บทที่ 17 เจ้าลูกน่ารักดื้อเกินไปทำยังไงดี
เวินชิงชิงอึ้งก่อน รู้สึกทันทีว่าโยโยมีสไตล์ความเป็นผู้นำ
ไม่แปลกที่เป็นลูกชายของลี่ซือเจี๋ยน่ะ
เธอตามโยโยไปที่ห้องของเขา
โยโยมองเธอด้วยแววตาเข้มงวดมาก
“ท่านผู้นำ มีเรื่องอะไรท่านสั่งได้เลย”
ประโยคเดียวแทบทำให้โยโยล้มเหลว เขารีบเม้มปากตัวเองไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา
นานสักพักก่อนจะเอ่ยปาก
“จริงจังหน่อย!”
“ค่ะ ท่านผู้นำ!”
“……” เข้าสาระสำคัญไม่ได้เลย
โยโยวางกำปั้นวางไว้ข้างริมฝีปากแล้วกระแอมไอสองครั้ง จากนั้นก็เอาสองมือไพล่หลัง
“ตอนนี้หม่ามี๊ยังอยากหย่ากับแด๊ดดี้อยู่ไหม?”
เวินชิงชิงโน้มตัวเล็กน้อย สองมือวางบนเข่าขณะมองโยโย
มุมปากเธอยิ้มอ่อนโยน
“ลูกอยากให้หม่ามี๊หย่ากับแด๊ดดี้ลูกไหม?”
ผลสรุปคือโยโยทำหน้าจริงจัง “ตอนนี้ผมถามหม่ามี๊อยู่!”
เวินชิงชิงเกือบหลุดเกร็ง รู้สึกว่าสไตล์โยโยเต็มร้อยในขณะนี้แสนน่ารัก ถ้าติดหนวดให้เขาสองชิ้น นั่นจะเป็นตาแก่ตัวน้อยไร้เดียงสา
“คราวก่อนลูกบอกจะช่วยหม่ามี๊หย่ากับแด๊ดดี้ ยังรักษาสัจจะไหม?”
สีหน้าโยโยชะงักงันอย่างเห็นได้ชัด บวกกับไหล่เขาขยับเล็กน้อย เดาได้ว่าสองมือเล็กที่ไพล่หลังอยู่กำแน่น
เขาเชิดคางเล็กน้อยโดยทันที “แน่นอน รักษาสัจจะ!”
เผยความดื้อรั้นออกมาอย่างอธิบายไม่ได้
“แต่หม่ามี๊ไม่อยากหย่ากับแด๊ดดี้ของลูกแล้ว ทำยังไงดีล่ะ?”
โยโยอึ้ง แต่ถามกลับอย่างรวดเร็ว “แต่เมื่อก่อนหม่ามี๊อยากหย่ากับแด๊ดดี้ผมมากเลยนี่หน่า? ทำไมไม่อยากแล้วล่ะ? หม่ามี๊คิดแผนการร้ายอะไรอีกหรือเปล่า? วันนี้หม่ามี๊ไปเจอหลินซูเซี่ยมาใช่ไหม? เธอสอนอะไรหม่ามี๊มาใช่หรือเปล่า?”
คำถามเป็นชุดกระแทกเวินชิงชิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เวินชิงชิงงุนงง ความคิดในใจก็คือ: โยโยก็สุดยอดเกินไปแล้วไหม? แค่สี่ขวบแต่ฝีปากคารมชัดเจนซะขนาดนี้ ตรรกะค่อนข้างชัดเจนด้วย
“วันนี้หม่ามี๊ไปเจอหลินซูเซี่ย ลูกโกรธใช่ไหม?”
“เปล่า! ผมไม่ได้โกรธสักหน่อย ผมไม่สนหรอกว่าหม่ามี๊จะไปเจอใคร!”
ยังเป็นซึนเดระตัวน้อยอยู่สินะ
เวินชิงชิงย่อตัวลงอยู่ในระดับสายตาเดียวกับโยโย
“หม่ามี๊ยอมรับว่าเมื่อก่อนทำไม่ดีจริงๆ เอาความแค้นของผู้ใหญ่มาเกี่ยวพันกับลูก หม่ามี๊ขอโทษลูกด้วยนะ ไม่ใช่ว่าลูกดื้อ และไม่ใช่ว่าลูกไม่ดี หม่ามี๊ไม่ดีเอง ลูกยอดเยี่ยมมาตลอดเลย”
“แต่ที่หม่ามี๊บอกจะโยนลูกลงทะเลสาบ หม่ามี๊ไม่ได้ทำจริงๆ นะ หม่ามี๊จะหาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหม่ามี๊!”
“ตอนลูกเข้าเรียนคุณครูเคยพูดไหม รู้ว่าผิดแล้วแก้ไขก็คือเด็กดี ลูกยอมให้โอกาสหม่ามี๊แก้ไขไหม?”
โยโยทำอะไรไม่ถูกทันที บีบสองมือเล็กที่ไพล่หลังไม่หยุด สีหน้าบนหน้าทั้งตกใจและดีใจ แต่พยายามเต็มที่เพื่อซ่อนมันไว้
“โยโย ลูกยอมไหม?”
เวินชิงชิงจ้องมองโยโย ถึงเธอจะอ่อนโยน แต่ก็เผยความร้อนใจออกมาเล็กน้อย
ทว่า……
“ผมไม่รู้ ผมไม่รู้!” โยโยรีบพูดประโยคหนึ่งแล้วเปิดประตูวิ่งออกไป ทำเอาเวินชิงชิงตื่นตกใจ
เธอเหมือนจะใจร้อนไปหน่อย ควรช้ากว่านี้นิดหนึ่ง
ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะโยโยมาหาเธอ เธอก็คงไม่ใจร้อนขนาดนี้
ขณะที่กำลังคิด โยโยก็วิ่งกลับมาอีกหน
“หม่ามี๊ นี่ห้องผม หม่ามี๊ต่างหากที่ควรออกไป” ทั้งๆ ที่เขาอึดอัดใจมากแต่ดูมั่นใจในเหตุผล
“โอเค หม่ามี๊จะออกไป ราตรีสวัสดิ์จ้ะ ลูกรักของหม่ามี๊”
โยโยงุนงงอีกครั้ง
ลูกรัก?
ตั้งแต่เขาจำความได้ เขาไม่เคยถูกเรียกว่าลูกรักเลย
เบิกตากว้างยืนอยู่ที่เดิมเหมือนท่อนไม้จิ๋ว กระทั่งซีซีเดินมาจิ้มเขา “พี่ พี่ พี่ฝึกกังฟูอะไรอยู่เหรอ?”
โยโยได้สติกลับมาลากซีซีไปที่โซฟาแล้วถาม “ซีซี เธอรู้สึกไหมว่าเหมือนหม่ามี๊จะเปลี่ยนไป?”
“รู้สึก! หม่ามี๊เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไป……เป็นสวยและยอดเยี่ยมกว่าเดิม อาหารที่ทำก็อร่อยมากด้วย แงๆๆ อยากกินอาหารที่หม่ามี๊ทำ”
“น้ำลายไหลหมดแล้ว” โยโยรังเกียจสุดๆ แต่ก็ยังหยิบกระดาษทิชชู่มาช่วยซีซีเช็ด
ซีซียิ้มอย่างอายๆ “ยังไงตอนนี้หม่ามี๊ก็ดีแล้ว ฉันชอบหม่ามี๊!”
“แต่วันนี้หม่ามี๊ไปเจอหลินซูเซี่ยอีกแล้ว แต่ก่อนทุกครั้งที่หม่ามี๊ไปเจอหลินซูเซี่ยมักจะ……” เขาไม่ได้พูดต่อ เพราะมีแต่ความทรงจำที่ไม่ดี
ซีซีขมวดคิ้วเล็ก ปากเล็กก็กระดกขึ้นครุ่นคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “งั้นเราลองดูว่าคราวนี้หม่ามี๊จะแย่อีกไหม ถ้าคราวนี้หม่ามี๊แย่ เราก็จะไม่สนใจเธออีกแล้วโอเคไหม?”
โยโยพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็ยังพูดกับซีซีอย่างไม่ค่อยวางใจนัก “น้องต้องระวังความปลอดภัยด้วยนะ อย่าออกไปกับเธอตามลำพัง เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้ว ฉันก็ฉลาดมากนะ ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ว่าจะไปไหนฉันก็จะพาพี่ไปด้วย เพราะพี่ปกป้องซีซีได้ ถูกไหมล่ะ?”
มองเด็กหญิงสวยน่ารักตรงหน้า โยโยก็สวมกอดเธอ “ถูก พี่จะปกป้องซีซีตลอดไป ไม่ให้ซีซีได้รับบาดเจ็บ”
“แต่แรงซีซีเยอะกว่าพี่อีกนะ” ขณะที่พูดก็กวัดแกว่งหมัดเล็กของตัวเอง
“งั้นรอตอนพี่ปกป้องซีซีไม่ได้ ซีซีค่อยลงมือเหวี่ยงหมัดต่อยคนชั่วให้กระเด็น”
“ได้เลย! เกี่ยวก้อย~”
“เกี่ยวก้อย~”
สองมือเล็กเกี่ยวก้อยทำตราประทับกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น
เวินชิงชิงตื่นแต่เช้าเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนในครอบครัว เชฟสองคนรับผิดชอบเป็นผู้ช่วย
“คุณนาย ช่วงนี้ทำไมคุณชอบทำอาหาร?”
“คราวก่อนทำไปหนึ่งมื้อ เด็กสองคนชอบกินมากเลย ทำให้ฉันรู้สึกประสบความสำเร็จ ยังไงก็ทำไม่กี่ครั้งตอนว่างไม่มีอะไรทำ แต่พวกคุณไม่ต้องห่วงนะ จะไม่ทำให้พวกคุณว่างงานหรอก”
“คุณนายพูดอะไรเนี่ย ดูฝีมือการใช้มีดของคุณนาย ใช่เคยเรียนเฉพาะชีพหรือเปล่า?”
“เมื่อก่อนโชคดีเคยเรียนกับหัวหน้าเชฟมาช่วงหนึ่ง”
“มิน่าล่ะ ดูแล้วมืออาชีพกว่าเราอีก”
ระดับของเชฟสองคนเป็นที่ประจักษ์ ไม่อย่างนั้นไม่ได้เข้ามาทำอาหารที่ตระกูลลี่หรอก สามารถทำให้พวกเขาพูดประโยคแบบนี้ออกมาได้เห็นได้ชัดว่าฝีมือทำอาหารของเวินชิงชิงเป็นที่ยอมรับ พวกเขาสงสัยอย่างมากว่าหัวหน้าเชฟคนไหนสอนเวินชิงชิงทำอาหาร ถ้าฝีมือลูกศิษย์ดีซะขนาดนี้ อาจารย์ก็ยิ่งสุดยอดเลยไม่ใช่เหรอ?
เวินชิงชิงทำสิ่งต่างๆ ด้วยความเร็วไม่ช้า ดูแล้วเหมือนทำเยอะ แต่จัดสรรเวลาได้ดีมาก
ไม่ถึงชั่วโมง ด้วยการช่วยเหลือจากสองเชฟ ก็ทำเกี๊ยวน้ำหนึ่งชาม บะหมี่หนึ่งชาม ซุปสาหร่ายลูกชิ้นหนึ่งชาม มัฟฟินข้าวโพดกลิ่นนมหนึ่งส่วน ไข่ดาวสี่ฟอง และผลไม้ที่ปอกเรียบร้อย
เกี๊ยวน้ำและบะหมี่บรรจุในชามใหญ่ ทุกคนแบ่งกันทานได้
เจ้าตัวน้อยสองคนตื่นขึ้นเดินมาที่ห้องอาหารเห็นเวินชิงชิงสวมผ้ากันเปื้อนยกอาหารออกมา
“อรุณสวัสดิ์ ลูกรักทั้งสอง รีบมากินข้าวเช้าเร็วเข้า ชิมอาหารเช้าวันนี้สิว่าถูกปากหรือเปล่า”
“หนูจะไปเรียกแด๊ดดี้ค่ะ!” ซีซีกลั้นความอยากเข้าไปทานอาหารเช้าเดี๋ยวนี้รีบไปเรียกลี่ซือเจี๋ยก่อน
ตอนเธอไปลี่ซือเจี๋ยเพิ่งตื่น
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้รีบหน่อย ไม่งั้นของอร่อยจะถูกพี่กินหมดนะ”
“งั้นหนูก็ไปกินก่อน”
“ไม่ได้ หนูอยากรอแด๊ดดี้ แด๊ดดี้ไม่กินซีซีก็ไม่กิน!”
เห็นซีซีทำท่าเด็ดเดี่ยวขยับปากเล็กไม่หยุด ลี่ซือเจี๋ยจะกล้าอืดอาดที่ไหนกัน รีบจัดข้าวของแล้วออกไปกับซีซีเดี๋ยวนั้น
เห็นอาหารเช้าเต็มโต๊ะ ลี่ซือเจี๋ยก็อึ้งอีกครั้ง มองเวินชิงชิงด้วยความประหลาดใจ
“ซีซี หนูอยากกินเกี๊ยวน้ำหรือบะหมี่? หม่ามี๊จะตักให้หนู”
“อยากได้ทั้งเกี๊ยวน้ำและบะหมี่เลยค่ะ หนูอยากกินลูกชิ้นอันนั้นด้วย ลูกที่ใหญ่ๆ”
“ซีซี น้ำลายเธอจะหยดบนโต๊ะแล้ว” โยโยเอ่ยอย่างหมดหนทาง
ซีซีรีบใช้มือกุมปากเล็กตัวเอง แล้วใช้คางกับแววตากำกับเวินชิงชิง
“จอมตะกละ รีบกินเถอะ ระวังร้อนด้วยนะ”
“วันนี้อาหารพวกนี้หม่ามี๊ทำหมดเลยเหรอ?”
“ใช่แล้วจ้ะ”
“ว้าว สุดยอดมากเลย!”
ลี่ซือเจี๋ยกับลูกทั้งสองไว้หน้ามาก ทานอาหารเช้าจนหมดเกลี้ยง
ทำให้เวินชิงชิงรู้สึกพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ขณะที่เธอกำลังเก็บทำความสะอาด ซีซีก็ดึงปลายเสื้อผ้าเธอ
“หม่ามี๊ พรุ่งนี้เราต้องไปบ้านคุณย่า หม่ามี๊จะไปกับเราไหม?”