี้เหม่ยทั้งโมโหทั้งเสียใจจนจุกไปทั้งหัวใจพยายามอดกลั่นไม่ให้น้ำตาไหลรินออกมา มองไปหาน้องสาวตัวน้อยก่อนจะพยักหน้าให้น้องกินเนื้อที่คุณพ่อเป็นคนแบ่งปันให้
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” เฟยหย่าขอบคุณผู้เป็นพ่อก่อนจะคีบเนื้อเพียงน้อยนิดเข้าปาก หยวนหนิงแสยะยิ้มเมื่อมองดูทั้งสองพี่น้องน่าเวทนาอย่างพึงพอใจ ต่อจากนี้สองคนพี่น้องคงไม่กล้าจะขัดใจและขัดคำสั่งเธอแน่นอน เจี๋ยหลงไม่เคยหันมาสนใจอวี้เหม่ยกับเฟยหย่าอีกเลยเขาเอาแต่สนใจเอาอกเอาใจเพียงเฟยหงทำราวกับว่าลูกสาวสองคนเป็นเพียงอากาศ เด็กทั้งสองฝืนกล้ำกลืนกินข้าวเงียบ ๆ หยาดน้ำตาไหลออกมาช้า ๆ แต่ก็ไม่อาจจะทำให้คุณพ่อเหลียวมามองสักนิด
