บทที่ 10 ยอมจำนนต่อความสวยของเธอ
เวินชิงชิงหัสเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ขอบคุณประธานหลิวที่ชมนะคะ เมื่อก่อนฉันแค่ไม่อยากให้อาเจี๋ยหึงหวง ฉันก็เลยไม่อยากทำตัวโดดเด่นเกินไป แต่งานวันนี้ โอกาสแบบนี้ฉันคงต้องแต่งตัวดีสักหน่อย ไม่งั้นคนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าเขาปฏิบัติกับฉันไม่ดีก็ได้”
ประโยคเดียวสี่ตำลึงปาดพันชั่ง ไม่เพียงแต่สามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้ แต่ยังสามารถแสดงได้อีกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับลี่ซือเจี๋ยนั้นดีมาก ๆ
นอกจากเธอแล้ว คนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
“อาเจี๋ย พวกเราไปนั่งกันดีกว่า แขกน่าจะมากันครบแล้ว” เวินชิงชิงโน้มตัวลงไปพูดกับลี่ซือเจี๋ย แล้วเดินไปยืนอยู่ด้านหลังรถเข็น “ประธานหลิว พวกเราขอตัวก่อนนะคะ”
เธอเข็นรถเข็นไปทางโต๊ะหลัก
ลี่ซือเจี๋ยตัวแข็งทื่อตลอดเวลา เดาไม่ออกว่าเวินชิงชิงกำลังคิดจะทำอะไร เขาทำได้เพียงแค่ใช้สายตาส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยของเขาระวังให้มาก
“คุณปู่คะ พวกเรามาอวยพรวันเกิดให้คุณปู่ค่ะ ขอให้คุณปู่อายุยืนยาว มีแต่ความสุขนะคะ” เวินชิงชิงมาที่โต๊ะหลัก และอวยพรให้ชายชราที่นั่งอยู่เก้าอี้ตัวหลักของโต๊ะ
“ขอบใจ ขอบใจ รีบนั่งลงเถอะ”
“ชิงชิงกับซือเจี๋ยมาแล้วเหรอ วันนี้ยุ่งมาก ก็เลยไม่ได้ทักทาย ตามสบายเลยนะ”
“คุณลุงคุณป้าไปยุ่งต่อเถอะค่ะ พวกเราโอเคค่ะ”
เวินชิงชิงเรียกผู้อาวุโสทั้งสองคนของตระกูลหลินตระกูลหยางว่าคุณลุงคุณป้า เรื่องนี้เธอดีใจมากที่ก่อนเธอได้เกิดใหม่เธอไม่เคยเรียกพวกเขาว่าพ่อแม่เลย ไม่อย่างนั้นคงได้อ้วกตาย!
“เวินชิงชิง เธอจะทำอะไร?” หลังจากพวกเขานั่งลง รอจังหวะที่รอบข้างไม่มีใคร ลี่ซือเจี๋ยจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“หือ? ฉันทำไมเหรอ? นายหิวไหม กินอะไรก่อนไหม”
ยิ่งได้เห็นท่าทีนิ่งสงบของเธอ ลี่ซือเจี๋ยเริ่มโกรธขึ้นมาเล็กน้อย และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ยิ่งเห็นสายตานับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองเวินชิงชิง เขายิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
จู่ ๆ ก็รู้สึกเสียใจที่ซื้อชุดกี่เพ้าชุดนี้มา
หลังจากหลินซูเซี่ยกับสวี่เจ๋อยวี่ต้อนรับแขกเสร็จเรียบร้อยก็เข้ามานั่ง คนมาเกือบจะครบทุกคนแล้ว หลังจากผ่านพิธีกล่าวเปิดงานทุกคนก็เริ่มรับประทานอาหาร
โต๊ะหลักเป็นโต๊ะขนาดใหญ่ มีคนตระกูลหลินนั่งอยู่หลายคน
ทั้ง ๆ ที่ตระกูลหลินเป็นคนจัดงานเลี้ยงวันเกิด แต่ตัวเด่นของงานในวันนี้กลับเป็นลี่ซือเจี๋ยกับเวินชิงชิง
“เอาจริง ๆ นะ ดูไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าชิงชิงจะเป็นแม่ลูกสองแล้ว ดูแลตัวเองยังไงนะ” มีคนมองเวินชิงชิงด้วยความอิจฉา
“ถ้าเธอไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลแบบเวินชิงชิงคงจะทำให้ตัวเองดูเด็กได้อยู่ตลอดแน่นอน ก่อนอื่นเธอต้องมีสามีที่หาเงินเก่งก่อน” ประโยคนี้ฟังดูประหลาดมาก
“พี่คะ พูดแบบนี้อิจฉาสินะคะ ชิงชิงสวยมาตั้งแต่เกิดแล้วนะคะ” หลินซูเซี่ยช่วยพูดแทนเวินชิงชิง
“เซี่ยเซี่ย ต่อไปเธอแต่งงานแล้วต้องดูแลตัวเองได้ดีแบบนี้เหมือนกันแน่ ๆ คุณสวี่ของเธอก็หาเงินเก่งเหมือนกัน ถึงตอนนั้นเธอก็เป็นคุณนายผู้ร่ำรวยได้อย่างสบาย ๆ แล้ว”
หลินซูเซี่ยยิ้มและส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้หรอก ฉันต้องต่อสู้ไปด้วยกันกับเขา ไม่อย่างนั้นปล่อยเขาทำงานคนเดียวคงลำบากแย่เลย”
เวินชิงชิงกระตุกมุมปากยิ้ม นี่กำลังพูดอ้อม ๆ ว่าเธอทำตัวขี้เกียจไม่เข้าใจลี่ซือเจี๋ยบ้างเลยงั้นสินะ เธอคีบเนื้อปลาชิ้นหนึ่งใส่ลงไปในชามของลี่ซือเจี๋ย
“อาเจี๋ย ที่ผ่านมาลำบากคุณแล้วนะคะที่ต้องทำงานหนักหาเงินเพื่อให้ฉันกับลูก ๆ ได้มีชีวิตที่ดี ต่อไปฉันจะไม่ขี้เกียจอีกแล้วค่ะ”
ใครจะทนกับลูกอ้อนแบบนี้ได้ไหว?
ผู้ชายทุกคนที่อยู่ในงาน ‘พวกเราก็อยากได้เมียขี้อ้อนแบบนี้เหมือนกัน หวานมากเลย!’
คำตอบของลี่ซือเจี๋ยคือการคีบกินเนื้อปลาที่เธอคีบให้
เวินชิงชิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ซีซี โยโย พวกหนูอยากกินอะไรบอกหม่ามี๊เลยนะ เดี๋ยวหม่ามี๊คีบให้”
สีหน้าของโยโยตอนนี้เหมือนเห็นผีไม่มีผิด คงกำลังคิดในใจว่าแปลกเกินไปหรือเปล่า
หม่ามี๊กำลังถูกข่มขู่หรือเปล่า ถ้าใช่ให้กระพริบตา!
มีบางคนไม่รู้ว่าพูดใส่หรือว่าจงใจทำจึงถามเวินชิงชิงว่า “ชิงชิง เธอไม่โกรธกันกับคุณลี่แล้วเหรอ? เมื่อก่อนเธอใจร้ายกับเขามากเลยนะ!”
พดจบก็มองเวินชิงชิงเหมือนกำลังดูละครฉากเด็ด
เวินชิงชิงทำหน้าประประหลาดใจขึ้นมาทันที “หือ? เมื่อก่อนฉันใจร้ายกับเขามากงั้นเหรอ?”
เกือบทุกคนในโต๊ะล้วนกำลังพยักหน้าไปตาม ๆ กัน
“ไม่ใช่มั้ง แค่หน้าหล่อ ๆ ของเขา ฉันก็ไม่กล้าดุแล้ว แค่มองเขาฉันก็หายโกรธแล้ว หน้าตาดีขนาดนี้ฉันจะกล้าดุเขาได้ยังไง”
“…” เวินชิงชิง เธอเปลี่ยนไปแล้ว!
“เป็นผู้ชายต้องดูดีขนาดนั้นไปทำไม ต้องมีความสามารถต่างหากที่สำคัญที่สุด!” ชายวัยกลางคนพุงใหญ่คนหนึ่งพูดขึ้น
“ทั้งเก่งทั้งหน้าตาดีไม่ดีเหรอ?” เวินชิงชิงมองลี่ซือเจี๋ยด้วยสายตาชื่นชม “หรือว่ามีคนคิดว่าอาเจี๋ยของฉันไร้ความสามารถ?”
ไม่มีใครตอบคำถามนี้
ความสามารถของลี่ซือเจี๋ยเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ก่อนที่ขาทั้งสองข้างจะได้รับบาดเจ็บ เขาคือมังกรในหมู่ของทุกคน หลังจากที่ขาของเขาได้รับบาดเจ็บ เขากลับสามารถพลิกวิกฤตช่วยตระกูลลี่จากสถานการณ์สุดวิกฤตได้สำเร็จ ทำให้ทุกคนต่างหวาดกลัวในความเก่งกาจและความสามารถของเขา และกล้าแค่ใช้เวินชิงชิงเป็นตัวทิ่มแทงเขาเท่านั้น
หลินซูเซี่ยกับสวี่เจ๋อยวี่มองหน้ากันต่างคนต่างรู้สึกประหลาดใจ ทำไมวันนี้เวินชิงชิงถึงกลายเป็นคนปกป้องสามีเก่งขนาดนี้?
ทุกประโยคมีแต่ชื่นชมลี่ซือเจี๋ยทั้งนั้น
‘อีกเดี๋ยวฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ’ หลินซูเซี่ยส่งข้อความให้เวินชิงชิง
‘ค่ะ’ เวินชิงชิงตอบกลับ
หลังจากรับประทานอาหารไปพอสมควรแล้ว ทุกคนก็เริ่มเดินเล่นไปทั่วงาน บางคนมัวดื่มอวยพร บางคนถือโอกาสพบปะเพื่อนฝูงเพื่อเจรจาความร่วมมือ เด็ก ๆ ก็เล่นกันสนุกสนาน
มีคนมาทักทายลี่ซือเจี๋ยอยู่ไม่น้อย ใคร ๆ ก็อยากทำความร่วมมือกับลี่ซือเจี๋ยทั้งนั้น
เพราะปกติถึงอยากเจอลี่ซือเจี๋ยยังไงก็ไม่ได้เจอ ตอนนี้ได้มีโอกาสมาเจอแล้วจะพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด
เวินชิงชิงถือโอกาสนี้ไปหาหลินซูเซี่ย
ทันทีที่หลินซูเซี่ยเห็นเธอก็รีบถามอย่างร้อนใจขึ้นทันทีว่า “ชิงชิง นี่เธอ...หลงรักลี่ซือเจี๋ยแล้วเหรอ?”
“หือ? พี่พูดเรื่องอะไรเนี่ย?” เธอทำหน้างุนงง
“วันนี้เธอเอาแต่พูดแทนลี่ซือเจี๋ยตลอด แถมยังทำเหมือนว่าพวกเธอสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีมากด้วย นี่มันเรื่องอะไรกัน? นี่เธอถูกลี่ซือเจี๋ยทำให้หลงหัวปรักหัวปรำแล้วเหรอ” ตั้งแต่เมื่อกี้หลินซูเซี่ยก็โกรธมาก ๆ ตอนนี้เธอพ่นคำถามใส่เวินชิงชิงต่อกันหลายคำถาม
“พี่คะ พี่ดุจังเลย” เวินชิงชิงทำหน้าเสียใจ
“พี่คะ ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากเขามากขึ้นไงคะ ไม่อย่างนั้นคงแอบไปขโมยแผนงานได้ยาก พี่คิดว่าไงคะ”
“จริงเหรอ?”
หลินซูเซี่ยอึ้งไป และพึ่งจะตระหนักได้ว่าเธอกังวลมากเกินไป “ฉันเคยโกหกพี่เหรอคะ” ขณะที่พูดเธอก็แสดงสีหน้าน้อยอกน้อยใจออกมาด้วย
หลินซูเซี่ยครุ่นคิดและคิดว่ามันก็จริง เวินชิงชิงไม่เคยโกหกเธอจริง ๆ
แต่ทำไมวันนี้เธอถึงรู้สึกว่าเวินชิงชิงดูจงใจยังไงก็ไม่รู้?
“ขอโทษ พี่ขอโทษ” เธอหยิบเครื่องดื่มแล้วยื่นให้เวินชิงชิง “พี่รู้ว่าตอนนี้เธอดื่มไวน์ไม่ได้ แต่ดื่มเครื่องดื่มสักหน่อยเถอะ”
เวินชิงชิงยื่นมือออกไปรับ แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกมือลื่นและทำแก้วตกลงพื้น
“ว๊าย! ขอโทษขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้จับให้ดี”
“ไม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวฉันให้คนมาทำความสะอาด เธออย่าเพิ่งขยับนะ เดี๋ยวฉันไปเอาแก้วใหม่ให้ รอแปปนึงนะ”