บท
ตั้งค่า

๒ คนเคยเจ็บก็ต้องจำ (๑)

คนเคยเจ็บก็ต้องจำ

พอเห็นว่าเป็นคนกันเองคุณวิบูลย์ก็ถามไถ่ก่อนผายมือเชิญวิศวกรหนุ่มให้นั่งลงที่โซฟาตัวยาว ซึ่งตรงข้ามกับดาราสาวคนสวย ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้านับยี่สิบตัว และดูท่าจะเพิ่มมากกว่าเดิม แถมยังละครที่จ่อฉายลงจอโดยถูกคาดหวังว่าจะโด่งดังเหมือนเรื่องที่ผ่านมา

ไม่เจอกัน 8 ปีเธอพัฒนาไปค่อนข้างมาก เส้นสายในมือคงใหญ่พอสมควรจึงดันพันดาราให้รุดก้าวหน้าขนาดนี้

ร่างสูงจำต้องนั่งลงตรงข้ามหล่อน กำมือแน่นระงับอารมณ์โมโหและพยายามทำสีหน้าเรียบเฉย แต่ใบหน้าเขาก็เป็นแบบนี้ปกติอยู่แล้ว ใครเห็นก็ต่างเกรงกลัวทั้งนั้น มาดเหมือนนักบริหารมากกว่าวิศวกรเสียอีก

“ดีนะเหมือนพี่น้องร่วมสถาบันได้มาพบกัน เที่ยงนี้มีนัดหรือยังไปทานข้าวด้วยกันสิ” หันมองสองหนุ่มสาว พันดาราได้ยินเช่นนั้นก็ฉีกยิ้มกว้าง หล่อนกำลังจะเอ่ยปากตอบตกลงแต่คนตรงข้ามกลับปฏิเสธเสียงแข็ง

“ผมต้องไปดูไซต์งาน คงไม่ว่างไปด้วยครับ” นำเรื่องงานมาอ้าง ทว่ามันก็เป็นความจริงเพราะเขายังไม่ค่อยไว้ใจกฤติน อยากไปดูหน้างานด้วยตนเองมากกว่า

เอื้ออังกูรเป็นคนประเภทเพอร์เฟคชั่นนิสหรือรักความสมบูรณ์แบบ บางทีคนทำงานร่วมด้วยก็ลำบาก เพราะเขาไม่ปล่อยให้ผ่านถ้ายังไม่ดีพอ แต่ก็ต้องยอมรับในฝีมือของหนุ่มผู้นี้เพราะสร้างผลงานนับไม่ถ้วน

ยิ่งถ้าเขาอยู่เมืองหลวงตั้งแต่แรก ไม่เลือกไปลงบริษัทลูกที่ต่างจังหวัดอาจก้าวหน้าจนได้เป็นหัวหน้าทีมด้วยซ้ำ ทว่าเพราะเหตุผลกลใดก็ไม่อาจทราบ นอกจากขอทุนไปต่างประเทศยังทำเรื่องย้ายไปต่างจังหวัดอีก

เหมือนต้องการหนีจากเมืองหลวง...

พันดาราหน้าม่าน ถึงกับพูดไม่ออกได้แต่ยิ้มเจื่อน หล่อนพยายามมองเขาเพื่อให้อีกฝ่ายหันมาสบตากันบ้าง แต่ไม่เป็นผลเพราะชายหนุ่มแทบไม่เห็นเธอในสายตา มองเลยผ่านทั้งที่ห่างกันไม่ถึงเมตรด้วยซ้ำ

แอบน้อยใจแต่ก็รู้ว่าไม่มีสิทธิ์ ถึงในอดีตเธอจะเป็นคนรักแต่ตอนนี้เราเป็นแค่คนรู้จักกัน ตนไม่ใช่น้องดาวของพี่เอื้ออีกต่อไป

“ให้คนอื่นไปดูก็ได้ ไหนๆ คุณดาวก็ว่างแล้วโอกาสแบบนี้ไม่มีมาบ่อยนะ ดาราดังจะมาร่วมโต๊ะด้วยเนี่ย จริงไหมครับ” หันมาถามความเห็น แต่หล่อนไม่รู้จะตอบเช่นไรจึงเลือกหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วค่อยปฏิเสธ

“ไม่หรอกค่ะ ยังไงเราก็ต้องได้เจอกันอีกบ่อยแน่ เดี๋ยวสัปดาห์หน้าดาวก็ต้องมาถ่ายละครที่นี่” ข้อมูลนั้นทำเอาร่างสูงถึงกับกำหมัดแน่นกว่าเดิม แค่เจอวันนี้เขาก็รู้สึกอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว ถ้าเจอกันอีกคงได้ปะทะฝีปากกับเธอแน่

ความรักครั้งเก่ามันถูกฝังตายไปแล้ว ถึงจะจำไม่ลืมแต่ก็ไม่อยากกลับเข้าไปเกี่ยวข้องกับหล่อนอีก ยังจำวินาทีที่ถูกบอกเลิกได้เป็นอย่างดี

วันที่เขาบาดเจ็บพันดารากลับเลือกทิ้งไปไม่ไยดี ไม่กี่วันต่อมาก็มีข่าวว่าหญิงสาวคบกับลูกชายเจ้าของช่องโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ เข้าใจอย่างท่องแท้ว่าการเลิกกับคนเก่าเพื่อเลือกคนที่ดีกว่าเป็นอย่างไร

พันดาราพิสูจน์ให้เขาได้เห็นแล้ว

“จริงด้วย ผมเกือบลืมธุระไปเลย ที่เรียกนายมาวันนี้ว่าจะฝากฝังคุณดาวให้ไปเรียนรู้ไซต์งานกับนายหน่อย พอดีเขาถ่ายละครแสดงเป็นวิศวกรเลยอยากมาศึกษาชีวิตของพวกเราก่อนการถ่ายทำ” หันไปบอกลูกน้องของตน

ท่านประธานเอ่ยขนาดนี้คนใต้อาณัติมีหรือจะสามารถปฏิเสธได้ ดวงหน้าคมเคร่งขรึมกว่าเดิม ดวงตาเรียวเหมือนมีประกายเพลิงอยู่ข้างใน ยามจ้องมองพันดาราที่นั่งตรงข้าม เล่นเอาหล่อนถึงกับไม่กล้าสบตา

ละครเรื่องนี้ถ่ายทำไปเกินครึ่ง และเธอก็สวมบทบาทวิศวกรได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด แต่เมื่อรู้ข่าวของเขาและประจวบเหมาะกับการได้มาถ่ายทำที่ตึกใหญ่ จึงใช้ข้ออ้างนี้เพื่อใกล้ชิดเอื้ออังกูร

แม้จะดูเป็นผู้หญิงเห็นแก่ตัว เคยทิ้งเขาไปไม่ไยดีแต่พอจะกลับมาก็ใช้เส้นสายทุกอย่างที่ตนมีรั้งให้ร่างสูงอยู่ข้างกาย

“ผมเกรงว่าจะไม่ได้ ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง” เขาไม่ได้พูดเกินจริงเพราะชายหนุ่มดูแลอยู่สามโครงการ ทั้งสร้างห้องสมุดของภาครัฐที่เร่งดำเนินการจนแล้วเสร็จไปประมาณห้าสิบเปอร์เซ็น บ้านจัดสรรพื้นที่จำกัดแต่ต้องการความหรูหรา และโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางกรุง ซึ่งสองโครงการหลังเพิ่งเริ่มขึ้นโครง และมีงบประมาณบางส่วนที่ต้องแก้ไข

เขาไม่สามารถแบ่งเวลามาดูแลใครได้ โดยเฉพาะคนที่ตนเกลียด

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมให้คนอื่นช่วย อีกอย่างคุณดาวก็ไม่ได้รบกวนมากด้วยแค่ขอไปดูไซต์งานสักสองสามวันเท่านั้นเอง ใช่ไหมครับ” พันดาราพยักหน้า หล่อนไม่ได้อยากรบกวนเขามากกว่านี้ แค่ต้องการใกล้ชิดเพื่อรื้อฟื้นความหลัง

เธออยากบอกเขาเรื่องในอดีตว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตนก็ไม่ต้องการให้ลงเอยที่การร้างลา ทว่าทุกอย่างมันบีบบังคับจนต้องตัดสินใจทำเช่นนั้น

เพราะไม่อยากสูญเสียเขาไปตลอดกาล

“ใช่ค่ะ ดาวรบกวนไม่นาน” มองตรงไปยังคนที่นั่งตรงข้าม ดวงตากลมเว้าวอนโดยที่วิศวกรหนุ่มแสยะยิ้มมุมปาก เห็นธาตุแท้ร่างบางตั้งแต่แปดปีก่อน หล่อนไม่ต้องแสดงละครตลอดเวลาก็ได้

ถ้าต้องการอย่างนั้นจริงทำไมไม่เดินมาบอก กลับเข้าทางประธานบริษัทที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องบีบบังคับให้เขาทำตาม สุดท้ายก็จบด้วยการที่หล่อนเป็นฝ่ายเหนือกว่า

เวลาช่วยให้หญิงสาวเก่งมากกว่าเดิม ใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่นเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา เขาน่าจะมองออกตั้งนานแล้ว

“ได้ครับ” พันดาราฉีกยิ้มกว้างไม่ปิดบังความดีใจ จนคนสนิทที่มาด้วยต้องกระทุ้งเข้าที่สีข้างบอกให้เก็บอาการหน่อย ดวงตากลมแทบจะเป็นประกายสร้างความขัดใจให้แก่เอื้ออังกูร

สุดท้ายเขาก็ต้องพ่ายแพ้เหมือนเดิม

“ถ้าอย่างนั้นขอเบอร์โทรไว้ติดต่อหน่อยนะคะ ถ้าวันไหนพี่เอื้อสะดวกให้ดาวไปด้วย จะได้ไลน์หากันได้” ดวงหน้าคมผินมามองคนนั่งตรงข้าม หลังจากเมินหล่อนอยู่นาน เขาแทบจะขยี้เธอให้แหลกทั้งที่อีกฝ่ายยิ้มหวานให้

พันดาราค่อยหุบยิ้มลงเมื่อเห็นเช่นนั้น แต่ก็ยังพยายามฝืนยกยิ้มทั้งที่รู้ว่าถูกเกลียดมากแค่ไหน น้ำตาคลอเบ้ารู้สึกสะเทือนใจที่กลายเป็นคนน่ารังเกียจสำหรับเขา

“ดีเหมือนกัน ยังไงก็เป็นพี่น้องร่วมสถาบัน แลกเบอร์กันไว้สิ” ร่างสูงแทบถอนหายใจเสียงดัง แต่ยังรักษามารยาทด้วยการบอกเบอร์โทรสิบหลัก

“098…. ผมสะดวกรับโทรศัพท์แค่เก้าโมงครึ่งถึงสิบโมง หลังจากนั้นไม่สะดวก ขอตัวนะครับ” พูดเร็วจนจดแทบไม่ทัน แล้วหันไปค้อมศีรษะให้ท่านประธาน ก้าวขาออกจากห้องอย่างรวดเร็วแล้วปิดประตูเสียงเบา

เล่นเอาคุณวิบูลย์สงสัยในความสนิทของคนทั้งสอง ทำไมพันดาราทำเหมือนรู้จักแต่เอื้ออังกูรกลับตั้งกำแพงสูง หรือเคยมีเรื่องให้หมางใจกัน

ร่างบางผ่อนลมหายใจเสียงเบา พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วหันมายิ้มให้ท่านประธานบริษัท หล่อนคุยกับเขาอีกพักใหญ่ค่อยขอตัวเพราะมีคิวถ่ายละคร

ระหว่างทางเดินลงมาข้างล่างก็ส่งยิ้มให้คนที่มองมา พร้อมขาที่ก้าวยาวเพื่อออกจากบริษัทให้เร็วที่สุดก่อนน้ำตาจะไหลนองหน้า เมื่อขึ้นนั่งบนรถหล่อนก็เหมือนก๊อกแตก ร้องไห้สะอื้นตัวโยนจนผู้จัดการทำได้เพียงส่งกระดาษทิชชู่ให้ซับน้ำตา

รถเคลื่อนไปโดยไม่มีใครเอ่ยออกมาสักคำ มีเพียงเสียงร้องไห้ของดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ หัวใจเจ็บปวดเหมือนถูกบีบ แสบตาคัดจมูกไปหมด จนต้องบอกตัวเองให้หยุดร้องเพราะมีงานต้องทำ ถ้าใครเห็นสภาพตอนนี้คงได้เอาไปตีความต่างๆ นานา

สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่ยิ่งคิดถึงใบหน้าคมที่แสนเย็นชา ดวงตาเรียวหมางเมินและมองหล่อนเหมือนอากาศธาตุน้ำสีใสก็คลอเบ้าเหมือนเดิมจนไม่อาจห้ามได้

ถ้าคนทั้งโลกเกลียดเธอทนได้ แต่ถ้าเขาเกลียด...เธอทนไม่ได้หรอก

ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงพักกอง นางเอกของเรื่องก็นั่งมองโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นแต่ไม่กล้ากดโทรออกสักที หลายคนเดินผ่านไปมาก็สงสัยกับอาการเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวประหม่า ชักเริ่มอยากรู้ว่าเกิดอะไรกับสาวเจ้าจึงมีอาการแปลกเช่นนั้น

“ดาวไม่กินข้าวเหรอ” ร่างสูงเดินเข้ามาทัก เขาเป็นพระเอกของเรื่องที่เข้าคู่กันครั้งแรก ฝ่ายชายค่อนข้างสุภาพและให้เกียรติหล่อน อีกอย่างเขามีคนรักอยู่แล้วจึงไม่ค่อยแฟนคลับเชียร์ให้รักกันนอกจอเหมือนวาดนทีซึ่งเป็นคู่ขวัญ

ใบหน้าหวานเงยหน้ามองคนพูด แล้วยิ้มให้เขาก่อนส่ายศีรษะ หล่อนไม่ค่อยหิวเพราะในฉากกินไปเยอะมาก มีฉากกินข้าวเมื่อไหร่หล่อนต้องโดนเอ็ดทุกที เผลอหยิบของประกอบฉากเข้าปากตลอด

“อิ่มแล้วพี่นุ ในฉากดาวกินตั้งเยอะ” หัวเราะเมื่อนึกได้ว่าหล่อนกินข้าวไปแล้ว แถมยังเบิ้ลสองจานอีกต่างหาก ทำเอาแม่ครัวเอ็นดูในความช่างกินแต่ไม่อ้วนของพันดารา

ไม่รู้เลยว่ากว่าจะได้หุ้นแบบนี้ต้องเหนื่อยแค่ไหน ควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายสม่ำเสมอ เมื่อก่อนยังจำกัดอาหารแต่ตอนนี้ไม่สามารถทนต่อความอร่อยของแป้งได้ บางวันกินเค้กคนเดียวหนึ่งปอนด์แล้วต้องวิ่งเป็นสิบกิโลเหงื่อแตกพลั่กเพื่อชดใช้กรรม

ถึงจะผอมแค่ไหนแต่ก็ยังดูมีน้ำมีนวลเพราะทรวงอกค่อนข้างใหญ่กว่าขนาดตัว เธอไม่สามารถใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นแล้วไม่ดูโป๊ได้เลย แค่สายเดี่ยวคนก็มองตาเป็นมันจนเลือกใส่เสื้อผ้ามิดชิด

การแต่งตัวของพันดารายามออกไปข้างนอกเวลาว่างจึงไม่ค่อยเปิดเนื้อหนังมังสาเท่าไหร่ ต่างจากยามทำงาน

เมื่อสามเดือนก่อนเธอเพิ่งถ่ายชุดว่ายน้ำขึ้นปกนิตยสารชื่อดัง คนแห่ซื้อเพียบจนหมดภายในวันเดียว ต้องสั่งพิมพ์เพิ่มยอดขายถล่มทลาย หลายคนรอเวลานี้มานานพอหล่อนตอบตกลงใส่ชุดน้อยชิ้นก็ต้องเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย

คุยกันสักครู่ฝ่ายชายก็ขอตัวไปโทรศัพท์หาแฟน หล่อนจึงกลับมาจดจ่อกับเบอร์ตรงหน้าอีกครั้ง เขาระบุเวลาในการโทรชัดเจนแต่หญิงสาวก็ขอขัดคำสั่งหน่อยแล้วกัน

สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกแล้วกดโทรออกทันที เธอไม่อยากส่งข้อความเพราะกลัวปวดใจถ้าเขาอ่านแล้วไม่ยอมตอบ ตอนจีบครั้งเป็นนักศึกษามหา’ลัยยังไม่ยากเท่านี้เลย แค่มองตาเอื้ออังกูรก็เดินตามแล้ว

‘สวัสดีครับ’ ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความดีใจเมื่อเขารับสายเร็วกว่าที่คิด กัดปากไม่ให้หลุดเสียงกรี๊ดแล้วจิกขาตัวเองเอาไว้ มือสั่นไปหมดจนต้องบอกให้ตัวเองระงับอารมณ์ แล้วรีบตอบก่อนอีกฝ่ายจะวางสาย

“พี่เอื้อคะ ดาวเองนะคะ ดาวอยากถามว่าพรุ่งนี้พี่ไปไซต์งานไหมคะ ดาวอยากขอตามไปด้วย” พอพูดจบก็ต้องมาลุ้นกับคำตอบ ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งแต่คนรอกลั้นหายใจแล้วกลัวว่าจะถูกตัดสาย

‘ไป เจอกันหน้าบริษัทเจ็ดโมง’ แทบกระโดดโลดเต้นแต่ยังดีที่ยั้งตัวเองไว้ทัน เธอฉีกยิ้มกว้างมีความสุขแล้วกำลังจะตอบตกลง

แต่ไม่ทันเพราะเขาวางสายไปแล้ว...

กลายเป็นว่าหล่อนอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้เสียใจเท่าไหร่เพราะอย่างไรพรุ่งนี้ก็จะได้เจอเขา อยู่ด้วยกันสองคนและมีเวลาพูดคุยมากกว่านี้

พันดารามีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หล่อนหัวเราะจนคนเดินผ่านหันมามองด้วยความตกใจ ทว่าเธอก็ไม่แคร์ยังคงเปล่งเสียงหัวเราะเช่นนั้นค่อยเดินไปเข้าฉากเศร้าที่ต้องร้องไห้จนตาบวมตลอดช่วงบ่ายไปถึงเย็น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel