ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
แก้วขวัญชอบทานอาหารรสจัด แต่อาหารที่ซื้อแม่ค้าส่วนมากจะทำรสชาติกลางๆ ทำให้เธอชอบทำอาหารทานเองอยู่บ่อยๆ
“พวกเธอสองคนไปทำงานอื่นเถอะ ขอบใจมาก” ไตรภพไล่ทั้งสองคนทางอ้อม เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมายืนมองเวลาเขาทานอาหาร
“ให้กิ่งอยู่นะคะ เผื่อว่าคุณภพกับคุณแก้วอยากได้อะไร กิ่งจะได้บริการให้ไงคะ” กิ่งรีบเสนอตัวรับใช่ เพราะอยากทำความรู้จักกับหลานสาวของคนที่หล่อนแอบชอบ จะได้ทำคะแนนด้วย แต่ก็ต้องสิ้นหวังเพราะประโยคต่อมาของเจ้าของบ้าน ที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักขึ้น
“ไปเถอะ ไม่ต้องหรอก” นั่นจึงทำให้กิ่งกับฟ้าเดินออกมา แล้วไปทำงานของตัวเองต่อ โดยที่กิ่งรู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจอยู่พอสมควร
“ข้าต้องทำขนาดไหนวะ คุณภพถึงจะหันมามองข้าบ้าง” กิ่งพูดกับฟ้า เพราะหล่อนพยายามทำทุกอย่างให้กับไตรภพมาโดยตลอด แต่ไตรภพก็ไม่เคยเห็นในความดีของกิ่งเลยสักครั้ง
“เพ้อเจ้ออยู่ได้ แกน่ะเป็นแค่คนงานในสวนของเขา เขาคงไม่หันมามองแกหรอกเลิกฝันลมๆแล้งๆสักทีเถอะ” ฟ้าพูดอย่างเบื่อๆ ปนรำคาญ
“ไม่มีทาง ข้าไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆหรอก ตราบใดที่คุณภพยังไม่มีใคร ข้าก็ยังมีสิทธิ์หวัง” กิ่งพยายามบอกกับตัวเองว่าหล่อนยังสามารถหวังได้อยู่ ถึงจะหลอกตัวเองไปวันๆก็ตาม
“แล้วแต่เลยแล้วกัน ถ้างั้นข้าไปทำงานก่อนนะ” ฟ้าไม่เห็นด้วยเลยที่เพื่อนของเธอหวังอะไรที่ไม่เข้าท่า แต่พูดเท่าไหร่กิ่งก็ไม่ยอมฟัง
“รอด้วย...” กิ่งรีบเดินตามเพื่อนเข้าไปในไร่ เพราะคนงานที่นี่พอเสร็จจากงานของตัวเองที่ได้รับมอบหมายแล้ว ทุกคนจะต้องมาช่วยกันในสวน แล้วแต่ว่าใครจะชำนาญเรื่องอะไร ก็ไปทำหน้าที่ตรงส่วนนั้น เพราะว่าไตรภพคงไม่ได้จ้างคนมานั่งกินเงินเดือนอย่างเดียว เขาค่อยข้างดุ เพราะคนงานที่นี่ทุกคนก็มักจะกลัวและไม่เคยอู้ที่จะทำงานให้
“หิวเหรอ” ไตรภพนั่งมองคนตัวเล็กทาน ด้วยความเอร็ดอร่อยจนเพลินตา โดยที่แก้วขวัญเองไม่รู้เลยว่า ระหว่างที่เธอกำลังทานอยู่นั้นมีคนแอบมองอยู่ แล้วก็อมยิ้มด้วย
“ค่ะ อร่อยด้วย” แก้วขวัญตักอาหารเข้าปาก คำแล้วคำเล่าโดยที่ไม่ได้สนใจมองคนตรงข้ามเลยแม้นแต่น้อย เธอสนใจแค่อาหารตรงหน้าเท่านั้น
“ค่อยๆกินก็ได้ อาไม่แย่งเรากินหรอก” ทุกๆวันไตรภพมักจะนั่งทานอาหารคนเดียวเวลาอยู่ที่บ้าน เขารู้สึกเบื่ออาหารรสชาติเดิมๆเหลือเกิน แต่ก็ต้องกิน เพราะว่าเขาไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร แต่พอมาเห็นแก้วขวัญทานอาหารมื้อนี้ อาหารที่เขาแสนจะเบื่อ แต่กลับมีคนทานมันอย่างเอร็ดอร่อย
“อย่าลืมทุเรียนนะคะ” เรื่องกินขอให้บอก เธอสู่ตาย แก้วขวัญเป็นคนทานเก่งแต่เธอก็ไม่อ้วนสักที ตัวเล็กเอวบาง ไม่รู้กินแล้วเอาไปไว้ตรงไหนหมด
“โอ้โหทานข้าวยังไม่ทันอิ่มเลย ทวงทุเรียนอาและ”
ไตรภพเป็นชาวสวนผลไม้ ปลูกผลไม้ผสมผสานมีพื้นที่หลายร้อยไร่ได้จากมรดกส่วนหนึ่งและซื้อเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง แต่ผลผลิตก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
เขาจึงพลิกผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าคนกลางด้วย ปลูกเองและรับซื้อจากสวนข้างๆเอาไปส่งตลาดที่ต้องการด้วย ไตรภพจึงจำเป็นที่จะต้องมีลูกน้องที่ประจำอยู่ในสวนและจ้างเป็นรายวัน แล้วแต่หน้างานว่าช่วงนั้นจะมีงานมากหรืองานน้อย
ภายในสวนของไตรภพที่นอกจากจะปลูกทุเรียนแล้ว ก็ยังมีเงาะ ลำไย ลองกอง มังคุด ลิ้นจี่และอื่นๆอีกหลายชนิด ผลไม้บางชนิดออกผลผลิตไม่พร้อมกัน เขาจึงพยายามปลูกให้หลากหลายเพื่อที่จะได้มีเก็บขายทั้งปี และแนะนำสวนข้างๆให้ทำแบบเดียวกัน
ไตรภพจึงมีคนงานในไร่จำนวนหนึ่ง เอาไว้คอยช่วยเขาทำงาน มีทั้งกำจัดวัชพืช เก็บผลไม้ไปส่งตลาด ใส่ปุ๋ย ลดน้ำ พรวนดิน และยังมีตอนกิ่งผลไม้ขายเป็นต้นด้วย ปุ๋ยบางส่วนที่ใช้ในสวนก็ทำเองด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าทำครบวงจรเลยทีเดียว
“เดี๋ยวคุณอาลืม แก้วก็แค่เตือนๆไว้”
“อาไม่ลืมหรอกน่า อิ่มแล้วเข้าไปเที่ยวในสวนกันไหม” ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คุณอาอย่างเขาก็อยากจะชวนเธอไปเปิดหูเปิดตา และก็จะได้แนะนำให้คนงานในสวนรู้จักไปด้วยเลย
“เอาสิคะ คุณอาใจดีจังเลย” เมื่อทั้งสองทานอาหารกันอิ่มแล้ว กำลังเตรียมตัวที่จะพากันเข้าสวน
“ไปขึ้นรถ...” ไตรภพกำลังจะพาหลานสาวเข้าไปเที่ยวในสวน แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดตรงที่ไตรภพยืนอยู่พอดี
“คุณภพขา...กำลังจะไปไหนกันเหรอคะ”