๕ ความรู้สึกที่ถูกทิ้งขว้าง (๑)
๕
ความรู้สึกที่ถูกทิ้งขว้าง
พวกเขาต่างเร่งถ่ายฉากที่มีในสตูดิโอแห่งนี้ให้จบภายในสัปดาห์นี้ เพราะต้องย้ายโลเคชั่นไปยังบริษัทก่อสร้างใจกลางเมือง กว่าจะขอสถานที่ถ่ายทำได้ใช้เวลาเจรจาค่อนข้างนาน ถ้าไม่ใช่เพราะประธานบริษัทรู้จักกับผู้จัด ทั้งยังเป็นแฟนคลับตัวยงของพันดารา ราคาที่ต้องจ่ายจึงไม่แพงเท่าที่คิด
พักเที่ยงร่างบางก็มานั่งกินข้าวกับเพื่อนร่วมงาน เพราะถ่ายละครกับกองนี้มาสามถึงสี่เรื่องทำให้สนิทสนมตั้งแต่ผู้กำกับยันช่างไฟ อีกทั้งหล่อนไม่ใช่คนถือตัวจึงแทบจะเป็นเพื่อนกับทุกคน
“ป้าจ้าวได้ข่าวว่าลูกสาวสอบได้ที่หนึ่งเหรอคะ” ทักแม่ครัวที่ทำส้มตำมาเสิร์ฟโดยเฉพาะ ร่างบางจึงทักเพราะได้ยินอีกฝ่ายคุยกับเพื่อนแม่ครัวด้วยกัน
“ค่ะคุณดาว ที่หนึ่งสามปีซ้อนแล้วนะคะ” ภาคภูมิใจยิ้มไม่หุบ ทำเอาเธอดีใจไปด้วยก่อนควักเงินในกระเป๋าแล้วส่งให้ท่าน
“ฝากให้น้องหน่อยนะคะ บอกเป็นรางวัลของคนเก่งจากพี่ดาว” เห็นอย่างนั้นคนอายุมากกว่าก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธ มันเยอะไปสำหรับเด็กประถมปีที่หก
ดาราสาวให้เงินแบงค์สีเทาแถมยังไม่ใช่ใบเดียว กลับมีตั้งสามใบจนไม่กล้าจะยื่นมือไปรับ ทำได้เพียงโบกมือแล้วส่ายศีรษะ
“ไม่เอาหรอกค่ะ แค่ชมก็พอแล้ว ของที่ให้ไปคราวก่อนลูกป้าก็ชมคุณดาวไปหลายเดือน” หญิงสาวกลับมาจากไปถ่ายโฆษณาต่างประเทศ ซื้อของฝากมาให้คนในกองทั้งยังเผื่อแผ่ไปถึงครอบครัวอีก กลายเป็นที่รักมีแต่คนชื่นชม
ทว่าคนหมั่นไส้ก็มีเช่นกัน เพราะมองการกระทำของหล่อนว่าเสแสร้ง ซึ่งเธอไม่ค่อยสนใจคนกลุ่มนั้นเท่าไหร่ จะคิดมากให้เปลืองสมองทำไม
“”ไม่เอาดาวโกรธจริงด้วย” แกล้งทำหน้างอนใส่ จนคนที่นั่งกินข้าวด้วยกันขำยกใหญ่ คุณป้าเริ่มคิดหนักแต่ก็เกรงใจจะรับ
“รับไปเถอะป้าจ้าว ช่วงนี้คุณดาวเขารวย” ผกาพรรณช่วยพูดอีกจนท่านยอมรับน้ำใจนั้น ไม่ลืมกล่าวขอบคุณเสียยาวเหยียดจนหล่อนต้องบอกให้พอ แค่นี้ก็ตัวจะลอยอยู่แล้ว
หลังรับประทานอาหารเสร็จเธอก็ไปเข้าห้องน้ำ การถ่ายทำในสตูดิโอดีตรงที่ค่อนข้างสะดวกในการเดินทาง ห้องสุขาก็สะอาดปลอดภัย ไม่เหมือนตอนถ่ายละครในป่า หล่อนต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
ถึงขนาดควักเงินซื้อรถบ้านเพื่อความสบายและเป็นส่วนตัว ต้องอยู่ที่นั่นตั้งสองเดือนเพื่อถ่ายให้จบฉากในป่า ออกมาตัวไหม้เกรียมต้องดูแลตนเองยกใหญ่ แต่หล่อนก็สนุกและชอบความท้าทายของตัวบท ทั้งยังได้พัฒนาฝีมือ เพิ่งรู้ว่าฉากบู๊หล่อนก็ทำได้ดีเช่นกัน
“วันก่อนฉันเห็นแฟนเก่าของดาวไปเดินห้างกับเมียด้วย เหมาะสมกันมากเลย” ขณะที่กำลังจะกดชักโครกก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในห้องน้ำ ไหนจะประโยคสนทนาที่มือชื่อหล่อนอยู่อีก จึงชักมือเพื่อรอฟังให้จบเสียก่อน
“คุณพลุน่ะเหรอ” ชื่อของบุคคลที่ไม่ได้พบหน้านานโผล่เข้ามา
ใบหน้าหวานหม่นลงเมื่อนึกถึงเขา คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าแฟนซึ่งสามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้เพราะชายหนุ่มเป็นลูกเจ้าของช่องในสังกัดของตน ความหวานที่แสดงออกให้คนภายนอกรับรู้ ต่างจากความจริงเป็นอย่างมาก
มันเหมือนละครฉากใหญ่ที่หล่อนต้องเล่นให้สมจริง ทั้งที่ไม่ได้รักเขาสักนิด
คบกันในนามนานถึงห้าปี เกือบจะได้จัดงานแต่งทว่าก็ต้องพังลงเสียก่อน ด้วยฝีมือของเธอเองเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก
“อือ เมียสวยหุ่นดีมาก เป็นลูกเจ้าของสนามกอล์ฟใช่ไหม รวยมากเลยนะ” ชื่นชมฝ่ายหญิงออกนอกหน้า แค่ได้ยินเสียงเธอก็ทราบแล้วว่าใคร
นักแสดงหน้าใหม่สองคนที่ไม่ค่อยชอบหน้าหล่อน ซึ่งเหตุผลก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดจากอะไร ทั้งที่ตนไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อนแท้ๆ
“คุณกริ๊งเธอน่ารัก นิสัยก็ดีไม่แปลกใจที่คบปีเดียวคุณพลุก็ขอแต่งงาน ไม่เหมือนบางคนคบมาหลายปีไม่ได้แต่งสักที” หัวเราะอย่างมีความสุข ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกดชักโครกดังมาจากห้องที่ปิดประตู
พวกหล่อนอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าคนที่เดินออกมาเป็นรุ่นพี่ในวงการที่พวกตนพูดถึงในทางเหน็บแนม ถอยกรูออกจากหน้ากระจก แทบไม่กล้าสบตาคนอายุมากกว่า ต่างจากเมื่อครู่ที่พูดเรื่องคนอื่นอย่างสนุกปากลิบลับ
พันดารามาล้างมือโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ หล่อนใจเย็นอย่างถึงที่สุด ใบหน้าเรียบสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ก่อนหันมามองสองสาวซึ่งหน้าซีดเผือด
“ทำไมไม่พูดต่อล่ะ พออยู่ต่อหน้าแล้วเป็นใบ้เลยเหรอคะ” ปากยิ้มแต่ดวงตากลับเย็นเยียบ สองสาวถึงกับปากสั่นไม่เคยเจอพันดาราโหมดนี้มาก่อน
เวลาอยู่ในกองเธอมักจะยิ้มอยู่เป็นนิจ ทำตัวร่าเริงและชอบพูดคุยกับคนอื่นจนดูน่าหมั่นไส้ในสายตาเด็กใหม่ พวกเธอคิดว่ามันเป็นเพียงภาพมายาที่อีกฝ่ายสร้างตัวตนให้เข้าถึงง่ายเท่านั้น แต่ต่อหน้าก็ยังทำเป็นชอบพันดารา
ซึ่งคนแบบนี้น่ากลัวมาก
“พวกเราแค่ แค่พูดด้วยความคึกคะนอง ไม่ได้ตั้งใจจะว่าพี่นะคะ” โดนเพื่อนกระทุ้งเข้าที่สีข้างเพื่อให้พูดอะไรสักอย่าง จึงพยายามเค้นสติและพูดปากสั่น
“ค่ะ ทราบว่าคึกคะนองเพราะถ้าพูดโดยใช้สมองคิดสักหน่อยก็คงไม่ว่าร้ายคนอื่นทั้งที่ไม่รู้ความจริงแบบนี้หรอก ขอแนะนำหน่อยนะคะ ทีหลังจะนินทาใครช่วยดูหน้าดูหลังด้วย เดี๋ยวเป็นแบบวันนี้อีก” ยกมือขึ้นกอดแล้วสั่งสอนในที
จากนั้นจึงเดินออกจากห้องน้ำปล่อยให้โอดครวญกันอยู่สองคน หล่อนไม่อยากต่อความยาวจบตรงนั้นก็คือจบ เรื่องพวกนั้นไม่ต้องอธิบายให้คนนอกฟัง แค่รู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว
และกนต์ธรที่เลิกรากันไป อาจไม่เจอบ่อยแต่ก็ยังนับถือเป็นพี่น้อง และยินดีกับชีวิตครอบครัวของชายหนุ่ม
ถ่ายละครจบก็เตรียมพร้อมกลับคอนโดมิเนียม หล่อนถือกระเป๋าเดินมาที่รถตู้ของตนด้วยใบหน้าอ่อนล้า นึกแปลกใจที่คนขับรถไม่มาเปิดประตูให้เหมือนทุกวัน แต่กลับเป็นพี่พายที่เปิดออกมาพร้อมส่งยิ้มล้อเลียนแบบมีเลศนัย
“วันนี้กลับเองนะ พี่ไปก่อนแล้ว” พูดจบก็ปิดประตูพร้อมพาหนะที่เคลื่อนออกจากสตูดิโอถ่ายทำ ดวงตากลมเบิกกว้างไม่คิดว่าจะถูกแกล้งแบบนี้
ร่างบางกำลังจะวิ่งตามและตะโกนให้รอ แต่แขนเล็กก็โดนคว้าเอาไว้เสียก่อน พอเธอหันมามองคนที่ฉายโอกาสกลับพบหนุ่มหล่อที่หายหน้าไปหลายสัปดาห์เพราะมีธุระที่ต่างประเทศ
“คุณทัพ” เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา มองรอยยิ้มหวานที่ถูกมอบให้หล่อนก่อนเลื่อนสายตามองมือซึ่งกอบกุมแขนตนเองไว้
เห็นดังนั้นเขาจึงปล่อยหล่อนเป็นอิสระ ทราบดีว่าคนตัวเล็กไม่ชอบให้ถึงเนื้อถึงตัวเท่าไหร่ แถมเธอยังเว้นระยะห่างกับเขาเสมอ แม้จะรู้จักและตามจีบมาเกือบห้าเดือน ทว่ายังไม่มีความคืบหน้าสักนิด วันแรกเป็นอย่างไร วันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
“เดี๋ยวผมไปส่งครับ ผมเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นมีของฝากคุณเยอะเลย” หาข้ออ้างเพื่ออาสาไปส่งหญิงสาวที่คอนโดมิเนียม และดูเหมือนจะเตรียมการกับผกาพรรณเป็นอย่างดี ผู้จัดการของเธอถึงได้เปิดโอกาสให้เช่นนี้
สงสัยคงต้องคิดบัญชีกับพี่พายแล้ว
“ค่ะ” เดินไปยังรถซีดานคันหรูของนักธุรกิจรูปหล่อ กองทัพ พิบูลย์ธรรม ไม่ได้มีดีแค่ชื่อเท่านั้น นอกจากหน้าตาที่ดูดี ฐานะทางบ้านก็จัดว่าอยู่ในระดับสูง เป็นตระกูลผู้ดีเก่า ครอบครัวฝ่ายบิดารับราชการมาตลอด ตอนนี้ท่านก็ขึ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการของกระทรวงใหญ่ ฝ่ายมารดาก็ประกอบธุรกิจร้านมินิมาร์ท มีแฟรนไชส์ทั่วประเทศกว่าหนึ่งร้อยแห่ง
เขาเป็นลูกชายคนกลาง ประกอบอาชีพนักธุรกิจเข้าถือหุ้นหลายบริษัท แต่ที่นั่งตำแหน่งบอร์ดบริหารและเป็นถึงรองประธานกรรมการคือบริษัทนำเข้ารถยนต์สัญชาติยุโรป และเมื่อสัปดาห์ก่อนต้องไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อเจรจาการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า
ทำให้หายหน้าหายตาไปเสียนาน ปกติมักจะมาหาหญิงสาวที่กองถ่ายตลอด เป็นการบอกกรายๆ ว่าตอนนี้ตนกำลังตามจีบดาราสาว ไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับหล่อน หรือแย่งไปเป็นอันขาด
“ของเยอะเลยนะคะ” เข้ามานั่งในรถก็มองด้านหลังที่วางของฝากหล่อนเต็มไปหมด มีทั้งขนมและรองเท้าสไตล์ที่หล่อนชอบ ซึ่งแน่นอนว่าเขารู้ไซส์ของร่างบาง ไม่ซื้อมาสุ่มสี่สุ่มห้า
“ของคุณดาวทั้งหมดเลย” มองตาค้าง ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะซื้อขนมเป็นโหลและรองเท้ากว่าห้าคู่มาให้เธอ
ผู้ชายคนนี้ใช้เงินเก่งไปหรือเปล่า เพราะแอร์เมสราคาเกือบล้านที่เขามอบให้เธอก็ยังไม่กล้านำออกมาใช้ กลัวมันพังหรือเป็นรอย เหมือนถือเงินล้านตลอดเวลา
“โอ้โห ซื้อมาทำไมขนาดนี้คะ จะให้ดาวเอาไปเก็บไว้ที่ไหน” ถึงไม่อยากรับแต่ดูท่าว่าคงต้องรับ กองทัพเล่นใหญ่เสมอ หล่อนบอกให้เขาตัดใจแล้วหาผู้หญิงที่เหมาะสมหลายรอบ แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะยังรั้น
ไม่รู้ชอบอะไรในตัวหล่อนถึงพยายามทลายกำแพงเข้ามา แต่เขาคงไม่รู้ว่ามันหนาและสูงมาก มีเพียงคนเดียวที่สามารถเข้ามาได้คือเอื้ออังกูร
“เก็บไว้บ้านผมได้นะ คุณดาวอยากใส่ก็มาเอาที่บ้านผม” หยอดเล็กน้อยหวังให้หล่อนคล้อยตาม ทว่าใบหน้าหวานกลับยกยิ้มไม่ต่อความใดๆ
ความจริงพวกเขารู้จักกันได้แค่ครึ่งปี ฝ่ายชายตามจีบหลังชอบหล่อนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจออยู่งานแต่งของคนรู้จัก เข้ามาขอเบอร์และแนะนำตัวอย่างตรงไปตรงมา บอกชอบไม่อ้อมค้อมขณะที่ร่างบางก็ปฏิเสธเขาทันที
ทว่าความพยายามของกองทัพเป็นเลิศจนต้องปรบมือให้ ทั้งเข้าทางผู้จัดการ มาหาอยู่กองก็อำนวยความสะดวกทุกอย่าง บางครั้งเลี้ยงอาหารทะเลราคาแพง สั่งอาหารอิตาเลี่ยนมาให้คนทั้งกองจนกลายเป็นขวัญใจ
และข่าวที่หนุ่มนักธุรกิจตามจีบหล่อนก็ลงหน้าหนังสือพิมพ์และทุกแฟนเพจของสำนักข่าว พันดารายังคงปฏิเสธและตอบว่าเป็นเพียงเพื่อนที่ดีเท่านั้น ไม่มีการพัฒนาความสัมพันธ์ แต่ทุกคนก็ลุ้นให้ลงเอย
สมัยนี้คบใครก็ไม่ต้องมานั่งปิดบังแล้ว เธอนึกย้อนไปเมื่อก่อนตอนคบเอื้ออังกูร ไปไหนด้วยกันก็ต้องรอให้ดึก วันหยุดอยู่ห้องไม่ออกไปไหนกลัวเป็นข่าว จะไปเที่ยวแต่ละทีปิดหน้าปิดตากลัวคนจำได้ แต่ก็ยังคบมาได้ถึงห้าปี
จนต้องเลิกรา...ก็ยังไม่สามารถลบชายหนุ่มออกจากใจ
“สัปดาห์หน้าคุณดาวไปถ่ายละครที่ยูทีแอลที-มีใช่ไหมครับ” ระหว่างทางกลับบ้านก็หันมาถามแล้วกลับไปมองถนน
“ใช่ค่ะ” ตารางงานของเธอเหมือนไม่เป็นความลับสำหรับกองทัพ เชื่อว่าพี่พายต้องเป็นคนบอกแน่นอน ในเมื่ออีกฝ่ายเชียร์หนุ่มนักธุรกิจอย่างออกนอกหน้าเสียขนาดนั้น
“พอดีเลย บริษัทผมอยู่แถวนั้นตอนเที่ยงจะได้ไปหาคุณทุกวัน” คิดแผนเอาไว้เรียบร้อย ชายหนุ่มยิ้มมีความสุขที่จะได้เจอหน้าหล่อนทุกวัน แต่กลายเป็นคนตัวเล็กที่เริ่มอึดอัดกับการรุกล้ำมากเกินไปของเขา
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ดาวมาทำงานนะคะ” เสียงเรียบบ่งบอกให้รู้ว่าไม่ใคร่พอใจเท่าไหร่ เขาจึงต้องรีบเปลี่ยนแผนการเพื่อเอาใจหล่อน
“ถ้างั้นเปลี่ยนเป็นวันเว้นวันก็ได้ครับ” ยังไงก็คงห้ามไม่ได้ สุดท้ายถึงต้องปล่อยเลยตามเลย
กองทัพมาส่งเธอที่หน้าคอนโดมิเนียม อยากขึ้นไปบนห้องใจจะขาดแต่ไม่เคยได้ขึ้นไปสักครั้ง หล่อนขอร้องให้ทางคอนโดช่วยนำของไปไว้บนห้องซึ่งทุกคนก็ยินดีทำตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะหล่อนมีน้ำใจและมักนำของมาฝากเสมอยามไปต่างประเทศ
ทุกคนจึงรักใคร่พันดาราเป็นอย่างมาก ถึงขนาดไม่ยอมให้ใครมาว่าร้ายลูกบ้านคนนี้ได้
นักธุรกิจหนุ่มมองตามอย่างเสียดาย เขาถอนหายใจที่ไม่อาจครอบครองหัวใจหล่อนได้สักที นึกสงสัยว่าพันดารายังไม่ลืมรักครั้งเก่า และฝังใจกับกนต์ธร แม้ฝ่ายชายจะแต่งงานมีภรรยาแล้วก็ตาม
ทำยังไงเขาถึงจะเอาชนะผู้ชายที่ครอบครองหัวใจของเธอได้...