บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 คู่หมั้น

ตอนที่ 3 คู่หมั้น

หลี่อวี้เหม่ยหวั่นใจ ต่อจากนี้ชีวิตของเธอไม่สงบสุขอีกต่อไป หลังจากที่ได้คุยกับแม่เลี้ยงคนใหม่เมื่อครู่ สายตาของเธอไม่ได้จ้องมองสองพี่น้องด้วยความเมตตา รับรู้ได้ถึงความเย็นชาและความโหดเหี้ยมของหญิงคนนี้

'คุณแม่คะ หนูจะต้องทำอย่างไรต่อไปดีคะ ต่อจากนี้ความสุขในบ้านของเราคงจบลงแล้วจริง ๆ หนูคิดถึงคุณแม่จังเลยถ้าแม่อยู่ด้วยกันตอนนี้คงจะดี แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะหนูจะดูแลน้องเป็นอย่างดี’ อวี้เหม่ยคิดในใจจับมือน้องสาวเดินไปที่ร้านขนม เสียงแว่วด้านหลังดังขึ้นมา

“อวี้เหม่ย อวี้เหม่ยรอฉันก่อน” เธอหยุดเดินหันหลังไปมองพลันยิ้มกว้าง

“เฉินลี่หาน”

“คิดอะไรอยู่เหรอ ? ฉันเรียกเธอตั้งหลายครั้ง แล้วนี่จะไปไหนกัน”

“พี่อวี้เหม่ยกำลังพาหนูไปซื้อขนมค่ะพี่เฉินลี่หาน” เฟยหย่าคลี่ยิ้มตอบพี่ชายรูปหล่อด้านหน้า

เฉินลี่หานลูกชายคนเดียวของตระกูลเฉิน ครอบครัวของเขาเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเลี้ยงหมูขายเนื้ออีกด้วย แม่ของเฉินลี่หานเป็นเพื่อนรักกับแม่ของหลี่อวี้เหม่ยอีกทั้งยังท้องก่อนกันเพียงไม่นาน จึงพูดคุยกันถ้าลูกออกมาเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่จะให้เป็นเพื่อนสนิทคอยช่วยเหลือกัน แต่ถ้าเป็นชายกับหญิงจะขอหมั้นหมายไว้ตั้งแต่คลอดเสร็จ จนกระทั่งทั้งคู่คลอดทั้งสองตระกูลจึงทำการหมั้นหมายให้ ทว่าทั้งสองไม่เพียงแต่ทำตามคำสัญญาของแม่ หัวใจและความรู้สึกของทั้งสองก็รักและผูกพันธ์กัน

“ดีเลยอย่างนั้นไปที่ร้านของฉันนะ วันนี้คุณพ่อให้ลุงฉานลงมือเชือดหมู เอาเนื้อกลับไปทำกินด้วยนะ”

“อื้ม ...ขอบใจนะแต่ฉันเกรงใจป้าเฉินกับลุงเฉิน อย่างนั้นขอซื้อเนื้อด้วยเงินของฉันเองดีกว่าของซื้อของขายจะให้ฉันเฉย ๆ ได้อย่างไร”

“ทำไมจะให้ไม่ได้ละ อีกไม่นานเราทั้งสองคนก็จะแต่งงานกันเธอก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวมาเถอะ ๆ เฟยหย่าวันนี้มีขนมเข้ามาใหม่ด้วยพี่ให้เลือกอย่างหนึ่งไม่ต้องจ่ายเงิน” เฉินลี่หานใจดีมีเมตตาแถมยังรักอวี้เหม่ยทะนุถนอมเธอยิ่งกว่าดวงใจ เขาเดินจับมือเฟยหย่าไปที่ร้านของตนเองอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่นักเดินไปไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็ถึง

ตระกูลเฉินร่ำรวยเสียกว่าตระกูลหลี่ของเธอมาก เมื่อก่อนเธอดีใจนับวันรอเวลาแต่งงานเข้าบ้านตระกูลเฉินแต่ว่าตอนนี้เธอกลับรู้สึกเศร้าใจ เมื่อนึกถึงแม่เลี้ยงกับน้องสาวคนใหม่ หากเธอแต่งงานออกมาชีวิตของน้องสาวจะเป็นอย่างไร

“หนูอวี้เหม่ยทำไมวันนี้ใบหน้าของหนูดูมีเรื่องให้คิดอย่างนี้หรือจ๊ะ มีอะไรในใจหรือเปล่าบอกป้าได้นะ อีกหน่อยก็เป็นคนครอบครัวเดียวกันแล้วมีอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียว” ป้าเฉินเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งเงียบขรึมตั้งแต่เข้ามาในร้าน ปกติเธอมักจะแจ่มใสร่าเริง

“คุณป้าเฉินพี่อวี้เหม่ยคงคิดเรื่องน้าซือหยวนหนิงนะค่ะ เธอคนนั้นเหมือนปีศาจร้ายเลยค่ะหนูเองก็กลัว วันนี้หนูขอนอนที่นี่ไม่ได้เหรอคะ”

“เฟยหย่าพูดอย่างนั้นได้อย่างไร ถึงเราจะนอนที่นี่คืนนี้ก็ชวนแต่ทำให้คุณพ่อโมโหมากกว่าเดิม อีกอย่างต่อให้เราหนีได้ครั้งหนึ่งแต่ว่าเราต้องอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตอย่างนี้จะหนีไปเพื่ออะไรกัน” อวี้เหม่ยรีบพูดขึ้นมาไม่ให้น้องสาวนอนบ้านของป้าเฉิน

“เดี๋ยวนะ ซือหยวนหนิง? แล้วซือหยวนหนิงคือใครทำไมต้องกลัวจนไม่อยากกลับบ้านด้วยล่ะ”

“เอ่อ..น้าซือหยวนหนิงคือภรรยาใหม่คุณพ่อค่ะป้าเฉิน”

“ห่ะ !! อะไรนะภรรยาเสียชีวิตจากไปไม่ถึงสองเดือนพ่อของพวกเธอเอาภรรยาใหม่เข้าบ้านแล้วเหรอ ? น่าโมโหจริง ๆ ”

“ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ หนูยังมีพี่สาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคนด้วยแต่หนูไม่ค่อยชอบใจพี่สาวคนนั้นเลย แววตาของเธอดูน่ากลัวไม่ต่างจากแม่ของเธอเลย”

“เรื่องมีภรรยาใหม่น่าตกใจพอแล้ว นี่ยังเอาลูกติดภรรยาเข้ามาอยู่ในบ้านอีกด้วยอย่างนั้นเหรอไม่ได้การไม่ได้การป้าจะไปจัดการให้เอง”

“อย่านะคะคุณป้า คุณพ่อคงไม่พอใจหากรู้ว่าหนูเอาเรื่องนี้มาบอกคุณป้า อีกอย่างหลี่เฟยหงไม่ใช่ลูกติดน้าหยวนหนิงแต่เป็นลูกสาวคนที่สองของคุณพ่อค่ะ” แพขนตาหลุบลงอย่างเศร้าหมองเอ่ยเรื่องราวฉาวโฉ่วของคุณพ่ออย่างเศร้าใจและแผ่วเบา สะท้อนให้เห็นว่าอวี้เหม่ยเจ็บปวดเพียงใด ป้าเฉินแทบลมจับเมื่อได้ยินคำพูดของอวี้เหม่ย ยกมือนาบอก

“นี่มันเรื่องอะไรกัน !! แอบมีชู้ตั้งแต่แม่ของเธอยังอยู่เนี้ยะนะ เลวทรามจริง ๆ เธอมั่นใจใช่มั้ยจะไม่ให้ป้าไปช่วยจัดการ”

“ค่ะ หนูอยากอยู่อย่างสงบมากกว่าจะทำให้ทุกฝ่ายอึดอัด”

“เอาตามที่เธอบอกก็แล้วกันรอดูกันไปก่อนว่าซือหยวนหนิงคนนั้นจะนิสัยอย่างไร อีกไม่นานเธอจะแต่งเข้ามาอยู่ที่นี่คงไม่ต้องกลัวและลำบากใจ จะเป็นห่วงแต่หนูเฟยหย่านี่ล่ะ หรือจะพาเฟยหย่ามาอยู่ที่นี่ด้วย”

“เรื่องนั้นคุณพ่อจะยอมเหรอคะ ถ้าเป็นไปได้หนูก็อยากให้น้องมาอยู่ด้วยเหมือนกัน ”

“เอาล่ะ ๆ เอาไว้รอดูอีกสักระยะหากผู้หญิงคนนั้นรังแกทุบตี รีบมาบอกป้าทันทีเข้าใจมั้ย ป้าจะช่วยพวกเธอสองคนเอง”

“ขอบคุณค่ะ” อวี้เหม่ยสบายใจไม่น้อยที่บอกเล่าเรื่องนี้กับป้าเฉิน ส่วนเฉินลี่หานยืนฟังอยู่ไม่ไกลก็เกิดเป็นห่วงอวี้เหม่ยจนอยากแต่งงานกับเธอตอนนี้เสียเลย แต่ก็ต้องรอฤกษ์งามยามดีที่คุณแม่ไปดูกับหมอดูมา

หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็ขอตัวกลับ เฉินลี่หานจึงอาสาเดินไปส่งที่บ้านพร้อมเนื้อหมูสันในชิ้นใหญ่

“อย่าลืมคำพูดของคุณแม่ล่ะ เข้าใจใช่มั้ยถ้าเกิดอะไรขึ้นรีบบอกพวกเรารู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วงเธอแค่ไหน ถ้าเป็นไปได้อยากยกขบวนมาสู่ขอเธอตั้งแต่วันนี้เลยด้วยซ้ำ”

“ขอบใจนะเพราะมีนายกับคุณป้าทำให้ฉันสบายใจและอบอุ่นหัวใจอยู่เสมอ ถ้าฉันแต่งงานไปใจก็ยังเป็นห่วงเฟยหย่าที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับสองแม่ลูกนั้น คุณพ่อก็อย่างที่รู้กันมักจะออกไปเดินเรือขายของอยู่บ่อย ๆ ขอให้ทั้งสองเป็นคนดีและเอ็นดูเฟยหย่า แค่นั้นฉันก็หมดห่วงแล้วล่ะ” อวี้เหม่ยมองทอดสายตาไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย เฉินลี่หานยื่นมือไปจับมือของเธอพร้อมเดินเคียงข้างเธอไปเรื่อย ๆ โดยมีเฟยหย่าเดินนำหน้าทั้งสอง

“ไม่ต้องห่วงนะชีวิตของเธอมีฉันเดินเคียงข้างเสมอ ฉันรักเธอหลี่อวี้เหม่ย” คำพูดแสนธรรมดาแต่มันทำให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวของอวี้เหม่ยชุ่มชื้นขึ้นมาไม่น้อยเหมือนต้นไม้ที่กำลังถูกการรดน้ำพรวนดินเป็นอย่างดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel