บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ได้งานทำแล้ว

บ้านเชาวกรไพศาล

หลังจากที่ไปสมัครงานมาแล้ว ภูพิงค์ก็มานอนไถโทรศัพท์เล่นแก้เบื่อ ทางบริษัทบอกว่าถ้ายังไงหากรับเธอเข้าทำงานจะโทรมาแจ้งภายในเวลาไม่เกินสองวัน ซึ่งภูพิงค์ก็คิดว่าดีเหมือนกัน ถ้าได้ก็ทำ ถ้าไม่ได้ก็กลับไปช่วยงานของพ่อก็ได้

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง~

จังหวะที่เธอวางโทรศัพท์ลงและจะนอนดูซีรีย์นั้น โทรศัพท์เครื่องหรูก็ดังขึ้น ภูพิงค์จึงรีบหยิบมาดูทันที

"เบอร์ใครแปลก ๆ ใช่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ปะวะ" ภูพิงค์เห็นเบอร์แปลก ๆ ก็ไม่กล้ากดรับ เพราะตอนนี้คอลเซ็นเตอร์ระบาด เธอจึงกดตัดสายและวางโทรศัพท์ลงเหมือนเดิม

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง~

แต่พอจะเอนตัวลงนอนดูทีวี เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ภูพิงค์หยิบมาดู เห็นเป็นเบอร์เดิมก็ขมวดคิ้วแน่น แต่เมื่อคิดอะไรได้ก็รีบกดรับทันที แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกไปนอกจากคำว่า...

"สวัสดีค่ะ"

'สวัสดีค่ะ นี่ใช่เบอร์โทรของคุณภูพิงค์ เชาวกรไพศาล หรือเปล่าคะ' เสียงผู้หญิงดังออกมาและดูท่าจะเป็นคนที่พูดจาชัดถ้อยชัดคำ ไม่เหมือนชาวต่างชาติ ภูพิงค์เลยตัดสินใจตอบกลับไป

"ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าโทรมาจากที่ไหนคะ"

'ฉันโทรมาจาก DD Event Planner ที่คุณมาสมัครงานเมื่อเช้านี้ค่ะ ฉันจะมาแจ้งว่าทางบริษัทรับคุณเข้าทำงานตามที่คุณมาสมัครไว้นะคะ ส่วนเงินเดือนก็จะให้ตามที่ทางคุณเรียกมา ไม่ทราบว่าคุณภูพิงค์จะสะดวกเริ่มงานวันไหนคะ พอดีตอนนี้เรามีโปรเจกต์ใหม่ค่ะ เลยอยากให้เริ่มงานเลย ไม่ทราบว่าสะดวกมั้ยคะ' พนักงานที่โทรมาเอ่ยบอกอย่างมืออาชีพ

"จริงเหรอคะ พิ้งค์พร้อมจะเริ่มงานทันทีเลยค่ะ พรุ่งนี้พิ้งค์เข้าไปที่ DD Event Planner ได้เลยใช่มั้ยคะ" ภูพิงค์ถามออกไปด้วยความดีใจ และเผลอแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นอย่างน่ารัก

'จริงค่ะ งั้นพรุ่งนี้คุณภูพิงค์เริ่มงานได้เลยนะคะ รบกวนมาแต่เช้าหน่อย ก่อน 8 โมงเช้าได้มั้ยคะ เพราะเราต้องมาเซ็นสัญญากันก่อนเริ่มงาน' พนักงานในสายหัวเราะเบา ๆ กับความดีใจของภูพิงค์ และการพูดก็ผ่อนคลายขึ้น

"ได้ค่ะได้ พรุ่งนี้พิ้งค์จะเข้าไปแต่เช้าเลยค่ะ" ภูพิงค์พูดไปพยักหน้าไป ตามความเคยชิน แม้อีกฝ่ายจะไม่เห็นก็ตาม

'โอเคค่ะ งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์นะคะ วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ' พนักงานทวนด้วยการสรุปใจความทั้งหมด

"ค่ะ ๆ สวัสดีค่ะ" ภูพิงค์ยังพยักหน้าใส่โทรศัพท์เป็นไก่จิกแล้ววางสายไป จากนั้น...

"กรี๊ดดดดดดด ฉันได้งานแล้ว" ภูพิงค์วางโทรศัพท์ลงแล้วกรีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ

"คุณแม่ คุณแม่ ต้องไปบอกคุณแม่"

พูดกับตัวเองจบ ภูพิงค์ก็รีบวิ่งลงไปข้างล่างเพื่อบอกข่าวดีให้แม่รู้

"คุณแม่ขา คุณแม่..." วิ่งลงไปถึง ก็ไปนั่งข้าง ๆ พลอยดาวที่พึ่งกลับมาจากข้างนอกพร้อมกับภู

"อะไรลูกพิ้งค์ ร้องเสียงดังลั่นบ้าน จนแม่ตกใจแล้วเนี่ย มีอะไร" พลอยดาวที่ตกใจกับเสียงกรีดร้องของลูกสาวก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความโล่งใจที่ลูกสาวไม่ได้เป็นอะไร แถมยังมีรอยยิ้มอยู่เต็มใบหน้า

"คุณแม่ขา พิ้งค์ได้งานทำแล้วค่ะ DD Event Planner พึ่งโทรมาแจ้งว่าเขารับพิ้งค์เข้าทำงานแล้ว ให้เงินเดือนตามที่พิ้งค์เรียกไป และให้เริ่มงานพรุ่งนี้เลย คุณแม่ดีใจกับพิ้งค์มั้ยคะ" ภูพิงค์พูดออกมาอย่างดีใจ เธอพูดไปยิ้มไปเพราะมีความสุข

"เก่งจังเลยลูกสาวแม่ ดีใจด้วยนะคะ" พลอยดาวลูบหัวลูกสาวของเธอและยิ้มไปด้วย ลูกมีความสุขคนเป็นแม่ก็มีความสุขไปด้วย

"พ่อดีใจด้วยนะ แต่ตามสัญญานะลูกพิ้งค์ พ่อให้เวลาพิ้งค์ไปหาประสบการณ์แค่ 3 เดือน หลังจากนั้นต้องกลับมาทำงานกับพ่อ" ภูที่นั่งอยู่ด้วยก็พูดขึ้นทันที ตอนแรกเขาภาวนาให้ลูกไม่ได้งานด้วยซ้ำ เขาไม่อยากให้ลูกสาวไปทำงานไกลสายตาของเขา เขาหวง...

'ค่าาา พ่อย้ำตั้งหลายรอบแล้วนะคะ พิ้งค์จำได้แล้วน่า" ภูพิงค์ค้อนใส่พ่อด้วยใบหน้าแง่งอน ก่อนจะอมยิ้มและคิดในใจ '3 เดือนมันจะพออะไรคะคุณพ่อ ถ้าสามปีล่ะไม่แน่ คริคริ'

"ก็พ่อไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกไปทำงานกับใคร พ่ออยากให้ลูกไปทำงานกับพ่อมากกว่า ลูกสาวของพ่อภู ไม่เห็นต้องไปเป็นลูกน้องใครเลย" ภูยังคงไม่อยากให้ลูกสาวไปทำงานที่อื่นอยู่ดี

"คุณพ่อคะ พิ้งค์ว่าเราคุยเรื่องนี้กันจบไปแล้วนะคะ แล้วตอนนี้พิ้งค์ก็ได้งานแล้วด้วย พิ้งค์จะไปทำงานที่ DD Event Planner ค่ะ" ภูพิงค์นั่งกอดอกทำปากขมุบขมิบและทำหน้าบึ้งใส่คนเป็นพ่อ

"ก็พ่อ..."

"คุณแม่ขา คุณแม่พูดกับพ่อให้พิ้งค์หน่อยสิคะ" ภูยังพูดไม่จบ ภูพิงค์ก็เปลี่ยนโหมดมาเป็นกอดเอวแม่ไว้แล้วเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนทันที จนพลอยดาวส่งสายตาและเสียงเขียว ๆ ไปหาสามี

"พี่ภู..." พลอยดาวเรียกภูด้วยเสียงต่ำและส่งสายตากดดันออกไป

"ครับ ๆ โอเคครับ ตามนั้นครับ ตอนนี้พี่ว่าเราไปกินข้าวกันดีมั้ยครับ พี่หิวแล้ว" ส่วนภูที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้ารับทันที พร้อมกับเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน แค่เห็นสายตาของพลอยดาวเขาก็รู้แล้วว่า 'รักชีวิต อย่าคิดสู้เมีย'

"แล้วไป งั้นไปค่ะ ไปกินข้าวกัน" พลอยดาวตอบและยิ้มหวานให้สามีพร้อมกับเดินไปที่ห้องอาหารพร้อมกัน

(แผ่นดิน)

ตอนนี้แผ่นดินกลับมาถึงบ้านแล้ว และกำลังนั่งคุยกับพ่อและแม่ของเขาที่ห้องนั่งเล่น

"นี่คุณรู้มั้ย ลูกชายของคุณที่บอกว่าอยากไปสมัครงานเงียบ ๆ ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นลูกเจ้าของบริษัท แต่ไม่ถึงวันก็ใช้อภิสิทธิ์แล้วนะ" ธนพลพูดกับภรรยาประมาณกึ่งเล่าให้ฟังกึ่งฟ้อง

"ทำไมลูก ดินไปทำอะไรเหรอ" กนกพรได้ยินอย่างนั้นก็ถามลูกชายทันทีด้วยความอยากรู้

"โธ่~ พ่อครับ นิดหน่อยเอง ผมก็แค่ขอให้พ่อแจ้งฝ่ายบุคคลให้รับพนักงานเพิ่มแค่หนึ่งคนเองครับ ไม่มีอะไรเลย ผมเห็นท่าทางหน่วยก้านดี เลยอยากให้เธอมาร่วมงานด้วยก็เท่านั้นเอง" แผ่นดินพยายามพูดออกมาให้ปกติที่สุดเมื่อคิดถึงใบหน้าสาวสวย ที่เขาให้พ่อโทรไปสั่งฝ่ายบุคคลให้รับเธอเข้าทำงาน

"ว่าแต่พ่อจัดการให้ผมแล้วใช่มั้ยครับ ให้เธอมาทำงานที่แผนกประชาสัมพันธ์ทีมเดียวกันกับผมเลยนะครับ เพราะผมจะเริ่มงานที่แผนกนั้นพอดี" แผ่นดินหันไปถามพ่ออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"จัดการให้แล้ว เห็นว่าจะเริ่มงานพรุ่งนี้นะ" ธนพลบอกกับลูกชายด้วยรอยยิ้ม

"ขอบคุณครับพ่อ ผมสัญญาว่าจะทำงานแผนกนี้ให้ดีที่สุด" แผ่นดินยกมือไหว้พ่อที่จัดการให้เขาอย่างที่เขาขอ

"แม่ว่าลูกตัดสินใจใหม่ดีมั้ยลูก ดินไปช่วยทำงานด้านบริหารดีกว่ามั้ย งานระดับปฏิบัติการ ให้พวกพนักงานเขาทำไปก็ได้ เราไม่ต้องลงไปทำเองให้เหนื่อย แล้วการทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ แม่ไม่ชอบเลย" กนกพรที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็อดที่จะแสดงความคิดเห็นไม่ได้

"เอาน่าคุณ ให้ลูกเริ่มทำงานตั้งแต่ตำแหน่งเล็ก ๆ แบบนี้แหละดีแล้ว ลูกจะได้เรียนรู้งานหลาย ๆ แผนก ลูกคนรวยหลายคนเขาก็ทำแบบนี้ บางคนเรียนจบแล้วยังไม่กลับประเทศด้วยซ้ำไป เขาไปทำงานเป็นลูกจ้างฝรั่งก่อนค่อยกลับมาบริหารงานบริษัทตัวเอง หรือคุณจะให้ลูกไปทำงานที่อเมริกาสัก 4-5 ปีก่อนดีมั้ย" ธนพลพูดกับภรรยาพร้อมกับรอยยิ้ม และยกตัวอย่างลูกคนอื่นมา แถมยังทำท่าจะให้แผ่นดินไปทำงานที่อเมริกาอีก ซึ่งเขารู้ว่าภรรยาไม่มีทางยอมแน่

"ไม่ดีค่ะ ฉันไม่ให้ลูกไปไหนอีกแล้ว" กนกพรรีบกอดลูกชายไว้ทันที เพราะลูกชายพึ่งกลับมา เธอไม่ยอมห่างจากลูกอีกแล้ว

"งั้นให้ผมไปทำงานอย่างที่ผมอยากทำนะครับแม่ ไม่แน่นะครับ การไปทำงานครั้งนี้ผมอาจจะได้ลูกสะใภ้มาฝากแม่ภายใน 3 เดือนอย่างที่แม่อยากได้ ก็ได้นะครับ" แผ่นดินพูดกับแม่ด้วยรอยยิ้ม เมื่อคิดถึงใบหน้าของอีกคน

"จริงเหรอลูก" กนกพรถามลูกชายตาโต

"ครับ..." แผ่นดินก็ตอบแม่พร้อมกับรอยยิ้ม

"งั้นไปทำเลย ไปทำพรุ่งนี้เลย แม่ไม่ว่าอะไรแล้ว อยากทำอะไรทำเลยลูก แม่สนับสนุนเต็มที่" กนกพรเปลี่ยนท่าทีทันทีเมื่อรู้ว่าจะได้ลูกสะใภ้

"งั้นเราไปกินข้าวกันมั้ยครับ เสร็จแล้วผมจะได้ไปศึกษางานที่จะต้องทำพรุ่งนี้ เห็นทางบริษัทโทรมาบอกว่าให้ผมไปถึงที่ทำงานก่อน 8 โมงครับ" แผ่นดินลุกขึ้นและเดินจับมือแม่ไปที่ห้องอาหาร...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel