บทย่อ
เมื่อเขากำลังจะเริ่มต้นใหม่ อดีตที่เจ็บปวดก็จู่โจมพร้อมการปรากฎตัวของผู้หญิงที่น่าชัง
บทนำ
บทนำ
ร่างสูงเดินกะเผลกไปที่ห้องครัว แล้วหยิบน้ำส้มของโปรดคนรักออกมาจากตู้เย็น ค่อยรินใส่แก้วอย่างระมัดระวังไม่ให้มันหก เพราะตอนนี้แขนข้างที่ถนัดอย่างด้านขวาใส่เฝือก ทั้งยังต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเพราะขาด้านซ้ายก็ถูกหลอมไว้ด้วยปูนสีขาวเช่นเดียวกัน
เอื้ออังกูร กันต์ธนิน วิศวกรโยธาที่เรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้สองปี เข้าทำงานยังบริษัทก่อสร้างระดับประเทศด้วยคะแนนสูงสุด ไม่น่าเชื่อว่าเด็กจบใหม่และไม่มีประสบการณ์จะได้ทำงานในทีมระดับหัวกะทิของบริษัท
เมื่อรินน้ำลงแก้วเรียบร้อยก็ค่อยถือด้วยมือด้านซ้ายไปให้แฟนสาวที่นั่งรออยู่ห้องรับแขก บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างจากทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน
หญิงตรงหน้าคือพันดารา ศาสตร์สินชัย รุ่นน้องร่วมมหาวิทยาลัยและที่สำคัญเป็นแฟนของเขาซึ่งคบมาได้ห้าปีแล้ว โดยแทบไม่มีใครรู้เลยด้วยซ้ำนอกจากเพื่อนสนิท เหตุผลก็เพราะฝ่ายหญิงเป็นดาราค่อนข้างมีชื่อเสียง ทางผู้ใหญ่จึงกำชับไม่ให้เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ กลัวคะแนนนิยมจะตก อีกทั้งช่วงนี้อยากให้เป็นคู่ขวัญกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เพิ่งเข้าวงการมาใหม่
ถึงไม่อยากยอมรับแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะหญิงสาวยังคงแสนดีต่อเขาเช่นเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนใจ
จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อนเขาประสบอุบัติเหตุ และพันดาราไม่เคยไปเยี่ยมเลยตลอดช่วงเวลาที่ชายหนุ่มรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ถึงจะเฝ้าคอยทุกวัน มองประตูตลอดเวลาภาวนาให้เป็นแฟนสาวเดินส่งยิ้มเข้ามาถามไถ่
แต่เขาคงหวังมากเกินไป...
“น้ำที่ดาวชอบ” นั่งที่โซฟาเยื้องกับหล่อน ปกติเขามักจะเดินไปนั่งลงข้างกายเล็ก โอบกอดเอาไว้ด้วยความรัก
ทว่าวันนี้กลับแปลกออกไป อาจเพราะรับรู้ได้ถึงทางตันของความสัมพันธ์ ซึ่งมันไม่ได้เกิดจากเขาเพราะทั้งหัวใจของเอื้ออังกูรยังมีหล่อนจับจองอยู่เต็มไปหมด
วันแรกรักอย่างไร วันนี้ก็ยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง
“อาการบาดเจ็บของพี่เป็นยังไงบ้าง” ยกแก้วขึ้นดื่มแล้วมองไปที่ขาและแขนที่ถูกพันด้วยปูนแข็ง เสหลบไปทางอื่นก่อนจะกลืนน้ำอึกใหญ่
“ดีขึ้นแล้วล่ะ ช่วงนี้ดาวยุ่งใช่ไหม” บอกตามความจริง เพราะช่วงแรกเขาเจ็บหนัก ต้องกายภาพอยู่โรงพยาบาลหลายวันถึงกลับมาที่คอนโดได้ ต้องทำงานอยู่ที่บ้านและติดต่อเพื่อนร่วมงานผ่านวิดีโอ ปรับเปลี่ยนชีวิตเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์
เขาคงจะไม่รู้สึกหนักอึ้งขนาดนี้ถ้ามีคนรักอยู่ข้างกาย เมื่อก่อนเอื้ออังกูรไม่เคยคิดน้อยใจกับชีวิตรัก แต่เมื่อได้รับบาดเจ็บก็แอบหวังว่าหล่อนจะมาดูแล
พันดาราเริ่มอาชีพนักแสดงตั้งแต่ยังเด็ก เธอสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยเพราะครอบครัวก็ทำงานด้านนี้ทำให้ได้คลุกคลีจนหลงใหลในศาสตร์การแสดง
เข้าเรียนมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาที่นำไปสู่ความฝัน เพื่อต่อยอดให้ฝีมือพัฒนามากกว่าเดิม จนได้พบรุ่นพี่ต่างคณะอย่างเอื้ออังกูร หล่อนหลงรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น และคบกันมาจนถึงปัจจุบัน ระยะเวลาไม่น้อยเลย
“ค่ะ ถ่ายละครหนัก” ตอบเสียงเบาแล้ววางแก้วน้ำที่ดื่มจนหมดลงบนโต๊ะ
ความเงียบคืบคลานมาอีกครั้งทั้งที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง การหายหน้ากว่าสองเดือนของหล่อนทำให้เกิดคำถามในใจของวิศวกรหนุ่มมากมาย แต่ไม่กล้าถามเพราะกลัวคำตอบ
“มีอะไรจะบอกพี่หรือเปล่า” เอ่ยเสียงสั่นเครือ ดวงตาคมแดงก่ำเหมือนรู้ชะตากรรมตัวเองตั้งแต่เห็นข่าวระหว่างคนรักกับลูกชายเจ้าของช่องที่เธออยู่ในสังกัด
ว้าวุ่นกระวนกระวายอยู่หลายวัน คิดว่ามันเป็นเพียงข่าวโคมลอยเหมือนที่เคยเจอตลอดหลายปีที่คบกับเธอ พันดารารักเขาจะตายไม่มีทางคบซ้อนหรอก
“เราเลิกกันเถอะค่ะ” ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนั้นเร็วขนาดนี้ ช่วงเวลาห้าปีที่คบกันมันไม่ใช่น้อยเลย ผ่านความยากลำบากและทะเลาะมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาไม่คิดจะปล่อยมือหญิงสาว ทั้งยังแอบเตรียมของเซอร์ไพรส์วันครบรอบเป็นแฟนกันอีกต่างหาก
ทว่าทุกอย่างก็ต้องพังลงชั่วพริบตา เอื้ออังกูรก้มมองพื้นอย่างคิดไม่ตก หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้วค่อยเคลื่อนกลับมาตำแหน่งเดิม มันเต้นช้าลงเหมือนคนกำลังจะหมดลมหายใจ ขบกรามแน่นระงับโทสะ ก่อนตัดสินใจคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าเธอ
“ไม่เลิกได้ไหม พี่รักดาว พี่ไม่อยากเสียดาวไป” กล่าวเสียงสั่นเครือ ถึงเฝือกที่ใส่จะไม่เอื้ออำนวย แต่เขาทุ่มสุดตัวเพียงแค่รั้งคนรักให้อยู่ข้างกาย
ดวงตากลมกลับเมินไปอีกทาง ไม่แม้แต่จะหันมามองใบหน้าที่เคยชื่นชมอยู่ทุกวัน ความรักที่มีให้กันมันจืดจางไปหมดแล้วเหรอ
“อยู่กับพี่ดาวได้อะไรบ้าง ความก้าวหน้าในชีวิตเหรอ พี่สนับสนุนอะไรดาวได้บ้าง ดาวเบื่อแล้วพี่เอื้อ ดาวไม่อยากอยู่แบบนี้แล้ว เราเลิกกันเถอะนะ อย่าทำให้ดาวอึดอัดใจไปมากกว่านี้เลย” ร่ายยาวแล้วลุกจากโซฟาเดินห่างเขา
ดวงหน้าแดงก่ำจากการดึงอารมณ์โกรธมาใช้ต่อว่าร่างสูง หล่อนถอนหายใจพลางยกมือขึ้นเสยผมยาวที่ปล่อยเหยียดตรง
ประโยคเมื่อสักครู่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะออกมาจากปากของคนรัก ร่างหนายังคงนั่งอยู่ที่เดิมแล้วเงยมองนักแสดงสาวที่ยืนห่างออกไป เธอยกมือขึ้นกอดอกเอาไว้แล้วกวาดสายตามองรอบห้องเหมือนจะหาสิ่งแปลกปลอม
“ไหนๆ ดาวก็มาแล้ว ขอเก็บของตัวเองออกไปด้วยเลยแล้วกัน” จุกจนพูดไม่ออกเป็นแบบนี้เอง เขารักและทะนุถนอมเธอมากจนไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง
เอื้ออังกูรยอมหญิงสาวทุกอย่างถึงจะเป็นเพียงคนในเงามืด ไม่สามารถแสดงตัวตนได้ว่ากำลังคบกับเธอ ออกไปเดินข้างนอกด้วยกันก็ต้องปิดหน้าปิดตา แถมยังต้องดูกระแสคู่จิ้นของแฟนกับชายอื่น มันเจ็บทุกครั้งแต่ทำอะไรไม่ได้
“ไม่ไปได้ไหม พี่รักดาว” ยืนขึ้นแล้วไปกอดเธอจากทางด้านหลัง อ้อนวอนเสียงแหบพร่า น้ำตาไหลลงมาช้าๆ เขาไม่เคยร้องไห้สักครั้ง แต่คราวนี้ไม่สามารถทนไหว
หมดซึ่งศักดิ์ศรียอมทุกอย่างเพื่อให้หล่อนอยู่เคียงข้าง กอดหญิงสาวเอาไว้แน่นไม่อยากให้เธอไปไหน ขณะที่หญิงสาวเองก็หัวใจสลายเช่นเดียวกัน เธอกัดปากตัวเองแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น จิกมือกับขาจนเป็นรอย บอกตัวเองห้ามหันไปกอดตอบเด็ดขาด
“ดาวมีคนใหม่แล้ว พี่ปล่อยดาวไปเถอะ” กลั้นใจบอกกับเขา ทำให้เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเอื้ออังกูรแทบหมดลง
มือหนาค่อยปล่อยลงข้างลำตัวอย่างช้าๆ ถอยออกห่างหล่อนจนหญิงสาวหันกลับมามอง เขาเห็นดวงตากลมแดงก่ำก่อนที่น้ำตาจะไหลเปื้อนกรอบหน้าหวาน
“ดาวรักเขา ขอโทษนะพี่เอื้อ ขอโทษจริงๆ” หัวใจของเธอที่เคยมีเขาครอบครอง ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างนั้นเหรอ
วิศวกรหนุ่มหายใจแทบไม่ออก ตลอดระยะเวลาห้าปีเขาทุ่มเทให้เธอทุกอย่าง จากคนเย็นชาและเมินเฉยกับความรัก กลายเป็นหนุ่มอ่อนโยนอ่อนหวานจนแทบเป็นคนละคนกับเอื้ออังกูรเจ้าของฉายาว๊ากเกอร์ประจำคณะ
เพราะผู้หญิงคนเดียวที่ชื่อพันดารา
“ดาว..” หล่อนเม้มปากแน่น ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าจนหมด
“ของที่อยู่ห้องพี่ดาวคงไม่เก็บแล้วล่ะ พี่จะเอาไปทิ้งเลยก็ได้นะ ดาวขอตัว หวังว่าพี่จะหายจากอาการเจ็บเร็วๆ” รีบเดินไปหยิบกระเป๋าที่โซฟาแล้วออกจากห้องทันที กลัวว่าถ้าช้ากว่านี้จะเปลี่ยนหันกลับไปกอดร่างหนาเอาไว้
เจ้าของห้องมองแฟนสาวที่เดินออกจากห้อง ประตูปิดลงเหมือนหัวใจเขาที่กำลังจะดับ ร่างกายอ่อนแรงจนต้องเดินลากขาไปนั่งที่โซฟาอย่างเหม่อลอย ทุกอย่างมันรวดเร็วจนเขาประติดประต่อแทบไม่ได้
คนรักมาบอกเลิก เพราะตอนนี้รักคนอื่น...
ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้กับชะตาความรักของตนเอง ทั้งที่ทุ่มเทหมดหัวใจ รักหล่อนคนเดียวมาตลอดระยะเวลาห้าปี แต่กลับถูกสวมเขาเสียได้
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอปันใจให้ชายอื่น นานแค่ไหนที่คนอย่างเอื้ออังกูรถูกสวมเขา วิศวกรหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในห้องสี่เหลี่ยม โยนของทั้งหมดระบายอารมณ์เสียใจและโกรธจนห้องเละ แต่ทำไมความเจ็บปวดถึงไม่จางหายสักที
ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะลืมพันดาราได้ ผู้หญิงคนนั้นไม่ควรค่าให้เขาจดจำด้วยซ้ำ
ประตูรถถูกเปิดและปิดลงในเวลาอันรวดเร็ว หญิงสาวนั่งอยู่เบาะหลังข้างมารดาที่รอคอยหลายนาทีจนคิดจะขึ้นไปตาม ท่านยกยิ้มเมื่อเห็นบุตรสาวเพียงคนเดียว กำลังจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้แต่กลับถูกปัดออกทันที
“หนูเลิกกับพี่เอื้อตามคำสั่งแม่แล้ว ต่อไปนี้ห้ามยุ่งกับเขาอีก” บอกเสียงสั่นเครือ รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ได้แต่กำมือตัวเองเอาไว้แน่นไม่ให้แผดร้องเสียงดัง กัดปากที่สั่นเครือ กระบอกตาร้อนผ่าวก่อนน้ำสีใสจะไหลออกมาไม่หยุด
“ถ้าแกสัญญาว่าต่อจากนี้จะไม่ยุ่งกับเขา แม่ก็จะไม่เข้าไปยุ่งด้วย แกยังเด็กอีกไม่นานก็ได้เจอคนที่ดี อย่างพี่พลุไง” มารดาพูดอะไรหล่อนไม่ได้ยินอีกแล้ว หญิงสาวร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เสียใจกับรักครั้งแรกที่ปล่อยให้หลุดมือไป
ห้าปีที่อยู่กับเอื้ออังกูรไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะไม่รักเขา หล่อนยังรักชายหนุ่มสุดหัวใจแต่ไม่อาจให้อีกฝ่ายมาเสี่ยงอันตรายได้อีก
ถึงจะเจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทน เพราะหล่อนได้เลือกเดินในเส้นทางนี้แล้ว