ตอนที่ 7 เต้าหู้คืออะไร?
หลิวเมิ่งหลีกรอกตามองบนคราหนึ่งจากนั้นก็มองไปยังเถ้าแก่ร้านผู้นั้นก็พบท่าทางที่ไม่กลัวหน้าอินทร์ หน้าพรหมที่ไหนของเขาแล้วร่างบางก็ลุกขึ้น
จากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นว่า “เจ้าบอกว่าที่บ้านของเจ้านั้นยากจนไม่มีเงินถึงได้นำของตกทอดออกมาขายเพื่อนำเงินไปรักษาท่านแม่ของเจ้าที่ป่วยกำลังรอเงินค่าหมอเพื่อรับการรักษา แต่เจ้าดูตัวของเจ้าสิ
สวมใส่เสื้อผ้าหรูหราราคาแพงผ้าไหมทั้งชุดบนตัวของเจ้านี่อย่างน้อยคงต้องหลายสิบตำลึงกระมัง
หากรีบร้อนใช้เงินรักษาแม่จริง เหตุใดไม่นำเสื้อผ้าเจ้าชุดนี้ไปจํานําก็ได้แล้วไม่เห็นจำเป็นต้องขายมรดกตกทอดเลย ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นของปลอมทุกคนดูสัญลักษณ์ที่ฐานนี้สิ ถึงจะแสร้งกรีดให้ดูเก่า
แต่ตัวอักษรเยี่ยนด้านบนก็ดูออกได้
ตัวหนังสือที่แคว้นต้าเยี่ยนใช้เมื่อก่อน เป็นตัวเต็มห้าปีก่อนฝ่าบาทถึงให้คนหดย่อตัวอักษร ใช้ตัวอักษรเยี่ยนที่ดูง่าย หรือว่าบรรพบุรุษเจ้ามีญาณรู้ล่วงหน้าอย่างนั้นหรือ ถึงได้รู้ว่าฝ่าบาทจะทำอักขระให้เรียบง่ายขึ้นอย่างนั้นใช่ไหม?" หลิวเมิ่งหลีย้อนถาม
หลังจากที่ได้ยินหลิวเมิ่งหลีพูดเช่นนั้นทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็พากันมองมายังตัวหนังสือบนฐานแจกันที่ยังพอมองออกได้อยู่นั้นในทันที
“จริงด้วยนี่มันตัวอักษรเยี่ยนนี่นา เจ้าคนหลอกลวง นี่เจ้ากล้ามาทำการหลอกลวงกลางเมืองเลยเชียวหรือสมควรจับตัวส่งทางการแล้ว” หนึ่งในฝูงชนพูดขึ้น
“ใช่ หมอนี่กระทำการหลอกลวงอยู่ที่นี่ทั้งวัน ปกติคือรังแกผู้อ่อนแอกว่า วันนี้ถือว่าเจอของแข็งเข้าให้แล้ว”
“กล้ามาหาเรื่องบุตรสาวท่านแม่ทัพหลิวมิใช่หาเรื่องตายหรืออย่างไรนี่เจ้าไม่รู้หรือว่าท่านแม่ทัพหลิวรักบุตรสาวมากเพียงใด มะรืนกองทัพก็จะเข้าเมืองหลวงแล้วเจ้าช่างหาเรื่องตายนัก”
ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนรอบด้านแล้วคนผู้นั้นสีหน้าซีดเผือด กระอักกระอ่วนยิ่งนัก แทบอยากหาที่มุดหัวเข้าไป คิดจะหนี
แต่กลับโดนชายหนุ่มผู้หนึ่งคว้าจับคอเสื้อเอาไว้คนทั้งคนถูกหิ้วขึ้นเหมือนหิ้วลูกไก่ตัวน้อย “คิดหนีหรือช้าไปแล้ว"
“พี่ชายท่านนี้ไว้ชีวิตด้วย ข้าผิดไปแล้ว ต่อไปข้าไม่กล้าอีกแล้วข้าผิดไปแล้ว” คนผู้นั้นรีบอ้อนวอน
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าเหมือนจะลืมบอกเจ้าไปว่า ข้าเป็นพี่ชายของแม่นางทั้งสองที่เจ้าทำการใส่ร้ายวางแผนปล้นเงินหนึ่งหมื่นตำลึงนั่น
เจ้าคงจะไม่รู้จักข้าสินะ ข้าคือบุตรชายของคุณชายใหญ่อันกั๋วกง จากจวนตระกูลกั๋วกงแห่งแคว้นต้าเยี่ยนแห่งนี้
และสตรีสองนางนั้นคือน้องสาวของข้าสายตรงจากจวนกั๋วกงเชียว วันนี้เป็นโชคร้ายของเจ้าที่ทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้โดยไม่ดูตาม้าตาเรือข้าจะถือว่าเจ้าหาเรื่องตายเอง.."
"ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยผิดไปแล้วไว้ชีวิตด้วยเถิดคุณชาย"
ทันทีที่หญิงสาวทั้งสองเห็นผู้มาใหม่เป็นใครพวกนางก็พลันยกยิ้มกว้าง "พี่ใหญ่ส่งชายผู้นี้ให้ทางการเถิดเจ้าค่ะ"
"ใช่เจ้าค่ะ จับเขาเข้าคุกเลยจะได้ไม่ออกมาหลอกลวงผู้อื่นอีก" หญิงสาวทั้งสองพูดขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว
"ช้าก่อน!" หลิวเมิ่งหลีที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่พลันนึกอะไรขึ้นมาได้
“ก่อนที่จะส่งตัวเขาไปให้ทางการ เจ้านำเงินพวกนั้นที่เจ้าหลอกลวงมาไปคืนให้คนที่เจ้าหาเรื่องที่นี่ก่อนหน้านี้ให้หมด หากให้ข้ารู้ว่าเจ้าแอบหมกเม็ดเก็บไว้แม้แต่เบี้ยเดียวล่ะก็...." หลิวเมิ่งหลีลากเสียงยาว
“ไม่กล้าๆ คุณชายไว้ชีวิตด้วย ข้าคืนตอนนี้ คืนทั้งหมดเลย” คนผู้นั้นรีบอ้อนวอนทันที
ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ปรบมือและเยินยอหลิวเมิ่งหลี คุณชายใหญ่อันหวยหนานโยนคนผู้นั้นลงกับพื้นจากนั้นก็หันไปพูดกับชาวบ้านที่มุงดูว่า
“คนที่ก่อนหน้านี้ถูกเขาหลอกมาหาเขาได้ทั้งหมด หากเขากล้าไม่คืนเงิน พวกเจ้าก็ไปหาข้าที่จวนกั๋วกงข้ารับประกันว่าจะให้เขาเสียใจที่ไม่รักษาคำพูดกับข้า” อันหวยหนานแค่นเสียงเย็นบอก
จากนั้นเขาก็หันไปหาหญิงสาวทั้งสองแล้วพูดขึ้นว่า
“เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้วพวกเจ้าก็กลับเถอะ ต่อไปเจอเรื่องแบบนี้อีกอย่ายอมง่ายๆ ให้คนพวกนี้ฉวยโอกาสอีก"
"ใช่หากเจอคนประเภทนี้ให้ใช้แรงต้านแรง สมัยนี้มีแต่พวกชอบรังแกคนอ่อนแอกว่าทั้งนั้นหากพวกเขาเห็นเราตื่นกลัวก็ยิ่งจะได้ใจ”
หลิวเมิ่งหลียืนมือไพล่หลังมองเถ้าแก่ผู้นั้นนับเงินออกมาคืนคนที่โดนเขาหลอกลวงไปก่อนนี้ ปากก็เอ่ยกำชับ
“เข้าใจแล้ว จริงสิพี่ใหญ่หากพวกเราไม่ได้คุณหนูหลิวในวันนี้เรื่องเหล่านี้คงจะไม่คลี่คลายง่ายๆ คุณหนูหลิวพวกข้าขอบใจท่านมาก ข้าอันหลิงหยุนนี่น้องสาวของข้าอันหลิงหยวน ส่วนนี่..."
"พอแล้ว พูดมากกลับจวนได้แล้ว" อันหวยหนานไม่รอให้อันหลิงหยุนแนะนำตนเองให้กับหลิวเมิ่งหลีรู้จักเขาเอ่ยแทรกขึ้นเสียงดุดันพร้อมกับก้าวเดินจากไปทิ้งให้คนด้านหลังยืนงุนงง
"พี่ใหญ่เป็นอะไรไป?"
"นั่นสิ ปกติไม่เป็นเช่นนี้นะ!'
หลิวเมิ่งหลีหรี่ตามองตามแผ่นหลังอันเหยียดตรงของชายหนุ่มที่เดินจากไปไหล่ของนางก็ยกขึ้น
ภายในใจก็คิดได้ว่า เขาคงจะรังเกียจนางอีกคนล่ะสิ ไม่เป็นไรนางถือว่าได้รับรู้แล้วว่า เจ้าของร่างเดิมนี้ไม่มีสหายเลย ทะเลาะกับคนไปทั่วจนเกิดเรื่องน่าอับอายขึ้นไม่แปลกที่จะมีคนไม่ชอบหน้า
หลิวเมิ่งหลียกยิ้ม คุณหนูอันอย่าคิดมากเลยพวกเจ้าทั้งสองรีบกลับจวนเถอะประเดี๋ยวอันกั๋วจิ๋วกลับมาก็จะไม่พอใจได้ จ้าเองก็มีธุระต้องขอตัวก่อน"
หญิงสาวทั้งสองพยักหน้า "เช่นนั้นก็แยกกันตรงนี้บุญคุณในวันนี้พวกเราจำไว้แล้ว ขอบคุณคุณหนูหลิวมากจริงๆ"
หลังจากแยกจากกันหลิวเมิ่งหลีเดินมายังหอไห่สือโดยมีเหมยเหม่ยเดินตามมาติดๆ เรื่องเมื่อสักครู่เหมยเหม่ยเองก็ยังคงไม่อยากจะเชื่อ คุณหนูของนางเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เพื่อต้อนรับนายท่านคุณหนูถึงกับเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีเช่นนี้ช่างดียิ่งนัก
ทันทีที่เข้ามายังห้องส่วนตัวหลิวเมิ่งหลีก็ดูเมนูอาหาร ดูอยู่ครู่หนึ่งนางก็เอ่ยถามเสี่ยวเอ้อร์
"เอาอาหารที่อร่อยที่สุดมาให้ข้าสี่อย่างสุราไหหนึ่ง แล้วก็เต้าหู้ผัดมะเขือเทศมาด้วย"
"อะ เอิ่ม..คุณหนูท่านนี้ตะ เต้า เต้าหู้คืออะไรหรือขอรับ?" เสี่ยวเอ้องุนงง
หลิวเมิ่งหลีหยุดชะงัก "เจ้าไม่รู้จักเต้าหู้หรือ?" นางเอ่ยถามเสี่ยวเอ้อร์ พลางหันไปมองเหมยเหม่ย
เหมยเหม่ยกระพริบตา ส่ายหน้าแรงๆ หนึ่งทีหันมามองเสี่ยวเอ้อร์ก็พบว่าเขาเองก็ยังคงงุนงงอยู่
"เช่นนั้นเต้าหู้ผัดมะเขือเทศไม่เอา เอาแค่นั้นแหล่ะ"
"อ่า ขะขอรับ" เสี่ยวเอ้อเดินออกไปด้วยความงุนงง
เหมยเหม่ยเองก็อยากรู้ว่าอะไรคือเต้าหู้นางขยับเข้ามาใกล้หลิวเมิ่งหลีแล้วเอ่ยถาม "คุณหนูเจ้าคะ อะไรคือเต้าหู้เจ้าคะ?"
หลิวเมิ่งหลีกรอกตา "เอาเป็นว่าอร่อยมากประเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าทาน"
ทาน? เหมยเหม่ยกลืนน้ำลาย "ทานได้จริงหรือเจ้าคะ?"
คุณหนูของนางไม่เคยทำอาหารเลยนางจะทำเต้าหู้เป็นได้อย่างไรหรือต่อให้ทำเป็นก็ไม่แน่ว่าจะทานได้
จวนกั๋วกง
"ท่านย่าเจ้าคะข่าวลือเกี่ยวกับคุณหนูหลิวนั้นล้วนไม่เป็นความจริงเลยนะเจ้าคะ"
"ใช่แล้วเจ้าค่ะ นางทั้งงดงามทั้งจิตใจดี ฉลาดอีกด้วยเจ้าค่ะ วันนี้หากไม่ได้นางพวกข้าคงแย่แน่ๆ" อันหลิงหยุนกับอันหลิงหยวนต่างก็เล่าเหตุการณ์ในวันนี้ที่พบเจอมาให้ฮูหยินกั๋วกงผู้เฒ่าฟังอย่างละเอียด
หญิงชราพยักหน้าเบาๆ "เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเจ้าก็นำของไปที่จวนแม่ทัพหลินเพื่อขอบคุณนางอย่างเป็นทางการแล้วกัน"
อันหลิงหยุนดวงตาเป็นประกาย "จริงหรือเจ้าคะท่านย่า"
"อืม เดิมทีนางเติบโตมาได้ดีเพียงนี้ท่ามกลางบ่าวไพร่ในจวนก็ถือว่าดีมากแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ประจำอยู่ชายแดนหลายปีติดต่อกันหากกลับมาแล้วพบว่าบุตรสาวเพียงคนเดียวรู้ความก็คงจะดีใจไม่น้อย" หญิงชรากล่าว
อันหลิงหยุนขบเม้มริมฝีปาก "ท่านย่าเจ้าคะหากหยุนเอ๋ออยากเป็นสหายกับนางได้หรือไม่เจ้าคะ?"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะเจ้าเด็กคนนี้ หากเจ้าคิดว่านางน่าคบหาย่าก็ย่อมตามใจพวกเจ้าเอาล่ะนี่ก็ดึกมากแล้วย่าจะพักผ่อนแล้วพวกเจ้าก็กลับเรือนไปเถอะไป"
"เจ้าค่ะ!"
จวนแม่ทัพ
หลิวเมิ่งหลีตื่นแต่เช้าออกไปวิ่งรอบจวนโดยมีเหมยเหม่ยวิ่งตาม หลิวเมิ่งหลีหันหน้ากลับมามองเหมยเหม่ยโดยที่ขาของนางยังคงวิ่งถอยหลังไปเรื่อยๆ
"เหมยเหม่ยเจ้าต้องวิ่งทุกวันร่างกายของเจ้าจะได้แข็งแรง เร็วเข้าตามข้ามา"
"แค้กแค้ก คุณหนูเจ้าคะอาเหม่ยวิ่งไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูวิ่งก่อนเลยเจ้าค่ะ"
"ไม่ได้ๆ เจ้าต้องวิ่งให้ได้อย่างน้อยห้ารอบวันนี้มาเลยเร็วเข้า!"
หลิวเมิ่งหลีตะโกนเสียงดังก่อนจะวิ่งหัวเราะออกไปโดยมีเหมยเหม่ยโอดครวญอยู่ด้านหลัง
...