บทที่ 12 บังเอิญเห็นฉากจูบกัน
“ซีซี!” เวินชิงชิงมือไวตาไว รีบคว้าตัวซีซีที่เกือบจะล้มตามหญิงคนนั้นลงพื้นไปด้วยอีกคนเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว
หญิงคนนั้นล้มลงกับพื้นด้วยสภาพอเนจอนาถ ใบหน้ามีรอยแดงและรอยเลือดซึมเล็กน้อย แค่มองยังรู้สึกเจ็บเลย
เธอกุมหน้าตัวเองไว้ ก่อนจะลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พร้อมกับตะโกนใส่เวินชิงชิงว่า “แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน? แกตายแน่!”
“ทุกคนก็เห็นแล้วว่าเธอเป็นคนเริ่มก่อน ฉันก็แค่ป้องกันตัว!”
เวินชิงชิงสวมรองเท้าส้นสูงอีกครั้ง พลางจัดเสื้อผ้าหน้าผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง ก่อนจะจูงมือเด็กทั้งสองคน “ไปกันเถอะ”
โยโยยังคงยืนงงอยู่ตลอด นี่ใช่แม่ที่เขารู้จักหรือเปล่า
ส่วนซีซีก็เอาแต่ทำหน้าชื่นชมยกย่องสุด ๆ
“หยุดนะ ฉันบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้!”
หญิงคนนั้นดูเหมือนจะไม่ยอมเลิกรา และยังคงพยายามไล่ตามไปไม่หยุด
แต่กลับถูกคนข้าง ๆ ห้ามไว้
“คุณนายหลี่ ช่างมันเถอะ คุณอยากจะมีปัญหากับตระกูลลี่หรือไง?”
“อะ อะไรนะ?”
“คุณไม่รู้เหรอว่านั่นคือภรรยากับลูก ๆ ของลี่ซือเจี๋ย”
หญิงคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนทันที ก่อนจะมองหน้าของคนที่พยายามเกลี้ยกล่อมเธอด้วยสีหน้าตกใจ “คุณว่าไงนะ ลี่ ลี่ซือเจี๋ย?”
“ใช่น่ะสิ นั่นคือภรรยากับลูก ๆ ของลี่ซือเจี๋ย ฉันก็นึกว่าคุณรู้อยู่แล้ว”
จู่ ๆ เธอถึงกับขาอ่อนจนแทบยืนไม่ไหว
“ลี่ ลี่ซือเจี๋ยไหน?” เธอยังคิดจะพยายามดิ้นรนต่อ
“จะลี่ซือเจี๋ยไหนอีกล่ะ ก็ลี่ซือเจี๋ยจากตระกูลลี่ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเมื่อก่อนหน้านี้ไง”
“พวกคุณรีบไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ ดูพวกคุณบาดเจ็บไม่น้อยเลยนะ”
“เรื่องนี้พวกเราไม่ผิดใช่ไหม ลูกเขามาทำร้ายลูกฉันก่อนใช่ไหม พวกคุณต้องเป็นพยานให้ฉันนะ” เธอคว้าตัวคนรอบ ๆ ข้างอย่างกระวนกระวาย
แต่คนรอบข้างกลับพากันจากไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาแค่ดูสนุก ๆ แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย
จะมีเรื่องกับใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ลี่ซือเจี๋ย แบบนั้นเท่ากับรนหาที่ตายชัด ๆ ?
หญิงคนนั้นกระวนกระวายหนักและไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป
“แม่ครับ แม่จะไม่ช่วยแก้แค้นให้ผมเหรอ จะปล่อยพวกเขาไปอย่างนี้เหรอครับ” เด็กชายดูไม่พอใจมาก
“ลูกไปมีเรื่องกับพวกเขาได้ยังไง?”
“ใครใช้ให้คนอื่น ๆ อยากจะเล่นแต่กับพวกเขาล่ะ ไม่มีใครอยากเล่นกับผมเลย ผมก็เลยด่าเขาว่าพ่อเขาเป็นคนพิการ!”
หญิงคนนั้นรีบปิดปากเขาทันที “ชู่ หยุดพูดได้แล้ว”
“ทำไม แค่คนพิการทำไมต้อง...” เขาถูกปิดปากแน่นอีกครั้ง
“ฉันบอกให้หุบปาก!”
ตอนนี้เธอพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นมากที่สุด ไม่กล้าโทรศัพท์หาสามี เพราะเธอรู้ว่าระยะนี้สามีกำลังพยายามสานความสัมพันธ์กับลี่ซือเจี๋ยทุกวิถีทาง ตอนนี้...
ถ้าลี่ซือเจี๋ยไม่ถือสาเรื่องนี้...เธอก็จะไม่พูดอะไร เพราะเกรงว่าจะกระทบกับสามี
เวินชิงชิงพาเด็ก ๆ สองคนออกไปจากงานและพบเข้ากับลี่ซือเจี๋ยที่รีบตามมา
“แด๊ดดี้!” ซีซีปล่อยมือเวินชิงชิงแล้ววิ่งไปหาลี่ซือเจี๋ย “แด๊ดดี้ เมื่อกี้พี่ชายกับหม่ามี๊มีเรื่องทะเลาะกันค่ะ หม่ามี๊สุดยอดมากเลย”
“พี่ชายกับหม่ามี๊ทะเลาะกันเหรอ?” ลี่ซือเจี๋ยสังเกตเห็นผมเผ้าของเวินชิงชิงที่ยุ่งเหยิง และรอยจ้ำแดงตามแขนอีกเล็กน้อย
ตอนเห็นรอยแดง เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ไม่ใช่ ทะเลาะกับคนอื่นครับ” โยโยเอ่ยปากอธิบาย แล้วปล่อยมือเวินชิงชิง
เวินชิงชิงรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร เธอจะค่อย ๆ ซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลูก ๆ ให้ได้
“เพราะอะไร” ลี่ซือเจี๋ยเอ่ยถาม น้ำเสียงของเขาเริ่มเย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย
ขณะที่ซีซีกำลังจะตอบ เวินชิงชิงก็ชิงตอบก่อน
“แค่เด็ก ๆ ทะเลาะกัน แต่ผู้ปกครองของอีกฝ่ายเข้ามาเกี่ยวด้วย ฉันก็เลยเข้าไปเจรจาถกเถียงกับเธอนิดหน่อย”
เธอไม่อยากให้ลี่ซือเจี๋ยได้ยินคนอื่นว่าเขาเป็นคนพิการ
เด็กทั้งสองคนมองเธอและไม่พูดอะไร เพราะพวกเขาก็ไม่อยากพูดคำว่า ‘พิการ’ อีกเหมือนกัน
“ฉันฝากเด็ก ๆ ไว้กับคุณก่อนนะ ฉันขอตัวไปห้องน้ำไปจัดระเบียบตัวเองก่อน” จากนั้นเธอก็หันหลังเดินออกไป
ลี่ซือเจี๋ยมองตามแผ่นหลังของเธออย่างครุ่นคิด ก่อนจะส่งผู้ช่วยของเขาไปตามสืบดูว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ต้องแก้แค้นให้หม่ามี๊นะคะ” ซีซีดึงแขนเสื้อของลี่ซือเจี๋ยแล้วพูดต่อ “คนเลวคนนั้นดึงผมหม่ามี๊จนผมของหม่ามี๊ร่วงตั้งเยอะ เจ็บมากด้วยค่ะ”
โยโยกลับพูดออกมาว่า
“เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะผม ผมจะแก้แค้นเอง” เขาไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณของเธอ!
ลี่ซือเจี๋ยยกมือขึ้นลูบหัวโยโยเบา ๆ เขารู้จักลูกชายของตัวเองดี ทั้ง ๆ ที่ปรารถนาความรักจากแม่มากที่สุด แต่กลับฝืนใจผลักไสเธอออกไปให้ไกล
เวินชิงชิงมองตัวเองในกระจกห้องน้ำแล้วก็รู้สึกอายขึ้นมาทันที ผมของเธอยุ่งมาก แล้วเมื่อกี้เธอก็เผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่มามุงดูด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงแบบนี้ แถมยังให้ลี่ซือเจี๋ยเห็นด้วย
เฮ้อ! ขายหน้าสุด ๆ ไปเลย!
เธอรีบจัดระเบียบตัวเอง
หลังจากจัดระเบียบตัวเองเสร็จเดินออกจากห้องน้ำก็คิดในใจว่าต้องไปหาหลินซูเซี่ยหน่อยแล้ว ก่อนจะบังเอิญเจอสวี่เจ๋อยวี่ที่กำลังตามหาหลินซูเซี่ยเข้าพอดี
เมื่อได้เจอคนคนนี้อีกครั้ง เวินชิงชิงรู้สึกเหมือนอยู่กันคนละโลก เธอมองเขาเป็นพี่ชายข้างบ้าน แต่เขากลับอยากให้เธอเป็นแค่ปลาในบ่อตัวหนึ่ง
เหอะ น่าขำ!
“ชิงชิง เห็นเซี่ยเซี่ยบ้างไหม พี่หาเธอไม่เจอเลย” สวี่เจ๋อยวี่ดูร้อนใจมาก “โทรไปก็ไม่มีใครรับสายเลย”
หลินซูเซี่ยจงใจปิดเสียงเพื่อใช้เป็นข้ออ้างไม่ให้เวินชิงชิงตามหาตัวเธอพบ แต่กลับทำร้ายตัวเองโดยไม่คาดคิด
“พี่สาวไม่อยู่ที่นี่เหรอคะ ฉันก็ไม่เห็นเหมือนกัน พวกเราไปตามหากันเถอะค่ะ”
เธอเดินตามหาหลินซูเซี่ยกับสวี่เจ๋อยวี่ และพาสวี่เจ๋อยวี่ไปในที่ที่คิดว่าหลินซูเซี่ยอาจจะอยู่
พูดตามตรงเธอไม่รู้ว่าหลินซูเซี่ยอยู่ที่ไหน ซึ่งน่าจะเป็นที่ที่เปลี่ยวและไม่ค่อยมีคน
“ที่นี่ไม่มีใครเลย เซี่ยเซี่ยน่าจะไม่มาอยู่ในที่แบบนี้นะ” สวี่เจ๋อยวี่พูดด้วยความสับสนเล็กน้อย
“ที่ที่มีคนพี่ก็ตามหาจนทั่วแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
ประโยคคำถามประโยคนี้ทำเอาสวี่เจ๋อยวี่ตอบกลับไม่ได้เลย
“ฉันไปดูทางโน่นนะคะ” เวินชิงชิงเดินไปมุมหนึ่งเพียงลำพัง
จากนั้นไม่นานเธอก็ปิดปากแล้ววิ่งออกมา
“พี่เจ๋อยวี่ พวกเราไปหาที่อื่นกันเถอะค่ะ ที่นี่ไม่มีใคร” เธอกำลังรีบร้อนจะเดินออกไป แต่สีหน้ากลับมีบางอย่างผิดปกติ
“เกิดอะไรขึ้น? มีใครอยู่ทางนั้นหรือเปล่า?” สวี่เจ๋อยวี่พูดแล้วกำลังจะเดินไปทางนั้น
“ไม่มี ไม่มีใครค่ะ!” เวินชิงชิงขวางเขาไว้
ซึ่งนั่นยิ่งทำให้สวี่เจ๋อยวี่แปลกใจหนักกว่าเดิม
“ชิงชิง ถ้าไม่มีใคร แล้วทำไมต้องประหม่าขนาดนั้น?” เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ฉันไม่ได้ประหม่า ไม่ประหม่าเลยค่ะ เราไปตามหาที่อื่นกันเถอะค่ะ ที่นี่ไม่มีใครจริง ๆ”
ยิ่งเธอพูดแบบนี้ สวี่เจ๋อยวี่ก็ยิ่งสงสัย เขาผลักเวินชิงชิงออกแล้วเดินเข้าไปทันที
ฉากที่เห็นตรงหน้า...
สวี่เจ๋อยวี่ยืนนิ่งมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า
หลินซูเซี่ยกำลังจูบกับผู้ชายคนหนึ่ง เธอหลับตาพริ้ม สองมือโอบรัดรอบคอของชายคนนั้น พลางเขย่งตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับใบหน้าเหมือนกำลังเสพสุข
จูบกันร้อนแรงมาก แถมยังส่งเสียงดังออกมาด้วย
ทันใดนั้น เวินชิงชิงก็ตะโกนขึ้นมาว่า “พี่? พี่คะ!”