บทที่ 9 เผลอไปยั่วยวนเขา
เจ็ดวันต่อมา
วันเกิดนายหลินเฒ่า
หลินซูเซี่ยโทรศัพท์หาเวินชิงชิงตั้งแต่เนิ่น ๆ
“ชิงชิง ลี่ซือเจี๋ยจะมากับเธอด้วยหรือเปล่า?”
“อืม พวกเราไปด้วยกันทั้งครอบครัว”
“โอเค แต่งตัวสวย ๆ ล่ะ”
“แน่นอนค่ะพี่ เดี๋ยวเจอกันค่ะ”
หลังจากวางสาย เวินชิงชิงก็สวมชุดกี่เพ้าที่เธอเลือกเอาไว้นานแล้ว ชุดกี่เพ้านี้เป็นชุดสั่งตัดที่ลี่ซือเจี๋ยตั้งใจซื้อให้เธอโดยเฉพาะ ซึ่งเธอไม่เคยใส่เลย
ชุดกี่เพ้าเป็นชุดสีฟ้าอ่อน แต่ชายกระโปรงปักเป็นดอกไม้สีน้ำเงิน แล้วค่อย ๆ เกลี่ยสีน้ำเงินขึ้นด้านบนโดยใช้วิธีการออกแบบชุดแบบไล่ระดับสี
เหมือนดอกไม้สีน้ำเงินกำลังเบ่งบานอยู่กลางทะเลสาบ วังวนของน้ำในทะเลสาบค่อย ๆ กระเพื่อมสีน้ำเงินให้กระจายตัวออกอย่างช้า ๆ ทำให้ดอกไม้สีน้ำเงินจำนวนนับไม่ถ้วนแพร่กระจายออกไป
ราวกับภาพวาด และเวินชิงชิงก็เปรียบเสมือนสาวงามในภาพวาด ที่ทั้งสง่างามและหรูหรา
เมื่อเธอไปยืนอยู่ตรงหน้าลี่ซือเจี๋ย แม้ว่าลี่ซือเจี๋ยจะเฝ้ามองเธอมานานกว่าห้าปีแล้ว แต่ก็ยังตกตะลึงเช่นเดิม
“ว้าว หม่ามี๊สวยจังเลยค่ะ!” ซีซีร้องอุทานแล้ววิ่งเข้ามาวิ่งวนเป็นวงกลมรอบตัวเวินชิงชิง “แด๊ดดี้ช่วยถ่ายรูปคู่ให้หนูกับหม่ามี๊หน่อยค่ะ” พูดจบเธอก็โพสท่าพร้อมเรียบร้อย!
ตอนแรกโยโยก็คิดว่าดูดีมาก แต่พอเห็นการกระทำของซีซีแล้วเขาก็ขมวดคิ้วไม่พอใจออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ลี่ซือเจี๋ยหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปให้ซีซีกับเวินชิงชิง
เวินชิงชิงเดินไปวางมือบนไหล่ของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ และพูดเบา ๆ ว่า “อาเจี๋ย ส่งรูปมาให้ฉันด้วยนะ ขอบคุณนะ”
พูดจบก็ยกมือขึ้น แต่ตอนที่เธอเดินผ่านเขาปลายนิ้วของเธอปาดผ่านหลังคอทำให้รู้สึกวาบชาไปทั่วก่อนจะค่อย ๆ หายไป
เขาหันไปมองแต่เวินชิงชิงเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยสักนิด เธอหยิบกระเป๋าแล้วส่งยิ้มให้พวกเขา “ไปเถอะ พวกเราออกเดินทางกันเลย!”
ระหว่างทาง สายตาของลี่ซือเจี๋ยเหลือบมองเวินชิงชิงเป็นครั้งครา เวินชิงชิงนั่งนิ่งเงียบอยู่กับที่โดยไม่พูดอะไร เว้นแต่ตอนซีซีคุยกับเธอ เธอถึงจะตอบซีซีด้วยรอยยิ้ม
สำหรับเวินชิงชิงในวันนี้ ลี่ซือเจี๋ยทำให้ทั้งตกตะลึงและตกใจด้วยเช่นกัน
เมื่อก่อนเวลาพวกเขาไปตระกูลหลิน เวินชิงชิงมักจะไม่แต่งตัวดี ๆ แต่จะแต่งตัวสบาย ๆ แถมไม่แต่งหน้าด้วยซ้ำ แต่วันนี้กลับใส่ชุดกี่เพ้าหรูที่เขาซื้อให้ แถมยังแต่งหน้าอย่างประณีต
เพราะสวี่เจ๋อยวี่งั้นเหรอ?
เมื่อคิดได้แบบนั้น สีหน้าของลี่ซือเจี๋ยอึมครึมขึ้นมาทันที และไม่มองเวินชิงชิงอีก
เพื่อฉลองครบรอบวันเกิดให้นายหลินเฒ่า ตระกูลหลินจองโรงแรมระดับ 5 ดาวไว้เพื่อรับรองแขก ตระกูลหลินในตอนนี้มีทั้งเงินทองและอำนาจ
คนที่มาอวยพรวันเกิดในวันนี้ก็มีแต่ชนชั้นสูงจากทุกสาขาอาชีพทั้งนั้น
เวินชิงชิงเห็นหลินซูเซี่ยกับสวี่เจ๋อยวี่ที่ยืนรอตอนรับแขกอยู่หน้าประตูมาแต่ไกล
เธอเดินเข้าไปช้า ๆ และเดินอยู่ข้าง ๆ รถเข็นของลี่ซือเจี๋ยตลอดเวลาอย่างไม่รีบร้อย
ทั้งลี่ซือเจี๋ยและผู้ช่วยของเขาต่างทำหน้าแปลกใจ เพราะถ้าเป็นปกติตอนนี้เวินชิงชิงคงจะวิ่งไปหาหลินซูเซี่ยแล้ว และไม่อยากอยู่กับเขาด้วย
“พี่คะ พวกเรามาแล้ว” เธอยืนยิ้มจาง ๆ อยู่ตรงหน้าหลินซูเซี่ยกับสวี่เจ๋อยวี่ รอยยิ้มของเธอช่างสง่างามไร้ที่ติ สายตาไล่มองหน้าหลินซูเซี่ยกับสวี่เจ๋อยวี่ทีละนิด ๆ
สงครามเริ่มต้นแล้ว!
เมื่อหลินซูเซี่ยเห็นเวินชิงชิง เธอไม่ทันได้ซ่อนความประหลาดใจบนใบหน้า
และเธอยังหันศีรษะไปมองสวี่เจ๋อยวี่โดยไม่รู้ตัว และพบว่าสวี่เจ๋อยวี่กำลังมองเวินชิงชิงอยู่เหมือนกัน สัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่าเวินชิงชิงทำให้สวี่เจ๋อยวี่ตกตะลึงมากไม่น้อย
เธอรีบก้าวออกไปข้างหน้า และพูดกับเวินชิงชิงด้วยรอยยิ้ม “ชิงชิง วันนี้สวยมากเลยนะ!”
“จริงเหรอคะ? ต้องขอบคุณพี่ที่กำชับให้ฉันแต่งตัวแต่งหน้าให้สวย ๆ ฉันเองก็คิดว่าถ้าแต่งตัวแบบลวก ๆ เดี๋ยวพี่จะโกรธเอา แต่ดูเหมือนว่าพี่จะพอใจนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันก็สบายใจแล้วค่ะ”
“…” เธอไม่ต้องเชื่อฟังขนาดนั้นก็ได้!
“คุณลี่” สวี่เจ๋อยวี่ทักทายลี่ซือเจี๋ย
ลี่ซือเจี๋ยพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเย็นชา
หลินซูเซี่ยก้มลงมองเด็กทั้งสองคน “ซีซีกับโยโยก็มาด้วยเหรอเนี่ย วันนี้เหมือนเจ้าหญิงน้อยกับเจ้าชายน้อยเลย สวยหล่อมากจริง ๆ มา มาให้ป้ากอดหน่อยเร็ว”
เธอยื่นมือออกไป แต่เด็กทั้งสองคนกลับถอยหลังสองก้าวไม่ยอมให้เธอกอด
แถมตอนนี้ยังมีคนมองอยู่ด้วย ทำให้เธออับอายอยู่ไม่น้อย
“ซีซีกับโยโยยังกลัวคนแปลกหน้าขนาดนี้เลยเหรอ?” หลินซูเซี่ยชักมือกลับพลางพูดกับเวินชิงชิง
ทันทีที่คำพูดพวกนี้พูดออกไป คนอื่น ๆ คงจะคิดว่าเด็กทั้งสองคนใจแคบ หยิ่ง ไม่มีมารยาท
“พวกเขาไม่ได้กลัวคนแปลกหน้าหรอกค่ะ น่าจะไม่ค่อยชอบกลิ่นน้ำหอมบนตัวพี่มากกว่า”
ลี่ซือเจี๋ยกับโยโยต่างประหลาดใจ เพราะปกติเวลาแบบนี้เวินชิงชิงคงจะมองพวกเขาอย่างรังเกียจ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า ‘ไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก’
โยโยไหวพริบดีมาก เขารีบเอามือปิดจมูกแล้วจามออกมาเบา ๆ
“ขอโทษครับ ผมไม่ค่อยชอบกลิ่นนี้เท่าไหร่...ฮัดชิ้ว!” เขาจามออกมาอีกครั้ง
สีหน้าของหลินซูเซี่ยดูแย่ขึ้นมาทันที เพราะทุกคนต่างมองเธอด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป ราวกับว่าพวกเขากำลังตำหนิน้ำหอมที่เธอใช้ เพราะงานวันนี้คงจะมีเด็ก ๆ มางานจำนวนไม่น้อย
“พี่คะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราเข้าไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันค่ะ”
พวกเขาสี่คนเข้าไปในห้องโถงด้านในพร้อมกับผู้ช่วย
มีคนนั่งอยู่ด้านในจำนวนไม่น้อยแล้ว ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาดึงดูดสายตาผู้คนในงานจำนวนมากทันที
แม้ว่าลี่ซือเจี๋ยจะนั่งรถเข็น แต่ด้วยออร่าที่ไม่ธรรมดา ประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา ทำให้ผู้คนที่มองมาต่างรู้สึกว่าเขาทั้งหล่อและน่าสงสาร
และวันนี้เวินชิงชิงทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงไปตาม ๆ กัน รอยยิ้มนั้นดึงดูดความสนใจของทุกคน
กี่เพ้าแหวกขึ้นเหนือเข่าเผยให้เห็นขาเรียวยาวเรียบเนียน เรียวขายาว ๆ กับรองเท้าส้นสูงทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของเธอดึงดูดสายตาของทุกคนราวกับกำลังเหยียบย่ำหัวใจของพวกเขาจนไม่อาจหันมองไปทางอื่น
มีคนเดินเข้าไปทักทายลี่ซือเจี๋ย
“คุณลี่ คุณนายลี่ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
“ประธานหลิวยินดีที่ได้พบครับ” ลี่ซือเจี๋ยตอบ เวินชิงชิงที่ยืนอยู่ข้างเขาฉีกยิ้มอย่างสง่างาม
“คุณลี่กับคุณนายลี่เป็นคู่ที่สวรรค์สร้างจริง ๆ นะครับ น่าอิจฉาจริง ๆ” เขาพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “แต่ว่า...ผมต้องขอโทษก่อนนะครับ ตอนแรกผมเกือบจำผิดคน นึกว่าไม่ใช่คุณนายลี่ ดูเหมือนคุณนายลี่จะแตกต่างไปจากเมื่อก่อนที่เคยเจอนิดหน่อย”
เวินชิงชิงรู้จักคนคนนี้ หลิวฉี่หาง ลับหลังเขาแอบทำตัวเป็นศัตรูกับลี่ซือเจี๋ย แถมยังชอบพูดเสียดสีเรื่องอาการบาดเจ็บที่ขาของลี่ซือเจี๋ยด้วย แถมเขายังรู้อีกว่าลี่ซือเจี๋ยกับเวินชิงชิงเข้ากันไม่ดีนัก
“ประธานหลิวคิดว่าฉันแตกต่างไปจากเดิมตรงไหนเหรอคะ ถึงได้ทำให้ประธานหลิวเข้าใจผิดคิดว่าคุณนายลี่เปลี่ยนคนแล้ว?” เวินชิงชิงวางมือบนหลังพนักของรถเข็นเบา ๆ พลางพิงตัวกับพนักของรถเข็น ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ไม่มีใครคิดต่อเลยว่าพวกเขาสองคนไม่ลงรอยกัน
“คงเพราะวันนี้คุณนายลี่สวยมาก จนน่าหลงใหล”
ลี่ซือเจี๋ยชักสีหน้าเย็นชา สายตาอันแหลมคมเหลือบมองไปที่หลิวฉี่หาง