หลี่อวี้เหม่ยย้อนเวลามาทวงแค้น

9.0K · อัพเดทล่าสุด
วริษา
5
บท
14
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

กลับมาครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมสองแม่ลูกงูพิษนั่นอีกต่อไป ฉันจะเข้มแข็งปกป้องน้องและตระกูลของฉันเอาไว้ให้ได้ ความร้ายกาจที่เคยพบเจอหล่อหลอมเข้าในจิตใจไม่ยากสักนิดหากฉันจะกลายเป็นคนที่ร้ายกว่าเพื่อทวงคืน บทนำ อวี้เหม่ยหญิงสาววัยกำลังออกเรือน มีคู่หมั่นคู่หมายเป็นชายหนุ่มนิสัยดีและเป็นคนมั่งมีที่สุดในหมู่บ้าน ทว่าจู่ ๆ แม่ของเธอมาเสียชีวิตกระทันหันไม่ทันที่เธอจะได้แต่งงานด้วยซ้ำ แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือพ่อของเธอหลี่เจี๋ยหลงพาภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังจากที่แม่เสียชีวิตผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่สิ่งที่แปลกคือภรรยาใหม่ของพ่อดันมีลูกสาวตามติดมาด้วย สิ่งที่ทำให้อวี้เหม่ยเจ็บปวดที่สุดคือรู้ว่าผู้หญิงที่มีอายุห่างจากเธอเพียงแค่ 3 ปีคือน้องสาวแท้ ๆ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุดเพราะน้องสาวที่เกิดมาแม่แท้ ๆ ของเธอมีอายุเพียง 7 ขวบ หมายความว่าคุณพ่อของเธอแอบมีภรรยาคนนี้ตั้งแต่คุณแม่ยังไม่เสีย ราวกับโลกทั้งใบแตกสลายไร้ที่พึ่งทางจิตใจแต่เธอจะทำตัวอ่อนแอต่อหน้าน้องสาวไม่ได้ เธอจะต้องเข้มแข็งเพื่อดูแลน้องสาว แต่ความโลภมากและไม่เคยมีของแม่เลี้ยงกับน้องสาวคนรองทำให้เธอต้องการแย่งทุกอย่างไปเป็นของตัวเอง หลี่เจี๋ยหลงทำงานเกี่ยวกับการเดินเรือออกไปค้าขาย ไม่ค่อยได้อยู่บ้านคิดว่าการพาแม่เลี้ยงเข้ามาอยู่จะได้ฝากฝังลูกสาวทั้งสองให้เธอดูแล ครั้นแม่เลี้ยงไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพ่อรู้ เธอทั้งร้ายและรังเกียจเด็กทั้งสองทั้งกลั่นแกล้ง รังแกใช้งานสารพัดแย่งห้องนอนของหลี่อวี้เหม่ยไปให้ลูกสาวของตัวเองไม่เว้นแม้แต่เสื้อผ้า ของใช้ทุกอย่าง ขับไล่เด็กทั้งสองไปนอนอยู่ที่ห้องเก็บของแทน งานในบ้านทุกอย่างตกเป็นหน้าที่ของทั้งสองโดยปริยาย วันเวลาผ่านไปหลายเดือนกลายเป็นปีที่หลี่อวี้เหม่ยโดยรังแกแต่เธอก็ยอมทำทุกอย่างหวังเพียงให้แม่เลี้ยงพึงพอใจ แม้จะอดมื้อกินมื้อบางวันต้องกินเพียงน้ำประทังชีวิต จนกระทั่งถึงฤดูหนาวหิมะตกมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา หลี่เฟยหย่าน้องเล็กไม่ได้กินอะไรมาหลายวันเหมือนร่างกายของน้องสาวจับไข้ตัวร้อนจนไม่ได้สติ มีเพียงส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยความหนาวเหน็บ หลี่อวี้เหม่ยพร่ำร้องเรียกแม่เลี้ยงเท่าไหร่แต่เหมือนเขาจงใจไม่ให้ทั้งสองเข้ามาในบ้าน สายลมพัดเย็นยะเยือกพัดผ่านมาอีกคราพร้อมหิมะที่โหมกระหน่ำเด็กหญิงตัวน้อยตัวซีดเผือดไร้เลือดฝาด กายที่เคยร้อนราวกับเปลวไฟกลับกลายเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น ร่างเล็กนิ่งติงไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจเข้าออก หลี่อวี้เหม่ยพร่ำเรียกแม่เลี้ยงทั้งน้ำตาให้ช่วยเหลือชีวิตน้องสาวของตนเอง เสียงของเธอสะท้อนไม่ถึงหูของแม่เลี้ยงแม้แต่น้อย ราวกับเสียงจักจั่นตัวน้อยจนเด็กหญิงจากพี่สาวไปอย่างเวทนา หลี่อวี้เหม่ยเจ็บปวดตรอมใจ พ่อที่เคยรักตัวเองมากกว่าสิ่งใดเปลี่ยนผันไปเชื่อแต่คำพูดของแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดา หลี่อวี้เหม่ยหมดสิ้นทุกอย่างตัดสินใจปลิดชีพตัวเองตามน้องสาวไปป่านนี้แม่ของเขาคงอ้าแขนรอโอบกอดเธอและน้องอยู่ แต่แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอหวังเมื่อเธอลืมตามาอีกครั้งได้พบว่าตัวเองย้อมเวลากลับมาก่อนที่เธอจะเสียน้องสาวไป ครั้งนี้หลี่อวี้เหม่ยจะไม่ยอมให้เป็นเหมือนอย่างเคยเธอจะปกป้องน้องสาวของเธอให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีใด

นิยายย้อนยุคนิยายจีนโบราณผู้ใช้ความรุนแรงแก้แค้นสัมพันธ์ครอบครัวเกิดใหม่ครอบครัวใช้ความรุนแรงจีนโบราณยุค70แข็งแกร่ง

ตอนที่ 1 เจ็บปวด

ตอนที่ 1 เจ็บปวด

ฟิ้ว ฟิ้ว เสียงสายลมพัดผ่านร่างบางหนาวจนตัวสั่นกอดเด็กหญิงตัวเล็กในอ้อมแขนเนื้อตัวซีดขาวราวกับหิมะที่กำลังตกอย่างถาโถมด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่ม มือบางทุบประตูหน้าบ้านครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเรียกแม่เลี้ยงเปิดประตูให้แก่ตัวเองกับน้องได้เข้าไปด้านใน เมื่อเธอเห็นว่าตอนนี้น้องอาการเริ่มไม่ดีหากอยู่ท่ามกลางหิมะด้วยเสื้อผ้าบาง ๆ เช่นนี้น้องต้องจากเธอไปแน่ ๆ

“น้าหยวนหนิงเปิดประตูให้เราเข้าไปด้านในเถอะนะคะ ตอนนี้เฟยหย่าแย่แล้ว ได้โปรดไม่ว่าน้าหยวนหนิงจะให้ฉันทำอะไรฉันจะยอมทำให้ทุกอย่าง อยากได้อะไรฉันจะยกให้ทั้งหมดขอเพียงช่วยเหลือน้องสาวของฉันด้วย” หญิงสาวอายุ 20 ปี ใช้มือทุบประตูที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ด้วยความปรารถนาหวังว่าน้าหยวนหนิงจะสงสารและยอมเปิดประตูให้ทั้งสองพี่สองเข้าไปด้านใน แต่เหมือนเสียงของเธอเป็นเพียงอากาศ ยามนี้ไม่ว่าจะมองไปที่ใดต่างก็มืดสนิทไร้หนทางจะเดินไปขอความช่วยเหลือจากที่อื่น ขาของหลี่อวี้เหม่ยถูกซือหยวนหนิงใช้ไม้ทุบตีแทบเดินไม่ได้ด้วยความเจ็บ ยิ่งต้องอุ้มน้องสาวเดินผ่าหิมะปกคลุมถนนหนทางจนหมดเช่นนี้เธอคงเดินไปได้ไม่ไกลแน่ ๆ

“พี่อวี้เหม่ย หนูง่วงและเหนื่อยมากเลยค่ะ พี่ร้องไห้ทำไมคะอย่าร้องเลยนะหนูขอนอนก่อนนะ หวังว่าตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้เช้าท้องฟ้าจะสดใสแดดส่องสว่างให้ความอบอุ่นแก่เรา" มือเล็ก ๆ ยื่นมือมาแตะที่ใบหน้าของพี่สาวน้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง เพียงได้ยินผู้เป็นพี่ยิ่งร้องไห้มากกว่าเดิม เธอรู้ทันทีว่าตอนนี้น้องสาวของเธอจะจากเธอไปในไม่ช้า

"ไม่นะเฟยหย่าอย่าพึ่งหลับพี่จะช่วยเธอเอง เดี๋ยวอีกไม่นานน้าหยวนหนิงต้องมาเปิดประตูให้เราเข้าไปอดทนอีกนิดก่อนนะ ขอร้องล่ะ" เด็กหญิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายยิ้มบาง ๆ ให้แก่พี่สาวก่อนจะหลับตาลงทั้งน้ำตา อวี้เหม่ยเริ่มสั่นเทาไปทั้งตัวเขย่ากายของเฟยหย่าเบา ๆ ร้องเรียกด้วยใจที่สั่นสะท้าน

“เฟยหย่า เฟยหย่าได้ยินพี่มั้ย ตอบพี่มาสิลืมตามาคุยกับพี่ก่อน เฟยหย่า ไม่นะไม่ !!!” เสียงเรียกของอวี้เหม่ยดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อร่างเล็กไม่ส่งสัญญาณตอบกลับมีเพียงความเงียบงัน ครานั้นเองที่เธอรับรู้ว่าน้องสาวของเธอจากเธอไปแล้วจริง ๆ น้ำตาไหลรินออกมาอาบแก้มกอดน้องสาวเข้ามาแนบอกร่ำไห้สุดเสียง ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว เสมือนหัวใจถูกฉีกกระชากให้ขาดเป็น 5-6 ท่อน แหลกละเอียดเป็นผงฝุ่นล่องลอยไปในอากาศ ร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา ชีวิตของเธอตอนนี้เหมือนเทียนที่กำลังมอดดับไร้แสงสว่างดิ่งลงไร้คนปลอบประโลม น้องสาวที่เธอรักต้องมาตายอย่างอนาถา ครู่หนึ่งความคิดของคนขาดสติเศร้าโศกเสียใจในความไม่ยุติธรรมในครั้งนี้ อยู่ไปมีแต่ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานใจ ครั้นนั้นอวี้เหม่ยเงยหน้าขึ้นจากตัวของน้องสาวยิ้มทั้งน้ำตายิ่งกว่าคนบ้า

“เฟยหย่าไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัวตอนนี้คุณแม่คงมารอรับเราแล้วพี่จะรีบตามไป จะตามไปเดี๋ยวนี้ในเมื่อคุณพ่อไม่รักเรา ไม่เชื่อคำพูดของเราสักนิดพี่เองก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่เหมือนกัน นอนตรงนี้ก่อนนะอย่าพึ่งไปที่ไหนเดี๋ยวพี่จะรีบตามไป” อวี้เหม่ยวางร่างของน้องสาวลงอย่างเบามือ ก่อนที่จะถอดเสื้อแขนยาวด้านนอกออกมัดกับขื่อเสาประตูหน้าบ้าน ในใจหนาวเหน็บยิ่งกว่าร่างกายทุกสิ่งทุกอย่างไร้ความหมายมองเห็นแสงสว่างเดียวที่อยู่ด้านหน้าคือความตาย และน้องสาวที่ยื่นมือรอจับมือพี่สาวด้วยรอยยิ้ม อวี้เหม่ยไม่คิดอะไรแล้วรีบใช้กระถางดอกไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ คว่ำลงสองเท้าปีนขึ้นไปเหยียบกระถางดอกไม้ จับเสื้อที่มัดอย่างแน่นหนาที่ขื่อประตูสอดคอของตนเองเข้าไป ใช้เท้าเตะสะบัดกระถางจนล้มลง แรก ๆ ร่างกายเริ่มดิ้นประท้วงจากการขาดอากาศหายใจอย่างทุรนทุราย ผ่านไปไม่ถึงนาทีลมหายใจของเธอค่อย ๆ แผ่วเบา สายตาเหม่อลอยไปด้านหน้าทุกอย่างมืดสนิท แขนขาอ่อนแรง เห็นภาพของน้องสาวกับแม่ยืนรอ เธอค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมน้ำตา ความเจ็บปวดที่มีทั้งหมดจบลงทุกอย่างดับวูบไปหมดลมหายใจของเธอเองก็เช่นกัน

1 ปีที่แล้ว

ท่ามกลางฤดูฝนที่โปรยปราย ในห้องนอนของแม่หลี่ได้ยินแต่เสียงร่ำไห้ระงมดังไปทั่วทั้งห้องราวกับแข่งกับเสียงฝน เด็กหญิงตัวน้อยกอดแม่ของเธออยู่บนเตียงร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายเลือด พี่สาวเองก็เสียใจไม่น้อยทว่าเธอจะอ่อนแอให้น้องสาวเห็นไม่ได้ยิ่งตอนนี้เธอเสียแม่ไปแล้วต่อจากนี้เธอจะต้องเป็นเสาหลักเข้มแข็งเพื่อดูแลน้องสาว เดินเข้าไปดึงตัวของน้องสาวออกมาจากร่างไร้วิญญาณของแม่หลี่เพื่อให้คุณพ่อและญาติพี่น้องไปทำพิธีตามศาสนา

“เฟยหย่าคุณแม่ต้องไปแล้ว พี่รู้ว่าเฟยหย่ารักแม่และเสียใจมากแค่ไหน พี่เองก็เสียใจแต่ตอนนี้คุณแม่ต้องไปแล้ว อย่าร้องไห้อย่าเศร้าใจไปเลยคุณแม่ไม่ชอบเห็นเราสองพี่น้องร้องไห้ อย่าให้คุณแม่ต้องเป็นห่วงเราไม่ต้องกลัวนะจากนี้พี่จะมอบความรักเหมือนที่คุณแม่มอบให้เฟยหย่าเอง”

“พี่อวี้เหม่ย อึก อึก หนูคิดถึงคุณแม่ ทำไมคุณพ่อต้องพาคุณแม่ไปด้วยคุณแม่เพียงแค่นอนหลับเท่านั้น อีกไม่นานคุณแม่ก็ตื่นแล้วพี่อวี้เหม่ยช่วยไปพูดกับคุณพ่อให้หน่อยได้มั้ยคะ ? ” อวี้เหม่ยน้ำตาร่วงร่างกายสั่นเทาเมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว เธอเองไม่สามารถกลั่นมันเอาไว้ต่อไปได้ นั่งคุกเข่าลงกอดน้องสาวตัวเล็กแน่น มือลูบหลังอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบโยน

“เฟยหย่าทุกคนล้วนต้องตายกันทั้งนั้น คุณแม่เหนื่อยและทรมานมามากแล้วเธอก็เห็นใช่มั้ยเวลาที่คุณแม่ไม่สบายจะทรมานแค่ไหน ตอนนี้คุณแม่ไปสบายแล้วไม่ว่าเราจะเอาคุณแม่ไว้ที่นี่อย่างไรคุณแม่ก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้ ”

“อึก ฮื้อ ฮือ คุณแม่ใจร้าย คุณแม่ทิ้งพวกเราไป คุณแม่เห็นแก่ตัว” เด็กหญิงตัวน้อยกอดพี่สาวร้องไห้ออกมาสุดเสียงด้วยความเศร้าโศก ก่อนที่ทุกคนจะนำร่างของคุณแม่ไปทำพิธี

เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งอาทิตย์ เฟยหย่าที่เคยร่าเริงนิ่งเงียบเพราะเอาแต่คิดถึงแม่หลี่ อวี้เหม่ยเห็นอาการของน้องจึงชักชวนน้องออกไปเดินเล่นที่ตลาด ทว่าเมื่อสองคนกำลังจะเดินออกไปได้ยินเสียงคุณพ่อกลับเข้ามาในบ้านเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเป็นครั้งคราวอีกทั้งยังได้ยินเสียงของหญิงวัยกลางคนพูดคุยอยู่กับคุณพ่อ ทั้งสองเดินไปหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจหญิงวัยกลางคนแต่งตัวจัดจ้าน กอดแขนของคุณพ่อเข้ามาแถมยังมีเด็กหญิงอายุราว ๆ 16 ปี เดินตามหลังมาด้วยรอยยิ้มดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ บ้านด้วยความตื่นเต้น