บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 แต่งตัวไม่เรียบร้อยไปพบแขก

หนึ่งชั่วโมงต่อมา แพทย์ประจำตัวก็มาถึงคฤหาสน์

เขาเจาะเลือดของลี่ซือเจี๋ยเก็บไว้ และตรวจที่อื่น ๆ

“ไหน ๆ ฉันก็มาที่นี่แล้ว เดี๋ยวฉันตรวจอาการที่ขาของนายด้วยเลยนะ”

“ไม่ต้อง ไม่มีอะไรต้องตรวจ ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ” ลี่ซือเจี๋ยสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที แถมยังมีอารมณ์บูดบึ้งแผ่ซ่านออกจากตัวของเขาด้วย

แพทย์ประจำตัวถอนหายใจ “ซือเจี๋ย สภาพนายแบบนี้ไม่เอื้อ่อการฟื้นตัวหรอกนะ”

“ฟื้นตัว? ฉันยังสามารถฟื้นตัวแบบไหนได้อีก?”

"เชื่อในปาฏิหาริย์สิ!"

ลี่ซือเจี๋ยตะคอกกลับอย่างเย็นชา “หมออย่างนายพูดเรื่องปาฏิหาริย์กับฉันเหรอ?”

“หมออย่างพวกเราเชื่อในปาฏิหาริย์มาก การรักษาต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์และคนไข้”

เมื่อเห็นว่าลี่ซือเจี๋ยไม่พูดอะไรเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “เอ้อ จริงสิ ภรรยาของนายก็บาดเจ็บเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ให้ฉันตรวจดูอาการเธอด้วยเลยไหม?”

ลี่ซือเจี๋ยเลิกคิ้วมองเขา พลางกระตุกคิ้วเล็กน้อย “นายเป็นห่วงเธอไม่น้อยเลยนะ”

“…”

“นั่นเป็นเพราะคิดว่าเธอเป็นภรรยาของนายก็เลยไม่อยากให้มีอาการอื่น ๆ ตามมาภายหลัง” ต้องอธิบายให้ชัดเจน เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าเวินชิงชิงคือหนามที่ทิ่งแทงอยู่ในใจของลี่ซือเจี๋ย ดึงไม่ออก จะแทงเข้าไปก็ไม่ได้

ลี่ซือเจี๋ยไม่ตอบ แต่ให้ผู้ดูแลบ้านไปเรียกเวินชิงชิง

“คุณนายครับ คุณชายเชิญไปที่ห้องรับแขกครับ” ผู้ดูแลบ้านเคาะประตู และได้ยินเสียงสะลึมสะลือจากข้างใน

ประมาณสองนาที

เวินชิงชิงก็เดินเอื่อยเฉื่อยมาที่ห้องรับแขก มือขวาขยี้ตาของตัวเองเหมือนว่าไม่ชินกับแสงไฟในห้องรับแขก โดยที่เธอยังสวมชุดนอนกระโปรงอยู่

“นายเรียกฉันมามีเรื่องอะไร?” น้ำเสียงยังคงสะลึมละลืออยู่เล็กน้อย

แต่เมื่อเธอเห็นคนที่อยู่ข้าง ๆ ลี่ซือเจี๋ยก็ถึงกับยืนงงและตาสว่างขึ้นมาทันที

ไม่ได้มีแค่ลี่ซือเจี๋ยคนเดียว ยังมีชายหนุ่มอีกคนและผู้ดูแลบ้านด้วย

“ว๊าย!” เธอร้องเบา ๆ แล้วใช้มือข้างหนึ่งปิดหน้าอก ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นปิดหน้าของตัวเองทันที “ฉันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน!”

จากนั้นก็วิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว

ลี่ซือเจี๋ยหน้าเขียวปั๊ด แพทย์ประจำตัวทำหน้าอึดอัดใจ ส่วนผู้ดูแลบ้านก็หันหลังกลับไปนานแล้ว

“ซือเจี๋ย ภรรยาของนายดูเหมือนจะ...น่ารักขึ้นนะ!” เขาหัวเราะเบา ๆ

“…”

ลี่ซือเจี๋ยคิดไม่ถึงว่าเวินชิงชิงจะออกมาทั้งที่ใส่ชุดนอนและหน้าตายังง่วงนอนสะลึมสะลือแบบนั้น

เมื่อก่อนเวลาเธอมาพบเขาก็มักจะสวมเสื้อผ้ารัดกุมตลอด อย่าว่าแต่ชุดนอนกระโปรงแบบนี้เลย แม้แต่ชุดนอนเธอยังใส่ชุดนอนกระโปรงยาว กางเกงขายาวเลย

และดูจากท่าทางของเธอเมื่อครู่นี้แล้วดูเหมือนจะนอนหลับสบายมากด้วย

ห้านาทีต่อมา เวินชิงชิงก็ปรากฏตัวต่อหน้าลี่ซือเจี๋ยอีกครั้งด้วยชุดแต่งกายที่เหมาะสม

ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อและดูเหมือนว่าจะยังเขินอายอยู่เล็กน้อย

“คุณนายลี่ ผมจะขอตรวจร่างกายของคุณหน่อยนะครับ จะได้ดูว่าคุณฟื้นตัวเป็นยังไงบ้าง”

“อ้อ ได้ค่ะ”

เวินชิงชิงรู้จักเขา เขาเป็นหมอประจำตัวของลี่ซือเจี๋ย ชื่อว่าจี้หลิน

ทำไมวันนี้เขาถึงมาที่นี่ล่ะ? มาดูอาการบาดเจ็บที่ขาให้ลี่ซือเจี๋ยเหรอ?

เวินชิงชิงให้จี้หลินตรวจร่างกายโดยให้ความร่วมมืออย่างดี ซึ่งก็เจาะเลือดไปตรวจเหมือนกัน

“มือของคุณบาดเจ็บเหรอครับ”

“ไม่ทันระวังเลยถูกแผ่นกระเบื้องบาดค่ะ” เวินชิงชิงอธิบายสั้น ๆ ง่าย ๆ

“แผลลึกนิดหน่อย เย็บแผลสักหน่อยจะดีกว่านะครับ”

“ค่ะ ถ้าอย่างงั้นรบกวนด้วยนะคะ”

“ผมเป็นหมอ นี่ก็เป็นเรื่องที่ผมควรทำอยู่แล้ว”

จี้หลินเย็บแผลให้เวินชิงชิง และเพราะเย็บแค่สามเข็มเลยไม่ได้ฉีดยาชา เวินชิงชิงกัดฟันอดทนกับความเจ็บปวด เหงื่อผุดออกมาเต็มหน้าผาก อีกมือหนึ่งกำหมอนที่อยู่บนโซฟาไว้แน่น ริมฝีปากซีดขาว

บริเวณที่ถูกลี่ซือเจี๋ยกัดปากแตกเริ่มมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง ทำให้ริมฝีปากล่างแดงไปหมด

ลี่ซือเจี๋ยไม่พูดอะไร เอาแต่มองเวินชิงชิงอยู่ตลอดเวลา

วันนี้เวินชิงชิงดูผิดปกติมาก จนทำให้เขายิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น

จี้หลินบอกข้อควรระวังกับเวินชิงชิง ก่อนจะขอตัวหลับ

​ลี่ซือเจี๋ยออกไปส่งเขา

“ซือเจี๋ย ภรรยาของนายเหมือนจะไม่ได้ดูแย่อย่างที่นายพูดนะ” จี้หลินยังรู้สึกว่าเวินชิงชิงน่ารักมากด้วย

“เธอจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”

“จิ๊ ใช้เสร็จแล้วถีบหัวส่ง หรือว่าหึง?” จี้หลินไม่โกรธและดูเหมือนจะเคยชินกับลี่ซือเจี๋ยที่เป็นแบบนี้นานแล้ว

“กลับไปเลย ไม่ส่งนะ”

จี้หลินกลับหัวเราะอย่างมีความสุข เขารู้จักลี่ซือเจี๋ยดี ลี่ซือเจี๋ยเป็นคนขี้หวงมาก และเขาคิดว่าถ้าลี่ซือเจี๋ยมีคนให้ห่วงใย มันจะมีผลดีต่อการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บของเขา

ลี่ซือเจี๋ยกลับเข้าบ้านและพบว่าเวินชิงชิงกลับห้องนอนของตัวเองไปแล้ว เขามองไปที่ประตูห้องนอนอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เขาเปิดประตูออก ในห้องนอนมีแค่โคมไฟข้างหัวเตียงอันเดียวที่ยังสว่างอยู่

เวินชิงชิงเห็นเขาก็รีบลุกขึ้นนั่งทันที ตอนนี้เธอเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนแล้ว

“มีอะไรอีกเหรอ?” เธองุนงงเล็กน้อย พวกเขาสองคนแยกห้องนอนไม่ใช่เหรอ?

ลี่ซือเจี๋ยมองเธอสายตาเคร่งขรึม เธอสวมชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยว และเมื่อกี้ตอนที่เด้งตัวลุกขึ้นนั่งสายเดี่ยวข้างหนึ่งตกลงมาอยู่ที่หัวไหล่มองเห็นได้แค่เลือนราง

โคมไฟข้างเตียงทำให้ผิวของเธอเปลี่ยนเป็นสีเหลืองดูอบอุ่น และทำให้เธอดูอ่อนโยนมากขึ้นเป็นพิเศษ และยังดูยั่วยวนอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก

“มานี่!” น้ำเสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย

ลี่ซือเจี๋ยอยู่ข้างเตียง เวินชิงชิงอยู่บนเตียงจึงคลานเข้าไปหาและคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา

เขายื่นมือออกมา ฝ่ามือแตะที่หลังท้ายทอยของเวินชิงชิง จู่ ๆ เขาก็ออกแรงกะทันหันแล้วกดศีรษะของเธอลงบนตักของเขา

เธออยากเงยหน้าขึ้น แต่ด้วยแรงกดที่คอทำให้เธอเงยหน้าขึ้นไม่ได้ ดวงตาถูกบังคับให้เห็นความโกรธของเขา

ปกติเขาไม่ยอมให้คนอื่นแตะขาของเขา แต่ตอนนี้เขากลับกดเธอลงบนตักด้วยท่าที่ดูถูกเหยียดหยามแบบนี้

“นายเป็นอะไรไป?” เธอเอ่ยปากพูดอย่างลำบาก แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นสีหน้าของลี่ซือเจี๋ย แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของเขา และรับรู้ได้ว่าเขากำลังพยายามระงับความโกรธและจ้องมองเธออยู่

ตอนนี้ปลายจมูกแทบจะแนบชิดอยู่แล้ว

“เวินชิงชิง เธอคิดจะยั่วหมอประจำตัวของฉันเหรอ?” น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยของเขาเหมือนมีดอาบยาพิษที่ค่อย ๆ เฉือนเนื้อหนังของเธอทีละนิด

“ฉันเปล่านะ” เธอพยายามดิ้นรน แต่กลับดิ้นไม่หลุดจากฝ่ามือใหญ่ของเขา ทำให้ต้องรักษาท่านี้ไว้เช่นเดิม

“เธอแต่งตัวแบบนี้ แต่กลับบอกว่าเปล่าเหรอ?”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่รู้ว่านายมีแขก” เวินชิงชิงพูดด้วยเสียงอู้อี้ที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง มากกว่านั้นคือทำอะไรไม่ถูก

ลี่ซือเจี๋ยหัวเราะเบา ๆ “ดังนั้น เธอแต่งตัวแบบนั้นเพื่อจะไปเจอฉันงั้นเหรอ”

ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยเธอสักที และเธอเองก็สามารถเงยหน้าขึ้นมองเขาได้แล้ว

เมื่อครู่เธอพยายามออกแรงดิ้นรน จนตอนนี้แก้มของเธอแดงก่ำไปหมด ตามหน้าผากและปลายจมูกมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบาง ๆ

“ใช่น่ะสิ!” เวินชิงชิงตอบ เธอหายใจถี่และสายเดี่ยวที่ตกลงมาก็ยังไม่ได้ดึงขึ้นอยู่เหมือนเดิม

ลี่ซือเจี๋ยสีหน้าเคร่งขรึม ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอนัก แถมยังรู้สึกอยากจะหัวเราะเยาะเย้ยมากกว่า

แสงไฟสลัวทำให้ใบหน้าของเขาสว่างครึ่งมืดครึ่ง ทำให้ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของเขาในตอนนี้ได้เลย

"จูบฉัน!"

เวินชิงชิงตกตะลึงและไม่ทันได้สติ

“ทำไม? ไม่เต็มใจ?” เขาทำหน้าเหน็บแนมและหรี่ตาลงเล็กน้อย มือวางอยู่ที่ที่วางแขนของรถเข็น บนนั้นมีปุ่มกดที่แค่กดรถเข็นก็จะพาเขากลับหลังหันทันที

ขณะที่นิ้วของเขากำลังจะกดปุ่มนั้น เวินชิงชิงก็คว้ามือของเขาไว้ ก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้า มืออีกข้างค้ำหัวไหล่ของเขาไว้ แล้วจูบที่ริมฝีปากของเขา

วินาทีที่ทุกอย่างเกิดขึ้นกว่าลี่ซือเจี๋ยจะรู้ตัวก็มีสัมผัสนุ่มนวลบนริมฝีปากของเขาแล้ว

ดวงตาของเขาเบิกกว้างเล็กน้อย เขาทั้งตกใจ ทั้งโกรธ ทั้งไม่พอใจ ทั้งปรารถนา

เวินชิงชิงหลับตาพริ้มจูบเขา แล้วทิ้งน้ำหนักของตัวเองลงบนตัวของเขา

ลี่ซือเจี๋ยหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว และลิ้มรสความหวานและกลิ่นเลือดจาง ๆ แต่วินาทีต่อมาเขาเบิกตากว้างและผลักเวินชิงชิงออก เวินชิงชิงล้มลงบนเตียงพลางส่งเสียงอุทานออกมา

พอเธอลุกขึ้นก็เห็นแต่แผ่นหลังของลี่ซือเจี๋ยที่ขับรถเข็นออกจากห้องนอนของเธอไปแล้ว

เธอยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง รู้สึกเหมือนความอบอุ่นและสัมผัสของลี่ซือเจี๋ยยังคงอยู่

เมื่อกี้เขาจูบตอบแล้วแท้ ๆ ทำไมถึงผลักเธอออกล่ะ?

ตอนแรกเขาโกรธเพราะเธอแต่งตัวเซ็กซี่เกินไปต่อหน้าผู้ชายคนอื่น นั่นแปลว่าเขายังใส่ใจเธออยู่ ฉะนั้น เธอยังมีโอกาสรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนได้!

อาการปวดแสบที่ฝ่ามือทำให้เธอต้องออกไปเปลี่ยนผ้ากอซใหม่

เมื่อเดินผ่านห้องน้ำของลี่ซือเจี๋ย เธอก็ได้ยินเสียงน้ำดังออกมาเบา ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel