บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เริ่มงานวันแรก

หลังจากที่กินข้าวกับพ่อแม่แล้ว แผ่นดินก็ขึ้นมาอาบน้ำเพื่อพักผ่อน และตอนนี้เขาอยู่บนเตียงโดยในมือมีเอกสารใบสมัครงานของภูพิงค์อยู่ด้วย

"นางสาวภูพิงค์ เชาวกรไพศาล อายุ 22 ปี จบคณะนิเทศศาสตร์ เกียรตินิยมเหรียญทองอันดับหนึ่ง อะไรจะทั้งสวยทั้งเก่งขนาดนี้ แต่เอ๊ะ ทำไมนามสกุลคุ้น ๆ นะ เดี๋ยวขอเช็กดูหน่อยดีกว่า" ปากหยักพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเอาชื่อและนามสกุลของภูพิงค์ไปค้นหาในกูเกิ้ล ไม่นานเขาก็มีข้อมูลของเธอ

"อืมมมม น่าสนใจ ว่าแต่ทำไมเป็นถึงลูกคุณหนูบ้านรวย พ่อและพี่ชายฝาแฝดมีสนามแข่งรถและโชว์รูมตั้งหลายแห่ง แล้วมาสมัครทำงานที่ DD Event Planner ทำไมนะ" แผ่นดินเลื่อนจอโทรศัพท์ในมือไปมาและพูดกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจในความต้องการของอีกคน

"แต่ไม่เป็นไร ถ้ามาดีก็ยินดีต้อนรับ แต่ถ้ามาแบบมีอะไรแอบแฝง เดี๋ยวจะรู้จักแผ่นดินคนนี้มากขึ้นเอง หึ" แผ่นดินพูดกับรูปของภูพิงค์ที่โชว์อยู่หน้าจอโทรศัพท์ของเขาพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

เช้าวันต่อมา...

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวและทานอาหารเช้าเสร็จ ภูพิงค์ก็เดินทางมาถึงบริษัท DD Event Planner ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ทำงานจริง ๆ ครั้งแรก

"สวัสดีค่ะ น้องภูพิงค์ใช่มั้ยคะ" เมื่อเดินเข้ามาก็มีหญิงสาวคนหนึ่งทักทายเธอทันที

"สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ ภูพิงค์หรือพิ้งค์เองค่ะ" ภูพิงค์ยกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้หญิงสาวคนนั้น

"น่ารักจัง พี่ชื่อพี่แหวนนะคะ เป็นหัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ ที่น้องพิ้งค์จะมาทำงานด้วย ยินดีต้อนรับนะคะ" แหวนยิ้มให้กับพนักงานใหม่และแนะนำตัวออกไป

"ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะคุณแหวน มีอะไรให้พิ้งค์ทำบอกได้เลยนะคะ หรือถ้าพิ้งค์ทำอะไรไม่ถูกไม่ควร ก็ตักเตือนได้เลยนะคะ พิ้งค์พร้อมที่จะปรับปรุงค่ะ" ภูพิงค์เอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม เมื่อรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าคือหัวหน้างานของเธอ

"ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคงว่าคุณหรอกค่ะ เรียกพี่ว่าพี่แหวนก็พอ งั้นเรามาตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่จะบอกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง" แหวนพูดออกมาอย่างคนใจดีและเรียกภูพิงค์มาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

แต่ทว่าในจังหวะนั้น ก็มีเสียงที่ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนต้องหันไปมอง

"สวัสดีครับ ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้มาสายใช่มั้ยครับ" แผ่นดินเดินเข้ามาในบริษัทด้วยท่าทางรีบร้อน

"คุณ !! ดีใจจังเลย คุณก็ได้ทำงานที่นี่เหมือนกันใช่มั้ยคะ แล้วทำแผนกอะไรคะ" ภูพิงค์เห็นว่าเป็นชายหนุ่มที่เธออวยพรให้เขาได้งานทำเมื่อวาน ก็ยิ้มกว้างออกมาและถามออกไปอย่างยาวเหยียด

'หึ ถามไม่มีช่วงให้ตอบเลยนะแม่คุณ' แผ่นดินคิดในใจแต่ก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ แบบเด็กเนิร์ด

"ครับ ผมได้ทำงานที่นี่ครับ ขอบคุณนะครับสำหรับคำอวยพรเมื่อวาน ผมชื่อแผ่นดินครับ เรียกดินก็ได้ครับ แล้วคุณ..." แผ่นดินแนะนำตัวและทิ้งท้ายประโยคไว้

"ฉันชื่อภูพิงค์ หรือเรียกว่าพิ้งค์ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ" ภูพิงค์พูดออกมาอย่างดีใจโดยยื่นมือไปจับมือของเด็กเนิร์ดเขย่าเบา ๆ อย่างลืมตัว

"ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" แผ่นดินอึ้งไปกับการทักทายของเธอ เขามองมือใหญ่ของตัวเองที่อยู่ในสองมือนุ่มนิ่มของภูพิงค์ จนทำให้เธอรู้สึกตัวและยอมปล่อยมือเขา

"แฮะ ๆ ขอโทษนะคะ พิ้งค์ดีใจไปหน่อย" ภูพิงค์เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มแห้ง ๆ

"ไม่เป็นไรครับ" แผ่นดินตอบกลับพร้อมกับยกมือข้างนั้นไปจับแว่นตาเบา ๆ เหมือนกำลังขยับแว่นตาแก้เขิน

"เอ๋ ดูท่าทางพี่ดินจะเป็นพี่ของพิ้งค์นะคะ งั้นพิ้งค์เรียกพี่ว่าพี่ดินนะคะ" ภูพิงค์มองท่าเขินอายนั้นอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยต่อ

"ครับ ๆ เรียกว่าพี่ดินก็ได้ครับ งั้นพี่เรียกน้องพิ้งค์นะครับ" แผ่นดินยิ้มออกมาเมื่อหญิงสาวเรียกเขาว่าพี่ดิน

'อยากมีน้องสาวมานานแล้วโว้ย แต่ขอเป็นแบบพี่น้องท้องติดกันได้มั้ยวะ หึ' แผ่นดินคิดในใจ

"เอาล่ะ ๆ ในเมื่อรู้จักกันแล้ว ก็ตามพี่มา เดี๋ยวเรามาเซ็นสัญญากัน พี่จะพาไปรู้จักกับทีมงานของเราอีกคน ตอนนี้เขาน่าจะรออยู่ที่ห้องทำงานของพี่แล้ว" แหวนที่ยืนฟังทั้งสองทักทายกันพอหอมปากหอมคอแล้วก็เอ่ยขึ้น

"ไปค่ะ พิ้งค์พร้อมแล้ว" ภูพิงค์พูดขึ้นอย่างสดใส

หลังจากนั้นแหวนก็พาทั้งสองคนเดินไปที่ห้องทำงานของเธอ

"อ้าว แล้วอีกคนไปไหนล่ะ แต่ช่างเถอะ เราสองคนมาฟังรายละเอียดงานคร่าว ๆ ก่อนดีกว่า งานของเราก็คือการจัดการทำงานตามที่ฝ่ายการตลาดรับงานมา บริษัท DD Event Planner ของเรา จะทำงานด้านการรับจัด Event ต่าง ๆ ตามชื่อบริษัทเลยจ้ะ มีทั้งงานเปิดตัวสินค้า งานเปิดโรงแรม จัดการประชุมต่าง ๆ รับจัดงานแต่งงาน เรียกว่าเรารับจัดงานทุกอย่างเลยล่ะ ซึ่งแผนกของเราก็จะเข้าไปช่วยด้านการประชาสัมพันธ์เท่านั้น ส่วนงานอื่นก็มีแผนกอื่นดูแลกันไป มีดินเข้ามาช่วยก็ดีเหมือนกันนะ เป็นผู้ชายคนเดียวในแผนก เผื่อจะได้ประสานงานกับผู้ชายแผนกอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น"

"ได้ครับพี่แหวน" แผ่นดินพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเนิร์ด ๆ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก~

ระหว่างที่แหวนกำลังอธิบายเกี่ยวกับขอบเขตของงานอยู่นั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้เธอชะงักไปและเอ่ยอนุญาตคนที่อยู่ด้านนอก

"เข้ามาค่ะ"

"สวัสดีค่ะพี่แหวน ขอโทษนะคะที่มาสาย" หญิงสาวที่มาใหม่พูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้แหวน ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษ

"ไม่เป็นไร นี่ก็ยังไม่ถึงเวลางานเลย เป็นพี่เองที่นัดให้มาแต่เช้า เพราะวันนี้เราจะมีเพื่อนร่วมงานใหม่ พี่เลยอยากให้มาคุยกันก่อนเริ่มงาน" แหวนโบกไม้โบกมือไปมาอย่างที่ไม่ให้คนมาใหม่กังวลใจ ก่อนจะหันมาที่ภูพิงค์กับแผ่นดิน แล้วพูดขึ้นมาอีกครั้ง

"ดิน พิ้งค์ นี่ทับทิมนะ เป็นเพื่อนร่วมงานของเรา ส่วนทับทิมนี่ดิน น่าจะอายุพอ ๆ กันกับทับทิม น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน ส่วนนั่นน้องพิ้งค์ รู้จักกันไว้นะ" แหวนแนะนำทั้งสามคนให้รู้จักกัน

"สวัสดีค่ะ/ครับ" แผ่นดินกับภูพิงค์ทักทายทับทิมพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แผ่นดินทำเพียงพยักหน้าทักทาย ส่วนภูพิงค์ยกมือไหว้พร้อมกับรอยยิ้ม

"โอ้โห พี่แหวน ประชาสัมพันธ์เขาต้องเน้นหน้าตาไม่ใช่เหรอคะ น้องพิ้งค์นี่ผ่านค่ะ แต่คนนี้อะไรกันเนี่ย เสื้อผ้าหน้าผมไม่ผ่านเลย ใส่แว่นตาหนาเตอะ แถมผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงอย่างกับไปฟัดกับหมามา แบบนี้ทับทิมว่า ไม่ผ่านนะคะพี่แหวน" เมื่อทับทิมเห็นเด็กใหม่ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกยังไงทันที

"แต่พี่ดินก็แต่งตัวดูดีนะคะ สะอาดสะอ้านดี แล้วทรงผมมันก็เป็นสไตล์ค่ะ ไม่ได้ยุ่งเหมือนไปฟัดกับหมาที่ไหนอย่างพี่ทับทิมว่าสักหน่อย" ภูพิงค์ที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ถึงกับของขึ้น จึงได้ตอบกลับไปอย่างปกป้องเด็กเนิร์ด ของเธอทันที

'นี่สภาพกูเหมือนไปฟัดกับหมามาขนาดนั้นเหรอวะ' แผ่นดินที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่คิดในใจ เขาไม่รู้ว่าจะภูมิใจหรือรู้สึกยังไงที่ภูพิงค์พูดแบบนั้น

"นั่นมันก็ใช่ แต่ First Impression อะ เข้าใจมั้ยจ๊ะ น้องพิ้งค์ ใคร ๆ เขาก็ชอบมองของสวย ๆ งาม ๆ ดูดีทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่เด็กเนิร์ดแว่นหนาผมยุ่งแบบนี้" ทับทิมเห็นภูพิงค์ออกหน้าแบบนั้นก็พูดออกมาอย่างเหยียด ๆ

"เอาล่ะ ๆ ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าแผ่นดินผ่านการสัมภาษณ์มาได้ แสดงว่าฝ่ายบุคคลต้องพิจารณามาดีแล้ว ทับทิมก็ต้องให้โอกาสเพื่อนได้ทำงานก่อน แล้วค่อยมาตัดสินใจว่าเขาจะทำงานได้หรือทำงานไม่ได้ แต่ตอนนี้ถึงเวลางานแล้ว เราออกไปทำงานกันดีกว่า ยิ้มไว้นะจ๊ะเด็ก ๆ" แหวนที่เห็นว่ากำลังจะเกิดสงครามย่อม ๆ เธอก็รีบตัดบททันที พร้อมกับเดินนำหน้าออกไปข้างนอกเพื่อทำงาน

"ไปค่ะพี่ดิน ไม่ต้องคิดมากนะคะ มันก็แค่สไตล์" ภูพิงค์ตบมือลงที่ไหล่ของแผ่นดินเบา ๆ อย่างปลอบใจ

"ขอบคุณนะครับน้องพิ้งค์ ที่เข้าใจพี่" แผ่นดินยิ้มกว้างออกมาเมื่อถูกสาวปกป้อง แม้ว่ามันจะฟังดูแปลก ๆ ก็ตาม

"ชิ สไตล์หรือแต่งตัวไม่เป็นกันแน่ยะ" ทับทิมเบะปากพูด พร้อมกับสะบัดหน้าเดินกระแทกเท้าตามแหวนออกไป

"ไปกันค่ะ ยิ้มไว้นะคะ แบบนี้ค่ะ" ภูพิงค์ตบไหล่แผ่นดินอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มหวานให้เขาแล้วเดินนำหน้าเขาไปอีกคน

"เฮ้อ จะรอดมั้ยวะเนี่ย วันแรกก็ดูท่าจะมีสงครามซะแล้ว" หลังจากที่ทุกคนเดินออกไปแล้ว แผ่นดินก็ถอดแว่นออก พร้อมกับเสยผมให้เข้าทรงมากกว่าเดิม ก่อนจะสวมแว่นแล้วเดินออกไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel