บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

“คุณภพขา...กำลังจะไปไหนกันเหรอคะ” ทับทิมเจ้าของร้านเสริมสวยที่ชอบแวะมาทอดสะพานให้กับไตรภพเจ้าของสวนผลไม้อยู่บ่อยครั้ง แต่ไตรภพก็ไม่เคยเล่นด้วย จึงได้แต่คุยกันแบบเพื่อนบ้านเท่านั้น

ส่วนทับทิมเองหล่อนก็วางตัวดี เพราะเป็นแม่ม่ายผัวตายมาหลายปี ถูกใจหนุ่มเจ้าของสวนเข้า แต่ก็ไม่กล้าแสดงอาการมากจนเกินไปว่าชอบ เจอหน้าก็ได้แต่ชวนคุยบ้าง ซึ่งไตรภพเองก็รักษามารยาทเป็นอย่างดี

“อ้าว นึกว่าใครเจ้คนสวยประจำหมู่บ้านนี่เอง” เรื่องความสวยต้องยกให้เจ้เขา เพราะว่าหล่อนเป็นช่างเสริมสวย แล้วก็มีอยู่แค่ร้านเดียวในหมู่บ้านด้วย

“แล้วเด็กคนนี้ใครเอ่ย” ทับทิมแวะมาคุยกับไตรภพอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยเห็นเด็กสาวคนนี้เลยสักครั้งจึงเอ่ยถามขึ้น

“หลานสาวของผมเองครับ เธอชื่อแก้วขวัญ” ไตรภพแนะนำหลานสาวให้กับเจ้ทับทิมรู้จัก แล้วหันไปแนะนำเจ้ทับทิมให้แก้วขวัญรู้จักด้วย

“แก้ว...นี่เจ้ทับทิม ช่างเสริมสวยประจำหมู่บ้านของเรา”

“สวัสดีค่ะ คุณอา” แก้วขวัญยกมือไหว้ผู้ใหญ่ ที่ดูๆแล้วอายุน่าจะมากกว่าคุณอาของเธอด้วยซ้ำ

“โอ๊ยน่าเอ็นดู สวัสดีจ้า แล้วกำลังจะไปไหนกันเหรอจ๊ะ” เจ้ทับทิมเอ่ยถามอีกครั้ง เพราะเมื่อสักครู่นี้ยังไม่ได้คำตอบ

“เข้าป่าครับ” ป่าที่ไตรภพพูดถึงก็คือสวนผลไม้ของเขานั่นเอง ที่พูดว่าป่าเพราะว่าบางทีมันก็รก แล้วพื้นที่เป็นร้อยๆไร่ ถ้าคนไม่ชินทางก็อาจจะหลงกันได้ เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้ทั้งนั้น

“คุณอาของแก้วหมายถึงเข้าสวนค่ะ” แก้วขวัญรีบแก้ต่างให้กับคุณอาของเธอ เพราะคำว่าป่าที่คุณอาพูดถึงเมื่อสักครู่ มันทำให้คุณอาผู้หญิงมองคุณอาไตรภพของเธอแปลกๆ คล้ายกับจะสื่อความหมายอะไรกันสักอย่าง

“อ้าวเหรอ นึกว่าเข้าป่าจริงๆ เจ้อยากเข้าป่าด้วยจัง แต่ถ้าเข้าสวนก็ไปกันเถอะ เอาไว้วันหลังเดี๋ยวเจ้จะแวะมาคุยด้วยใหม่ ไปก่อนนะคะเด็กน้อย” ทับทิมพูดกับไตรภพเสร็จ ก็หันมาพูดกับแก้วขวัญ แล้วเจ้แกก็ขับรถออกไปเลย

“เด็กน้อย...” แก้วขวัญพึมพำกับตัวเองรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นักที่ใครๆชอบมองว่าเธอเป็นเด็กเสมอ เธอโตแล้วแล้วด้วย

คุณอาคนเมื่อสักครู่หน้าอกใหญ่เป็นบ้าเลย แก้วขวัญก้มมองหน้าอกของตัวเองบ้าง เธอรอให้มันโตกว่านี้ แต่มันก็โตสุดได้แค่นี้ หรือเด็กกับผู้ใหญ่เขาจะวัดกันตรงนี้นะ…แก้วขวัญแอบคิดในใจคนเดียว รู้สึกเคียงๆตัวเองอยู่ไม่น้อย

“มองอะไรน่ะ ขึ้นรถสิ” เสียงของคุณอาทำให้แก้วขวัญออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง เธอขึ้นไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับ แล้วรถก็ค่อยๆเคลื่อนออกไป

“คุณอาขา...คุณอาว่าแก้วโตหรือยังคะ” แก้วขวัญยังติดใจเรื่องนี้ไม่หายจึงเอ่ยถามคุณอาของเธอขึ้น

“ก็ต้องโตแล้วสิ ทำไมเหรอ” ไตรภพตอบ พลางทำหน้าที่ขับรถไปตามถนนเล็กๆเข้าไปในสวนเรื่อยๆ

“ทำไมคนอื่นๆ ชอบมองว่าแก้วเป็นเด็กอยู่เรื่อยคะ” เธอตะแคงคอถามคุณอาของเธออย่างน่ารัก

“หมายถึงเจ้ทับทิมเมื่อกี้น่ะเหรอ” ที่จริงก็ไม่ใช่แค่คุณอาทับทิมเมื่อกี้หรอก แต่ยังมีคุณพ่อของเธอด้วย

“หมายถึงทุกคนนั่นแหละค่ะ...”

“อ้าวไอ้นี่ แล้วทำไมมองอาแบบนั้น” แก้วขวัญแอบคิดว่าคุณอาของเธอ ก็คงคิดไม่ต่างจากคนอื่นๆด้วย

“ว่าแต่ คุณอาคนเมื่อกี้เขามาหาคุณอาทำไมคะ”

“แวะมาคุยเฉยๆตามประสาบ้านใกล้เรือนเคียงน่ะ” สังคมชนบทกับสังคมคนกรุงเทพ มักจะแตกต่างกัน ซึ่งแก้วขวัญก็ไม่ค่อยจะเข้าใจนัก เพราะเธอเกิดและโตที่กรุงเทพ ผู้คนส่วนมากมักจะต่างคนต่างอยู่ ถ้าไม่มีธุระก็จะไม่สุงสิงกัน เธอโตมาแบบนั้น

“แต่ทำไมแก้วรู้สึก...” แก้วขวัญกำลังช่างใจว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี เพราะแก้วขวัญรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น ก็สายตาของคุณอาทับทิมที่มองมาที่คุณอาของเธอ แตกต่างจากสายตาที่มองมาที่เธออย่างสิ้นเชิง

“รู้สึกอะไร” และในขณะนั้นเองรถที่แก้วขวัญนั่งอยู่ก็แล่นไปเลื่อยๆ สองข้างทางของถนนเล็กๆ เต็มไปด้วยผลไม้สุกแดงเต็มต้น ทำให้แก้วขวัญหันไปสนใจสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้ามากกว่า

“เปล่าค่ะ โอ้โหลิ้นจี่ดกมาก...เต็มต้นเลย แก้วอยากปีนขึ้นไปเก็บจัง” แก้วขวัญรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็น เพราะไม่ว่าจะมองไปที่ต้นไหน ลูกผลไม้ก็ดกเต็มต้นแทบทุกต้น เธอรู้สึกชอบที่นี่เข้าแล้วสิ

“ไหวเหรอ ถ้าอยากกินเดี๋ยวให้ไอ้จอมกับไอ้ผามันมาปีนให้” ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่จริงผลไม้พวกนี้ก็ถูกเก็บเกือบทุกวันอยู่แล้ว แต่ในเมื่อหลานสาวอยากจะชิมสดๆบนต้น เขาก็ไม่อยากขัด ไตรภพเห็นสีหน้าของเธอเวลาตื่นเต้นที่ได้เห็นผลไม้พวกนี้ คุณอาอย่างเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย

“ดีค่ะๆ น่าสนุกจังเลย” และการกระทำของเธอที่ดูตื่นเต้นยิ่งกว่าเด็กแถวนี้ เพราะเด็กแถวนี้เห็นผลไม้พวกนี้ก็จะเฉยๆ แต่เธอนี่สิ ออกอาการมากจนคุณอาอย่างเขาอดที่จะขำไม่ได้

“เดี๋ยวอาพาไปกินทุเรียนก่อน อาให้คนงานปอกรอไว้แล้ว” ก่อนที่เขาจะพาหลานสาวออกจากบ้านมา เขาได้โทรมาสั่งให้คนงานปอกทุเรียนไว้รอเธอเรียบร้อยแล้ว

“โอ้ยดีใจ คุณอาใจดีจังเลย” น้ำเสียงออดอ้อนเล็กๆเสียงนี้ ทำให้ไตรภพรู้สึกเอ็นดูเธอยิ่งขึ้น แต่ยังไม่พอแค่นั้น แก้วขวัญตะแคงคอมาซบที่หัวไหล่ของเขาอีก โดยที่เธอไม่ได้คิดอะไร เพราะปกติเวลาที่เธออยู่กับคุณพ่อของเธอ เธอก็มักจะอ้อนคุณพ่อของเธอแบบนี้เสมอ

“นี่ๆให้มันน้อยๆหน่อย เป็นสาวเป็นแซ่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel